คนรุ่นใหม่มองเงินสำคัญที่สุด ไม่เน้นติดหรู แต่เน้นอยู่รอด ซื้อแค่สิ่งจำเป็น ออมให้เป็นนิสัย

Personal Finance

Financial Planning

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

คนรุ่นใหม่มองเงินสำคัญที่สุด ไม่เน้นติดหรู แต่เน้นอยู่รอด ซื้อแค่สิ่งจำเป็น ออมให้เป็นนิสัย

Date Time: 9 มิ.ย. 2568 10:24 น.

Video

ถอดรหัส TISA บัญชีออมหุ้นลดหย่อนภาษี | Money Issue EP.38

Summary

ในยุคที่เศรษฐกิจไม่แน่นอน คนรุ่นใหม่เริ่มให้ความสำคัญกับการออมเงินมากขึ้น และมองว่าความหรูหราสำคัญน้อยกว่าความมั่นคงทางการเงิน โดยตั้งเป้าเก็บเงินสำรองสำหรับค่าใช้จ่าย 3-6 เดือนเผื่อกรณีฉุกเฉิน เพราะการมีเงินสำรองเก็บไว้คือสิ่งที่จะช่วยให้ชีวิตดีขึ้นและลดความเครียดของคนรุ่นใหม่ได้

Latest


ในยุคที่เศรษฐกิจมีความผันผวนและไม่แน่นอนแบบนี้ คงปฏิเสธไม่ได้ว่าการ "ออมเงิน" เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในมุมมองของคนรุ่นใหม่ที่ต้องเผชิญกับความเครียดด้านการเงินที่คอยกดดันให้ต้องใช้จ่ายอย่างประหยัดและต้องวางแผนการเงินอยู่เสมอ

จากผลสำรวจของ Intuit พบว่า 59% ของ Gen Z ในอเมริกา มองบัญชีออมทรัพย์ที่มีเงินทุนสำรองเพียงพอสำหรับกรณีฉุกเฉินนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพราะเมื่อมีแผนการเงินที่ดี = การมีชีวิตที่ดีสำหรับคนรุ่นใหม่ และความสำเร็จด้านการเงินว่าพวกเขาไม่จำเป็นต้องมีชีวิตที่หรูหรา แต่ต้องมี "ความมั่นคง"

เคล็ด (ไม่) ลับ การออมเงินแบบคนยุคใหม่

ปัจจุบันมีคนรุ่นใหม่หลายคนที่ใส่ใจบริหารและวางแผนการเงินมากขึ้น เพราะผู้เชี่ยวชาญหลายคนออกมาเตือนถึงความผันผวนของเศรษฐกิจ และแนะนำให้ตั้งเป้าเก็บเงินสำรองสำหรับค่าใช้จ่าย 3-6 เดือนเผื่อกรณีฉุกเฉิน แต่จะทำยังไงให้แผนการออมเงินของเราสามารถเดินทางไปถึงจุดหมาย?

นี่คือ 3 เคล็ดลับ การออมเงินที่คุณควรรู้

1. จัดระเบียบค่าใช้จ่าย ซื้อเฉพาะของจำเป็น
Gen Z เป็นกลุ่มคนที่เติบโตมาพร้อมกับเทคโนโลยีและเสพติดโซเชียล มีหลายคนที่เรียนรู้วิธีการเก็บออมจากอินเทอร์เน็ตเพื่อบริหารการเงินของตัวเอง แต่ในขณะเดียวกันก็ยังมีอีกหลายคนที่เห็นเพื่อนหรือคนรู้จักในโซเชียลโพสต์อวดรูปรถคันใหม่ หรือบ้านหลังใหญ่ที่ทำให้ตัวเองรู้สึกกดดันมากขึ้นจนเผลอใช้จ่ายมากเกินตัวจนมีหนี้ตามหลังมา

และอีกหนึ่งกับดักทางการเงินที่น่ากลัวคือคติที่ว่า “ของมันต้องมี” เพราะแม้การซื้อของที่ชอบนั้นจะสามารถสร้างความสุขให้คนได้จริง ๆ แต่สิ่งที่ต้องระวังคือการทำให้รายจ่ายเพิ่มมากขึ้นและเงินออมลดน้อยลง หรืออาจซื้อมากจนการงานติดลบและกลายเป็นหนี้ในที่สุดก็ได้

ดังนั้นจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ของการออมเงิน จึงควรจัดสรรก่อนว่าสิ่งไหนที่จำเป็นและไม่จำเป็นต้องซื้อ อย่าใช้จ่ายเกินตัวหรือสร้างหนี้ให้ตัวเองเพิ่ม เพราะอาจไม่เหลือเงินพอให้เก็บออม

2. ตรวจเช็กการใช้จ่ายของตัวเอง

อย่าลืมตรวจสอบรายรับ - รายจ่ายของตัวเองในแต่ละเดือนเพื่อจัดให้การเงินให้เป็นระเบียบมากขึ้น เช่น เช็กว่าเดือนนี้ใช้จ่ายไปกับอะไรมากที่สุด, ค่าใช้จ่ายเกินงบที่ตั้งไว้หรือไม่, เกินจากค่าอะไร และจะลดค่าใช้จ่ายตรงนี้ได้อย่างไร?

หลังจากตรวจสอบเสร็จแล้วคุณจะสามารถมองเห็นภาพการเงินของตัวเองได้กว้างมากขึ้น เช่น รู้ว่าควรจัดระเบียบเงินส่วนไหนบ้าง เพื่อให้สามารถลดค่าใช้จ่ายและประหยัดได้มากขึ้น รวมถึงยังมีเงินให้ออมมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

3. ทําให้การออมเป็นนิสัย
มีหลายคนที่สามารถทำตามเคล็ดลับสองข้อแรกได้อย่างง่ายดาย แต่กลับไม่สามารถบรรลุเป้าหมายการออมได้ เพราะ “ขาดวินัย” ซึ่งนับว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่สุดในขั้นตอนของการออมเงิน

จากบทความแนะนำการออมเงินของ CNBC กล่าวว่า ให้แบ่งเงินในแต่ละเดือนออกเป็น 3 ส่วน ดังนี้

  • 50% ของเงินทั้งหมดนั้น ให้นำไปใช้กับค่าใช้จ่ายที่จําเป็น เช่น ค่าอาหารและค่าเช่าต่าง ๆ
  • 30% สําหรับความต้องการที่อาจไม่จําเป็น เช่น ขนมหวาน, ช็อปปิ้ง
  • 20% สําหรับการออมและการชําระหนี้

อย่างไรก็ตาม การวางแผนออมเงินจะสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อเราวางเป้าหมายอย่างแน่วแน่และทำมันอย่างสม่ำเสมอ แม้ว่าบางครั้งการออมจะน้อยกว่า 20% ที่ตั้งเป้าเอาไว้ แต่ก็อย่ายอมแพ้และหยุดออมกลางทาง เพราะถึงจะเป็นเงินจำนวนน้อยแค่ไหน แต่ถ้ารวมกันแล้วสักวันมันจะกลายเป็นเงินก้อนใหญ่ที่มีประโยชน์ต่ออนาคตของตัวเราอย่างแน่นอน


อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่

ติดตามเพจ Facebook: Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้

ที่มา : CNBC


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ