ซีเค เจิง CEO Fastwork จากวัยรุ่นพาร์ทไทม์ เด็กตัดหญ้า สู่ซีอีโอ เผยเคล็ดลับ “กฎข้อแรกของเงิน” กับการใช้ “4 ชั่วโมงทองคำ” ในการพัฒนาตัวเอง และปรัชญาการลงทุนที่ทำตามได้จริง ใน S&P 500 ดัชนีรวมบริษัทสุดยอด 500 แห่ง เปลี่ยนความกลัวเป็นความกล้า สร้างพอร์ตให้เติบโตระยะยาว แม้ไม่มีความรู้ด้านการลงทุนก็ตาม
ในโลกที่หมุนเร็วและเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน หลายคนอาจกำลังมองหาเข็มทิศนำทางชีวิต ทั้งเรื่องเป้าหมายส่วนตัว การงาน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการวางแผนการเงินที่มักดูเป็นเรื่องไกลตัวและซับซ้อน จะดีแค่ไหนหากมีแนวคิดดีๆ จากผู้มีประสบการณ์จริงมาช่วยจุดประกายและชี้แนวทางสู่ความสำเร็จและความมั่นคง? ในงาน "Thairath Money Roadshow 2025" ได้เปิดโลกการเงินให้คนไทย ในครั้งแรกของปี 2568 โดยจัดขึ้นที่ศูนย์การค้า เซ็นทรัล โคราช
พร้อมกับพาไปเจาะลึกหลักคิดการวางแผนชีวิตและการเงินฉบับ ซีเค เจิง CEO แห่ง Fastwork ผู้เผยเคล็ดลับการมองการณ์ไกล พลังของการลงทุนใน 'ตัวคุณเอง' และวิธีสร้างความมั่งคั่งอย่างยั่งยืนที่คุณก็สามารถเริ่มต้นได้ด้วยตนเอง
เริ่มแรก ซีเค เจิง CEO Fastwork กล่าวถึง การวางแผนการเงินและการวางแผนชีวิตว่า ทุกคนควรมองภาพชีวิตและการเงินในระยะยาว เพราะด้วย ประสบการณ์ส่วนตัวตั้งแต่สมัยเด็กที่อาศัยอยู่อเมริกา ทำให้ต้องเริ่มคิดถึงอนาคตตั้งแต่อายุ 14 ปี
ดังนั้นจึงคำถามที่ว่า "จะเข้ามหาวิทยาลัยไหน? เรียนวิชาอะไรเพื่อให้ได้งานที่มั่นคง?" กลายเป็นเรื่องที่ต้องขบคิด สถานการณ์ในตอนนั้นบีบให้ต้องวางแผนระยะยาว ซึ่งเขามองว่าเป็นเรื่องดีอย่างยิ่ง เพราะมันช่วยให้เราไม่หวังผลระยะสั้นเกินไป และลดความเหนื่อยล้าจากการคาดหวังผลลัพธ์ที่อาจไม่เป็นดั่งใจในทันที
โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่ใฝ่ฝันอยากเป็นผู้ประกอบการ นักธุรกิจ ซีเค เน้นย้ำถึงความสำคัญของการมองการณ์ไกล การจบใหม่แล้วอยากจะเริ่มต้นธุรกิจในทันทีอาจเป็นเรื่องท้าทายเมื่อปราศจากเงินทุน การเป็นพนักงานในช่วงแรกอาจทำให้รู้สึกท้อแท้บ้าง แต่หากเราอดทนเก็บเกี่ยวประสบการณ์และเงินทุนสัก 5 ปี แล้วจึงเริ่มธุรกิจในปีที่ 6 ทุกอย่างจะง่ายขึ้นมาก บ่อยครั้งที่เรามักประเมินศักยภาพตัวเองต่ำเกินไปในระยะยาว และคาดหวังผลลัพธ์ระยะสั้นมากเกินไป หากเรามองชีวิตให้ยาวขึ้น ความกดดันจะลดลง และโอกาสสู่ความสำเร็จก็จะเปิดกว้างขึ้น
เมื่อพูดถึงการวางแผนชีวิต หลายคนอาจสงสัยว่าควรเริ่มเมื่อไหร่ หรือตระหนักรู้ตอนไหน สำหรับ ซีเค กฎข้อแรกของการเงินที่หลายคนอาจมองข้าม ไม่ใช่การให้เงินทำงานให้เราหรือการลงทุนในขณะที่เราหลับ แต่คือ การหาเงินให้เพียงพอในขณะที่เราตื่น เพราะทรัพย์สินอันล้ำค่าที่สุดก็คือตัวเราเอง
โดย ซีเค ยกตัวอย่าง คุณต่อ เจ้าของเพจ torwai_go ที่สามารถทำอาหารไปพร้อมกับการร้องเพลงได้อย่างลงตัว นั่นคือการสร้าง Blue Ocean ที่ไม่มีใครเหมือน ดังนั้น สิ่งที่ซีเคอยากจะสื่อคือ การลงทุนกับตัวเอง พัฒนาความสามารถ เพราะคนเก่งไม่เคยมีปัญหาเรื่องการเงิน ก่อนที่จะคิดเรื่องการลงทุนให้งอกเงย
“เราต้องคิดว่าจะทำอย่างไรให้ตัวเองเก่งขึ้นเสียก่อน เมื่อเราเก่งขึ้น เราจะมีรายได้เพียงพอที่จะนำ "เงินเย็น" มาลงทุนได้อย่างสบายใจ ไม่ใช่การนำ "เงินร้อน" มาเสี่ยง”
คำถามที่ว่าเราจะเก่งขึ้นได้อย่างไร? ซีเค มองว่า คำตอบอยู่ที่การบริหารเวลา “เราทุกคนมีเวลา 24 ชั่วโมงเท่ากัน หากเรานอน 8 ชั่วโมง ทำงาน 8 ชั่วโมง เดินทาง 2 ชั่วโมง และใช้เวลาสำหรับกิจวัตรส่วนตัวอีก 2 ชั่วโมง เราจะเหลือเวลาประมาณ 4 ชั่วโมงต่อวัน ถ้าเรานำเวลานี้ไปใช้เหมือนคนส่วนใหญ่ เช่น ดูหนัง ฟังเพลง ชีวิตก็อาจจะไม่แตกต่าง
แต่ถ้าเรานำเวลานี้ไปทำในสิ่งที่คนส่วนใหญ่ไม่ได้ทำ เช่น การเรียนรู้ พัฒนาทักษะใหม่ๆ คุณจะเริ่มสร้างความแตกต่างและความโดดเด่นให้กับตัวเอง ชีวิตจะเปลี่ยนไปหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการใช้เวลา 4 ชั่วโมง”
ซึ่งเปรียบเทียบเรื่องนี้กับการแปรงฟัน หากเราไม่แปรงฟันเพียงวันเดียว ปากก็เริ่มมีกลิ่น หากละเลยเป็นปี ฟันก็อาจร่วงหล่นได้ ทุกความสำเร็จยิ่งใหญ่ล้วนเริ่มต้นจากการกระทำเล็กๆ น้อยๆ ที่สม่ำเสมอ การแปรงฟันเป็นเรื่องง่าย แต่การละเลยก็ง่ายเช่นกัน ดังนั้นคนที่ประสบความสำเร็จจะเห็นคุณค่าของช่วงเวลานี้ และใช้มันอย่างชาญฉลาด เพียง 2 ปีผ่านไป ก็สามารถกลายเป็นคนที่เก่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
แล้วอะไรคืออุปสรรคที่ทำให้เราไม่สามารถใช้เวลาว่างนั้นพัฒนาตัวเองได้? ซีเค มองว่า หนึ่งในนั้นคือ "เพื่อนเยอะ" และความเกรงใจคนรอบข้าง ดังนั้นเราต้องให้คุณค่ากับเวลาของตัวเองมากขึ้น อย่างตัวของ ซีเค เมื่อตื่นนอน สิ่งแรกที่ทำคือการเสพข่าวสาร เพราะโลกหมุนเร็ว มีข้อมูลใหม่ๆ เกิดขึ้นตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเมืองโลก สถานการณ์หุ้น หรือความเคลื่อนไหวของบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Apple, Google หรือ OpenAI สิ่งเหล่านี้ทำให้เขาตื่นตัวและเห็นโอกาสเสมอ
“ในยุคนี้ เรามีเครื่องมือที่ทรงพลังอย่าง AI ซึ่งเปรียบเสมือนเป็ดที่เก่งมาก ช่วยเราได้หลายด้าน แต่ยังคงต้องการผู้เชี่ยวชาญในการตรวจสอบความถูกต้องและนำไปใช้อย่างเหมาะสม ดังนั้น การใช้เวลา 4 ชั่วโมงเพื่อพัฒนาทักษะเฉพาะทางจึงยังคงสำคัญอย่างยิ่ง”
สำหรับการเลือกคบเพื่อน ซีเค ไม่ได้แนะนำให้ตัดเพื่อน แต่ให้เรารู้จักปฏิเสธอย่างเหมาะสม “การรักตัวเองและให้เวลากับตัวเอง” ไม่ใช่ความเห็นแก่ตัว แต่เป็นการสร้างรากฐานที่มั่นคง เมื่อเราดูแลตัวเองได้ดี เราจึงจะสามารถดูแลคนอื่นได้ และเมื่อถึงวันที่เราประสบความสำเร็จ เราจะเห็นเองว่าใครคือเพื่อนแท้ ดั่งคำกล่าวที่ว่า "การไม่มีเพื่อน ดีกว่ามีเพื่อนที่ไม่ดี"
สำหรับในมิติของการลงทุน ซีเค มองว่า เริ่มสนใจเรื่องการลงทุนตั้งแต่ก่อนเข้าเรียนด้านการเงินเสียอีก โดยเริ่มต้นจากการยืมชื่อคุณพ่อไปเปิดบัญชีลงทุน แต่สิ่งที่เปลี่ยนแปลงในชีวิต เริ่มมาจากการทำงานรายชั่วโมงในวัยเยาว์ ทั้งเลี้ยงเด็ก ดูแลสัตว์เลี้ยง หรือตัดหญ้า ซึ่งได้ค่าตอบแทนราว 20-40 ดอลลาร์สหรัฐต่อชั่วโมง ทำให้สามารถตีมูลค่าของเงินออกมาเป็นเวลา และตระหนักถึงคุณค่าของเงินมากขึ้นอย่างแท้จริง เพราะเมื่อเราเข้าใจคุณค่าของเงิน เราจะรอบคอบในการใช้จ่ายมากขึ้น
จากจุดนั้น ซีเค จึงเริ่มมองหาวิธีให้เงินทำงาน แม้จะไม่มีความรู้เรื่องการลงทุนมากนักในช่วงอายุ 14-15 ปี แต่หลักการของเรียบง่ายมาก นั่นคือ การลงทุนในสิ่งที่เรารู้จักและชื่นชอบ สินค้าหรือบริการใดที่เราใช้เป็นประจำและรู้สึกตื่นเต้นกับมัน เช่น Google, Apple, Facebook, Amazon หากเราลงทุนในบริษัทเหล่านี้ตั้งแต่ยุคแรกๆ ที่เราเริ่ม "เสพติด" สินค้าของเขา ปัจจุบันพอร์ตการลงทุนคงเติบโตมหาศาล
“การลงทุนจริงๆ แล้วไม่ซับซ้อน ไม่จำเป็นต้องเริ่มจากการวิเคราะห์งบการเงินหรือตัวเลขที่น่าปวดหัวเสมอไป ลองเริ่มจากสินค้าหรือบริการที่เราใช้แล้วชอบ มีอะไรที่เราตื่นเต้นไปกับมัน หรือสินค้าใดที่เราคิดว่าขาดไม่ได้ นั่นแหละครับคือหุ้นของบริษัทที่ดีและน่าลงทุน เพียงสวมหมวกของผู้บริโภค เราก็จะเลือกหุ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
ซีเค กล่าวต่อไปว่า หลายคนอาจมองว่าหุ้นดีๆ ในวันนี้ดู "แพง" ไปหมด แต่เมื่อ 4 ปีก่อน มันก็เคยถูกมองว่าแพงเช่นกัน บิตคอยน์ก็เป็นอีกตัวอย่างหนึ่ง ซึ่งคนเรามักจะโฟกัสกับปัจจุบันและอดีต จนลืมมองไปยังอนาคต วอร์เรน บัฟเฟตต์ เองก็เคยยกย่อง ทิม คุก CEO ของ Apple ว่าเป็นผู้นำที่สร้างการเติบโตและมูลค่ามหาศาล แม้ว่า Berkshire Hathaway จะขายหุ้น Apple ออกไปจำนวนหนึ่งแล้วก็ตาม
และบทเรียนสำคัญคือ เราไม่ควรซื้อหุ้นของบริษัทที่ "โอเค" ในราคาที่ "ยอดเยี่ยม" (ถูกเกินไป) หรือยึดติดกับกลยุทธ์ "ซื้อถูกขายแพง" เพียงอย่างเดียว หัวใจคือการมองหาธุรกิจที่ยอดเยี่ยม ที่มีสินค้าหรือบริการที่เรารักและเชื่อว่าจะสามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้ ในราคาที่ "สมเหตุสมผล" (fair price) เพราะนักลงทุนที่ดีจะให้คุณค่ากับศักยภาพในอนาคตมากกว่ามูลค่าในอดีต หลักการง่ายๆ คือ ลงทุนในสิ่งรอบตัวที่คุณอยากมีส่วนร่วมทางธุรกิจ
สำหรับบางคนที่อาจรู้สึกว่าการเงินเป็นเรื่องไกลตัว หรือไม่มีความรู้เฉพาะทาง ซีเค เผยว่า วอร์เรน บัฟเฟตต์ ก็ได้ให้คำแนะนำที่ยอดเยี่ยมไว้เสมอ นั่นคือการลงทุนในดัชนี S&P 500 ซึ่งรวบรวม 500 บริษัทที่ดีที่สุดจากกว่า 20,000 บริษัทที่มีรายได้เกิน 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐทั่วโลก เรียกได้ว่า S&P 500 คือ "The Best of The Best"
การลงทุนใน S&P 500 ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าให้ผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว เพราะเป็นการกระจายการลงทุนไปยังบริษัทชั้นนำของโลก สำหรับผม การลงทุนแล้วขาดทุนในระยะยาวกับ S&P 500 นั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยากมาก หากเราใช้เงินเย็นและมีวินัยในการลงทุนภายในระยะเวลา 10 ปี ย่อมมีโอกาสสร้างผลกำไรได้อย่างแน่นอน แม้การลงทุนใน S&P 500 อาจไม่ทำให้คุณร่ำรวยแบบก้าวกระโดด แต่จะช่วยให้คุณ "ตามขบวน" ทันการเติบโตของเศรษฐกิจโลก
ซีเค กล่าวต่อไปว่า “ผมรู้สึกไม่สบายใจนักที่เห็นคนไทยจำนวนไม่น้อยผิดหวังกับตลาดหุ้น หรือมองว่าการลงทุนเป็นเหมือนการพนัน จึงเลือกเก็บเงินไว้กับธนาคาร แต่ผมอยากจะบอกว่า "การอยู่เฉยๆ ก็มีความเสี่ยง แต่การไม่ลงทุนเลยนั้นเสี่ยงที่สุด" เราควรให้คุณค่ากับ "โอกาส" ที่จะเรียนรู้และเติบโต เมื่อเราลงทุน เราจะเริ่มใส่ใจข่าวสารรอบตัวมากขึ้น เราจะเก่งขึ้น เพราะเรามีส่วนได้ส่วนเสียกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น แล้วการลงทุนจะกลายเป็นเรื่องง่ายและไม่ซับซ้อนอีกต่อไป”
“เพราะบ่อยครั้งที่สังคมอาจตีกรอบให้เราไม่กล้าที่จะแตกต่าง หรือก้าวออกจากความคุ้นเคย แต่โลกกำลังหมุนไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วครับ ผมเชื่อว่าคนไทยเรามีความสามารถ เราเพียงต้องกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง เปลี่ยนแปลงสังคม เพื่อที่จะก้าวทันโลก และสามารถสร้างความมั่งคั่ง แข่งขันในเวทีโลกได้อย่างสง่างาม” ซีเค กล่าวทิ้งท้าย
อ่านข่าวการเงินส่วนบุคคล และการวางแผนการเงิน กับ Thairath Money เพื่อให้คุณ "การเงินดีชีวิตดีได้ที่ https://www.thairath.co.th/money/personal_finance
ติดตามเพจ Facebook: Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney