กองทุนรวม “ปันผล VS สะสมมูลค่า” เลือกแบบไหนดี ? เปิด 10 อันดับ ผลงานเด่น ผลตอบแทนทะลุ 48% จากต้นปี

Personal Finance

Financial Planning

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

กองทุนรวม “ปันผล VS สะสมมูลค่า” เลือกแบบไหนดี ? เปิด 10 อันดับ ผลงานเด่น ผลตอบแทนทะลุ 48% จากต้นปี

Date Time: 26 พ.ค. 2568 11:20 น.

Video

Amazon ธุรกิจนี้เจ๋งยังไง ทำไมถึงเป็นหุ้นลูกรักของใครหลายคน ? | Digital Frontiers EP.48

Summary

เลือกกองทุนรวมแบบไหนดี ? ระหว่าง "กองทุนปันผล" ที่ให้กระแสเงินสด กับ "กองทุนสะสมมูลค่า" ที่เน้นการเติบโตของเงินลงทุนในระยะยาว ชวนทำความเข้าใจความแตกต่าง เพื่อให้สามารถตัดสินใจเลือกกองทุนที่สอดคล้องกับแผนการเงินของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ

“กองทุนรวม” ถือเป็นเครื่องมือยอดนิยม สำหรับผู้ที่ต้องการกระจายความเสี่ยง และอาศัยผู้เชี่ยวชาญในการบริหารเงินลงทุน แต่เมื่อพิจารณากองทุนรวม นักลงทุนมักพบกับทางเลือกระหว่าง "กองทุนปันผล" และ "กองทุนสะสมมูลค่า" ซึ่งทั้งสองประเภทนี้ มีลักษณะและผลตอบแทนที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน

เพื่อให้สามารถตัดสินใจเลือกกองทุนให้สอดคล้องกับแผนการเงินของตนเองอย่างมีประสิทธิภาพ Thairath Money ชวนมาทำความเข้าใจลักษณะของกองทุนแต่ละประเภท ดังนี้

"กองทุนปันผล" VS "กองทุนสะสมมูลค่า"

การเลือกระหว่าง “กองทุนปันผล” หรือ “กองทุนสะสมมูลค่า” นั้น ขึ้นอยู่กับเป้าหมายและความต้องการของนักลงทุนแต่ละราย ดังนั้น การทำความเข้าใจลักษณะของกองทุนแต่ละประเภท จะช่วยให้นักลงทุนสามารถตัดสินใจเลือกเครื่องมือการลงทุน ที่สอดคล้องกับการวางแผนการเงินและการลงทุนของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ

กองทุนปันผล คืออะไร ?

กองทุนปันผล คือ กองทุนรวมที่มีนโยบายจ่ายผลตอบแทนส่วนหนึ่งจากการดำเนินงานของกองทุน ให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนเป็นระยะๆ เช่น ทุกไตรมาส ทุกครึ่งปี หรือทุกปี ซึ่งเงินปันผลเหล่านี้ มาจากกำไรที่กองทุนได้รับจากการลงทุนในหลักทรัพย์ต่างๆ เช่น เงินปันผลจากหุ้นที่กองทุนถือครอง หรือดอกเบี้ยจากตราสารหนี้ เป็นต้น

สำหรับกองทุนที่มีปันผล เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการกระแสเงินสดสม่ำเสมอ หรือต้องการรายรับเป็นประจำ เพื่อนำไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เป็นการสร้าง Passive Income และเป็นการทยอยรับรู้ผลกำไรจากการลงทุนออกมาโดยไม่ต้องขายหน่วยลงทุน

อย่างไรก็ตาม เงินปันผลที่ได้รับจากกองทุนรวม (ยกเว้นกองทุนบางประเภท) จะถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 10% ซึ่งอาจทำให้ผลตอบแทนโดยรวมลดลง และมีการเติบโตของ NAV ช้ากว่า เนื่องจากกำไรส่วนหนึ่งถูกจ่ายออกมาเป็นเงินปันผล ทำให้มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAV) อาจเติบโตช้ากว่ากองทุนสะสมมูลค่าที่นำกำไรไปลงทุนต่อ

กองทุนสะสมมูลค่า คืออะไร ?

กองทุนสะสมมูลค่า คือ กองทุนรวมที่ไม่มีนโยบายจ่ายเงินปันผล แต่จะนำผลกำไรที่กองทุนทำได้ไปลงทุนต่อ เพื่อให้เงินลงทุนเติบโตอย่างต่อเนื่องในระยะยาว ผลตอบแทนที่ผู้ลงทุนจะได้รับ จะมาจากส่วนต่างราคาหน่วยลงทุน เมื่อทำการขายคืนหน่วยลงทุน

ทั้งนี้ การนำกำไรไปลงทุนต่อ ช่วยให้เงินลงทุนเติบโตแบบ “ดอกเบี้ยทบต้น” ได้อย่างเต็มศักยภาพ เหมาะสำหรับการลงทุนระยะยาวที่ต้องการสร้างความมั่งคั่ง และมีการเติบโตของ NAV สูงกว่าในระยะยาวในสภาวะตลาดเดียวกัน

ขณะเดียวกัน สำหรับนักลงทุนบุคคลธรรมดาในประเทศไทย โดยทั่วไปจะได้รับการยกเว้นภาษีจากกำไรจากการขายคืนหน่วยลงทุน ทำให้ได้รับผลตอบแทนเต็มเม็ดเต็มหน่วยด้วย

แต่ข้อเสียคือจะไม่ได้รับกระแสเงินสดระหว่างทาง หากต้องการเงินสด นักลงทุนจำเป็นต้องขายคืนหน่วยลงทุนบางส่วนหรือทั้งหมด ซึ่งอาจไม่สะดวกสำหรับผู้ที่ต้องการมี Passive Income นอกจากนี้ มูลค่าหน่วยลงทุนจะผันผวนไปตามสภาวะตลาด การขายคืนหน่วยลงทุนในช่วงที่ตลาดปรับตัวลงอาจทำให้ขาดทุนได้

เปิด 10 อันดับ กองทุนผลตอบแทนสูงสุดจากต้นปี

แม้ว่าโดยทั่วไป กองทุนสะสมมูลค่าจะมีโอกาสสร้างผลตอบแทนรวมที่สูงกว่าในระยะยาว เนื่องจากการนำกำไรไปลงทุนต่อ แต่การเลือกกองทุนปันผลที่บริหารจัดการได้ดี และลงทุนในสินทรัพย์ที่มีแนวโน้มในการเติบโต ก็มีโอกาสให้ผลตอบแทนที่น่าสนใจไม่แพ้กัน แถมยังได้รับกระแสเงินสดในรูปของเงินปันผลระหว่างทางอีกด้วย

ทั้งนี้ การพิจารณาเลือกกองทุนควรดูที่นโยบายการลงทุนและความเสี่ยงที่ยอมรับได้เป็นสำคัญ ซึ่งกองทุนที่มีผลการดำเนินงานโดดเด่น 10 อันดับแรก นับตั้งแต่ต้นปี 2568 มีดังนี้

10 อันดับกองทุนให้ผลตอบแทนสูงสุดนับตั้งแต่ต้นปี  (ข้อมูลจาก www.morningstarthailand.com ณ วันที่ 26 พ.ค. 68)

  1. กองทุนเปิดเคแทม เวิลด์ โกลด์ แอนด์ เพชรเชียส เอคควิตี้ ฟันด์ (KT-PRECIOUS) ไม่มีนโยบายจ่ายปันผล ให้ผลตอบแทน +48.29% จากต้นปี
  2. กองทุนเปิด ดาโอ แอล โกลด์ ซิลเวอร์ อิควิตี้ เพื่อการเลี้ยงชีพ (DAOL-GOLDRMF) ไม่มีนโยบายจ่ายปันผล ให้ผลตอบแทน +38.09% จากต้นปี
  3. กองทุนเปิด ดาโอ แอล โกลด์ ซิลเวอร์ อิควิตี้ (DAOL-GOLD) ไม่มีนโยบายจ่ายปันผล ให้ผลตอบแทน +37.96% จากต้นปี
  4. กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี ยูโรเปียน แบงก์ (M-EUBANK) ไม่มีนโยบายจ่ายปันผลให้ผลตอบแทน +33.67% จากต้นปี
  5. กองทุนเปิด ดาโอ ดีเฟนซ์ (DAOL-DEFENSE) ไม่มีนโยบายจ่ายปันผลให้ผลตอบแทน +28.72% จากต้นปี
  6. กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ THB เฮดจ์ (ชนิดช่องทางอิเล็กทรอนิกส์) (SCBGOLDHE) ไม่มีนโยบายจ่ายปันผล ให้ผลตอบแทน +25.89% จากต้นปี
  7. กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ THB เฮดจ์ (ชนิดเพื่อการออมผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์) (SCBGOLDH(SSFE)) มีนโยบายจ่ายปันผล ให้ผลตอบแทน +25.89% จากต้นปี
  8. กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ THB เฮดจ์ (ชนิดเพื่อการออม) (SCBGOLDH-SSF) มีนโยบายจ่ายปันผล ให้ผลตอบแทน +25.67% จากต้นปี
  9. กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ THB เฮดจ์ (SCBGOLDH) ไม่มีนโยบายจ่ายปันผล ให้ผลตอบแทน +25.67% จากต้นปี
  10. กองทุนเปิดพรินซิเพิล โกลด์ อินคัม E (PRINCIPAL IGOLD-E) ไม่มีนโยบายจ่ายปันผล ให้ผลตอบแทน +25.56% จากต้นปี

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ต้องตระหนักคือผลการดำเนินงานในอดีต ไม่ได้การันตีถึงผลงานในอนาคต นักลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน


อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ