
รู้หรือไม่ว่า 99.7% ของครัวเรือนไทยมีหนี้สิน โดยเป็นหนี้บัตรเครดิตมากที่สุด ซึ่งนับว่าเป็นสถานการณ์น่าเป็นห่วง เนื่องจาก หนี้บัตรเครดิต หนี้บริโภค ไม่ก่อให้เกิดรายได้ และ มีดอกเบี้ยสูงกว่าหนี้บ้านหรือหนี้รถหลายเท่าตัว
อีกทั้งบางคน กำลังสร้าง “วิกฤตหนี้ครัวเรือนถาวร” ด้วยการจ่ายขั้นต่ำทำให้หนี้พอกพูน และติดกับดักหนี้ เป็น “หนี้เสีย”ในระยะยาว
ข้อมูลจาก CardX แพลตฟอร์มด้านการเงินดิจิทัล ระบุว่า คำว่า “หนี้” ไม่ใช่สิ่งที่เลวร้ายเสมอไป หากถูกนำไปใช้ให้เกิดรายได้หรือก่อให้เกิดประโยชน์ในอนาคต แต่หากก่อหนี้อย่างไม่ระมัดระวังก็อาจเผชิญกับ “หนี้เสีย (Non-Performing Loan หรือ NPL)”
ซึ่งเป็นหนี้ที่ลูกหนี้ไม่สามารถชำระเงินคืนได้ตามเงื่อนไขที่สถาบันการเงินกำหนด มักเกิดจากการบริหารการเงินที่มีความผิดพลาดหรือการขาดวินัยทางการเงิน และอาจส่งผลกระทบร้ายแรงที่หลายคนมองข้าม
เช่น การกู้สินเชื่ออื่น ๆ ในอนาคตยากขึ้น เพราะขาดความน่าเชื่อถือทางการเงิน และหากปล่อยหนี้ไว้นาน ดอกเบี้ยสะสมที่เพิ่มขึ้นจะยิ่งเป็นภาระหนัก ทำให้สภาพคล่องทางการเงินลดลง
นอกจากนี้ยังส่งผลต่อความน่าเชื่อถือทางการเงิน หนี้เสียทำให้คุณถูกจัดอยู่ในกลุ่มผู้มีความเสี่ยงสูง (High Risk) ในสายตาสถาบันการเงินอีกด้วย
สำหรับข้อสังเกต 5 สัญญาณอันตราย ที่อาจสะท้อนได้ว่า เราใกล้จะเผชิญปัญหา “หนี้เสีย” แล้ว มีดังนี้
1. จำยอดหนี้ของตัวเองไม่ได้ เน้นรูดบัตรไม่เน้นจำยอดหนี้ พอรู้ตัวอีกทียอดบัตรเครดิตก็พุ่งสูงเกินงบประมาณไปไกลแล้ว
2. ไม่มีเงินเก็บสำรองฉุกเฉิน เงินเข้าไว ออกไว ไม่มีเงินสำรองในบัญชี เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินแล้วกลับมาดูในบัญชีกลับไม่มีเงินสำรองเพียงพอในการใช้จ่าย
3. ยอดหนี้สูงเกิน 45% ของรายได้ นี่เป็นสัญญาณอันตรายที่แสดงว่ากำลังมีปัญหาชักหน้าไม่ถึงหลัง
4. กู้หนี้ใหม่เพื่อโปะหนี้เก่า เมื่อเริ่มกู้เงินมาใหม่เพื่อใช้หนี้เก่า หนี้ก็จะพอกพูนขึ้นเรื่อย ๆ
5. เริ่มเครียด นอนไม่หลับ หากมีความเครียดจากการเงินทำให้เราขาดสมาธิในการทำงาน นอนไม่ค่อยหลับจนส่งผลต่อชีวิตประจำวัน ถือเป็นสัญญาณอันตรายที่ต้องใช้เงินอย่างระวังที่สุด ต้องรีบปรับพฤติกรรมการใช้จ่ายทันที
1. รวมหนี้เป็นก้อนเดียว หากมีหนี้หลายที่การนำหนี้ต่าง ๆ ที่มีอยู่มารวมกันเป็นก้อนเดียวจะช่วยให้ง่ายต่อการชำระคืน ลดอัตราดอกเบี้ยที่ต้องจ่าย และทำให้บริหารเงินได้ดียิ่งขึ้น ที่สำคัญคือควรกำหนดลำดับการชำระหนี้อะไรก่อนหรือหลัง
2. ไม่สร้างหนี้เพิ่ม ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น ไม่ควรสร้างหนี้เพิ่ม และกำหนดค่าใช้จ่ายรายเดือนของตนเองอย่างเคร่งครัด
3. เจรจาเพื่อขอปรับโครงสร้างหนี้ หากภาระหนี้หนักเกินกำลังในการชำระแล้ว การขอเจรจากับทางสถาบันทางการเงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ คุณอาจได้รับข้อเสนอที่ช่วยลดภาระดอกเบี้ย หรือปรับแผนการชำระหนี้ให้เหมาะสมกับสถานการณ์
ที่มา : CardX
อ่านข่าวการเงินส่วนบุคคล และการวางแผนการเงิน กับ Thairath Money เพื่อให้คุณ "การเงินดีชีวิตดีได้ที่ https://www.thairath.co.th/money/personal_finance
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney