หนี้ ไม่ใช่ผู้ร้ายทางการเงิน! ถอดรหัส "วัคซีนหนี้" จากนักวางแผนการเงินมืออาชีพ

Personal Finance

Financial Planning

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

หนี้ ไม่ใช่ผู้ร้ายทางการเงิน! ถอดรหัส "วัคซีนหนี้" จากนักวางแผนการเงินมืออาชีพ

Date Time: 3 พ.ค. 2568 11:24 น.

Video

โทฟุซัง น้ำเต้าหู้ ยอดขายพันล้านบาท สร้างธุรกิจจาก “ความรู้และงานวิจัย” | On The Rise EP.17

Summary

  • ถอดรหัสแนวคิด "วัคซีนหนี้" จากนักวางแผนการเงินมืออาชีพ นำเสนอทางออก 3 ขั้นตอน สร้างภูมิคุ้มกันทางการเงิน เรียนรู้วิธีแยกแยะหนี้ดี-ร้าย ควบคุมภาระผ่อนให้เหมาะสม และสร้างวินัยเพื่อสุขภาพการเงินที่แข็งแกร่งอย่างยั่งยืน

Latest


สถานการณ์หนี้ครัวเรือน ยังคงเป็นประเด็นสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตของคนไทยจำนวนมาก แรงกดดันจากค่าครองชีพที่สูงขึ้น สวนทางกับรายได้ที่ไม่เติบโตตาม ทำให้หลายคนตกอยู่ในภาวะ "หมุนเงินไม่ทัน" และต้องพึ่งพาการก่อหนี้เพิ่มขึ้น นำไปสู่วังวนปัญหาที่แก้ไขได้ยาก

ความเครียดจากการเป็นหนี้ ไม่เพียงส่งผลกระทบต่อสุขภาพทางการเงิน แต่ยังบั่นทอนสุขภาพจิต การขาดความรู้ความเข้าใจในการบริหารจัดการภาระหนี้สินอย่างถูกวิธี ถือเป็นจุดอ่อนสำคัญที่ทำให้ปัญหาลุกลาม หลายคนอาจมองว่าการมีหนี้เป็นเรื่องเลวร้าย แต่ในความเป็นจริงแล้ว การจัดการหนี้ที่ไม่ดีต่างหาก คือสิ่งที่อันตราย

ท่ามกลางความท้าทายดังกล่าว การสร้าง "ภูมิคุ้มกันทางการเงิน" จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง Thairath Money พาส่องแนวคิด "วัคซีนหนี้" ที่นำเสนอโดยนักวางแผนการเงินมืออาชีพ อีกหนึ่งมุมมองที่น่าสนใจในการเตรียมความพร้อมและรับมือกับปัญหาหนี้สินอย่างเป็นระบบ เพื่อให้คนไทยสามารถก้าวข้ามวิกฤตและมีสุขภาพการเงินที่แข็งแรงขึ้นได้

ฉัตรี ชุติสุนทรากุล นักวางแผนการเงิน CFP® ระบุในบทความเรื่อง “วัคซีนหนี้ พร้อมเข็มกระตุ้นภูมิคุ้มกัน” ผ่านสมาคมนักวางแผนการเงินไทย โดยได้เปรียบเทียบ "หนี้" เสมือน "ไวรัส" ที่อาจไม่ทำอันตรายหากร่างกายแข็งแรงพอ แต่จะจู่โจมเราได้หากร่างกายอ่อนแอ การสร้างภูมิคุ้มกันจึงเปรียบเหมือนการฉีดวัคซีน ที่ต้องทำความเข้าใจและบริหารจัดการอย่างถูกต้อง โดยสรุปเป็นแนวทาง "วัคซีนหนี้ 3 เข็ม" สรุปได้ ดังนี้


เข็มที่ 1: แนะนำให้ร่างกายรู้จัก “หนี้”


นักวางแผนการเงิน ระบุว่า เราจะต้องทำความรู้จัก "หนี้" และเข้าใจดอกเบี้ย หนี้ไม่ใช่ผู้ร้ายเสมอไป สิ่งสำคัญคือการแยกแยะระหว่าง

  • "หนี้ดี" คือ หนี้ที่ก่อให้เกิดรายได้ในอนาคต เช่น กู้ซื้ออุปกรณ์ทำมาหากิน, กู้เพื่อธุรกิจ
  • "หนี้ร้าย" คือ หนี้เพื่อการบริโภคที่เกินกำลังจ่าย จนกลายเป็นภาระระยะยาว เช่น หนี้บัตรเครดิตที่จ่ายขั้นต่ำจนดอกเบี้ยพอกพูน

นอกจากนี้ ต้องประเมินความสามารถก่อนก่อหนี้ โดยเฉพาะหนี้ดี ต้องคำนวณว่ารายได้ที่จะเกิดเพียงพอต่อการชำระคืนหรือไม่

และเข้าใจโครงสร้าง "ค่างวด" หรือต้องทราบว่าในแต่ละงวดที่จ่าย เป็นส่วนของเงินต้นเท่าไหร่ และดอกเบี้ยเท่าไหร่ เพื่อให้เห็นต้นทุนที่แท้จริงของหนี้ โดยเฉพาะหนี้นอกระบบ ควรตรวจสอบอัตราดอกเบี้ยว่าเกินกฎหมายกำหนดหรือไม่


เข็มที่ 2 : สร้าง "ภูมิคุ้มกันหนี้" 


ภูมิคุ้มกันหนี้จะช่วยให้เรารู้เท่าทันหนี้และบริหารจัดการหนี้ได้ดีขึ้น โดยหนี้สินคงเหลือจะปรากฏในงบดุล ขณะที่ค่างวดคือรายจ่ายคงที่ในงบกระแสเงินสด

หากรายได้ลดลงแต่ค่างวดเท่าเดิม อาจนำไปสู่ปัญหาการจ่ายไม่ไหวและหนี้สินพอกพูน การจัดการ เช่น ขายสินทรัพย์บางส่วนเพื่อลดหนี้ดอกเบี้ยสูง หรือหารายได้เพิ่ม (โดยไม่ก่อหนี้เพิ่ม) อาจเป็นทางออก

พร้อมแนะนำว่า ภาระผ่อนต่อเดือน ไม่ควรเกิน 45% ของรายรับรวม หากเกินควรพิจารณาปรับโครงสร้างหนี้ ขณะที่หนี้ระยะสั้น เช่น บัตรเครดิต, สินเชื่อส่วนบุคคล ไม่ควรเกิน 20% ของรายได้ต่อเดือน ควรระมัดระวังการใช้จ่ายผ่านบัตรและการผ่อนชำระ

นอกจากนี้ หนี้สินรวมทั้งหนี้ระยะสั้นและหนี้ระยะยาว รวมกันไม่ควรเกิน 50% ของสินทรัพย์ทั้งหมด เพื่อเป็นการรักษาสมดุลความมั่งคั่ง


เข็มที่ 3: กระตุ้นภูมิคุ้มกัน “หนี้”


นักวางแผนการเงิน ชี้ให้เห็นว่า การจะหลุดพ้นจากภาระหนี้สินได้นั้น หัวใจสำคัญที่สุดคือ "วินัย" ในการชำระหนี้ให้ครบถ้วน ซึ่งต้องอาศัยการลงมือทำอย่างสม่ำเสมอ 

ได้แก่ การ จดบันทึกรายรับรายจ่าย เพื่อให้เห็นภาพรวมการใช้เงิน, การตรวจเช็คอัตราส่วนหนี้สินของตนเองเป็นประจำ โดยเฉพาะก่อนตัดสินใจก่อหนี้เพิ่ม หรือเมื่อมีเหตุให้รายได้เปลี่ยนแปลง

นอกจากนี้ การจัดทำงบการเงินส่วนบุคคลอย่างน้อยปีละครั้งเพื่อประเมินสถานะ ลดทอนรายจ่ายที่ไม่จำเป็น และควบคุมการใช้จ่ายไม่ให้เกินกำลังความสามารถ เป็นหนทางป้องกันการกลับไปเป็นหนี้ในอนาคต


อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ