การเงินดี ชีวิตดี "ความรวย" ที่ไม่ได้วัดด้วยมูลค่า เมื่อ 58% ของคน Gen Z หยุดไล่ล่าความมั่งคั่ง

คนรุ่นใหม่ กำลังค่อยๆ พลิกโฉมเทรนด์การเงินการเงินลงทุน นิยามการประสบความสำเร็จด้านการเงิน ไม่ได้วัดที่มูลค่าความมั่งคั่งที่สั่งสมมา เหมือนคนรุ่นก่อนอีกต่อไป แต่วัดกันที่การยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น จากการจัดการเงินอย่างชาญฉลาด

การมีชีวิตทางการเงินที่ดี (Financial Well Being) คือเป้าหมายหลักที่กลุ่มคน Gen Z ให้ความสำคัญมากกว่าตัวเลขความมั่งคั่งในบัญชีเงินฝาก โดยคนรุ่นใหม่มองว่าการมีสุขภาพการเงินที่ดี เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการมีชีวิตที่ดี

เทรนด์การเงินดี ชีวิตดี สะท้อนการปรับตัวของคนรุ่นใหม่ ท่ามกลางยุคที่เศรษฐกิจมีความไม่แน่นอนรอบด้าน จากปัญหาค่าครองชีพที่แพงขึ้น หนี้สินรุมเร้า และมุมมองเกี่ยวกับความมั่นคงทางการเงินที่เปลี่ยนไป แทนที่จะมองว่าเงินเป็นเพียงเครื่องมือไปสู่ความรวยตามค่านิยมสังคม แต่พวกเขากลับผสานนิสัยทางการเงินให้เข้ากับชีวิตประจำวัน 

ปัญหาเรื่องเงิน กระทบถึงจิตใจ

เรื่องเงินยังคงเป็นปัจจัยกดดันอันดับต้นๆสำหรับคนรุ่นใหม่ ผลสำรวจของ Intuit หัวข้อ Beyond the Budget: How Younger Generations Are Easing Stress with Financial Wellness Habits พบว่า 61% ของคนอายุระหว่าง 18-35 ปี มีความวิตกกังวลเรื่องการเงิน นอกจากนี้ยังพบว่า ค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้น (76%) ความไม่แน่นอนในการทำงาน (48%) และค่าที่อยู่อาศัยที่แพงขึ้น (46%) ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดความกังวลอย่างกว้างขวางในหมู่คนรุ่นใหม่ ถึงความมั่นคงทางการเงินในระยะยาวและโอกาสในการเป็นเจ้าของบ้าน

ความวิตกกังวลเรื่องการเงินนั้นเกี่ยวสัมพันธ์กับสุขภาพจิตอย่างลึกซึ่ง โดยหลายๆ คนรู้สึกเหนื่อยล้าจากแรงกดดันในการจัดการการเงิน ในช่วงที่เศรษฐกิจมีความไม่แน่นอน

อย่างไรก็ตาม คนรุ่นใหม่ไม่ได้ท้อแท้ต่อปัญหาแต่กลับเผชิญหน้าด้วยการปรับแนวทางการดูแลสุขภาพการเงินใหม่ แทนที่จะไล่ตามความมั่งคั่ง พวกเขาให้ความสำคัญกับกลยุทธ์การสร้างชีวิตการเงินที่ดี ซึ่งช่วยลดความเครียดและทำให้สุขภาพจิตโดยรวมดีขึ้น 

การเงินดี พาชีวิตดี

คนรุ่นใหม่จำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ กำลังผสานการจัดการเงินให้เข้ากับกิจวัตรประจำวัน การสำรวจของ Intuit พบว่า เกือบ 58% ของคน Gen Z มองว่า การจัดการเงินอย่างจริงจังช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของพวกเขา ซึ่งตอกย้ำแนวคิดที่ว่าสุขภาพทางการเงินนั้น มีผลต่อสุขภาพกายและจิตใจ

อย่างไรก็ตาม หลายๆ คนยังคงขาดกลยุทธ์ที่ชัดเจนในการรับมือเมื่อเกิดปัญหาทางการเงิน ประมาณ 32% มีปัญหาในการวางแผนสำหรับค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด ในขณะที่ 49% ตกอยู่ในภาวะใช้เงินเดือนชนเดือน เพื่อรับมือกับความท้าทายเหล่านี้ คนรุ่นใหม่จึงเริ่มสร้างนิสัยทางการเงินเล็กๆ น้อยๆ ที่ยั่งยืน ซึ่งไม่เพียงแต่สนับสนุนเป้าหมายชีวิตที่กว้างขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยให้จิตใจแจ่มใสและสงบสุขอีกด้วย

มีรายได้หลายทาง ใช้ชีวิตไม่สะดุด

ความสามารถในการปรับตัวได้กลายมาเป็นลักษณะเด่นของคนรุ่น Gen Z และ Zennials เพื่อรับมือกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ หลายๆ คนจึงหันมาทำอาชีพเสริมเพื่อความ มั่นคงทางการเงิน ผลสำรวจของ Intuit พบว่าคนรุ่นใหม่ 41% มองว่าการมีแหล่งรายได้เพิ่มเติมช่วยให้มีฐานะทางการเงินที่ดีขึ้น และ 31% มองว่าการมีอาชีพเสริมเป็นเรื่องสำคัญอันดับต้นๆ

อย่างไรก็ตาม แนวโน้มนี้ยังชี้ให้เห็นถึงประเด็นสำคัญด้านสุขภาพจิตอีกด้วย โดยการกระจายรายได้ คนรุ่นใหม่สามารถบรรเทาความวิตกกังวลบางส่วนที่เกิดจากความไม่แน่นอนจากงานได้ อาชีพเสริมไม่ได้เป็นเพียงการหารายได้พิเศษเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงความปรารถนาที่จะมีความยืดหยุ่นทางการเงินและควบคุมอนาคตทางการเงินของตนเองได้มากขึ้น ซึ่งทั้งสองอย่างนี้ล้วนมีส่วนช่วยในการสร้างความเป็นอยู่ที่ดีทางอารมณ์

ที่มา : https://www.forbes.com/sites/tessbrigham/2025/02/18/the-new-money-mindset-gen-z-is-treating-finances-like-self-care/

อ่านข่าวการเงินส่วนบุคคล และการวางแผนการเงิน กับ Thairath Money เพื่อให้คุณ "การเงินดีชีวิตดีได้ที่ https://www.thairath.co.th/money/personal_finance 

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้  https://www.facebook.com/ThairathMoney