การเติบโตท่ามกลางเหตุการณ์สำคัญอย่างวิกฤตการเงินปี 2008 และการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ Gen Z ตระหนักถึงความไม่แน่นอนในตลาดอสังหาริมทรัพย์ พวกเขาเลือก "การเช่า" มากกว่าการซื้อ เพราะมองว่าเป็นทางเลือกที่ยืดหยุ่น ไม่ผูกพันกับหนี้ระยะยาว และสามารถปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตได้ง่ายขึ้น ท่ามกลางค่าครองชีพที่พุ่งสูง รายได้ที่ไม่แน่นอน และอัตราดอกเบี้ยที่ผันผวน การเป็นเจ้าของบ้านจึงไม่ใช่เป้าหมายหลักอีกต่อไป
Gen Z ไม่ได้กังวลแค่การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความผันผวนทางเศรษฐกิจ การระบาดของโรค และความไม่มั่นคงทางสังคม ซึ่งทำให้พวกเขาตั้งคำถามกับแนวคิดเรื่องการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์
แม้จะตระหนักถึงความเสี่ยง คนรุ่นใหม่นี้ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ข้อมูลจากการสำรวจในสหรัฐฯ ระบุว่า 96% ของเจ้าของบ้านวัยหนุ่มสาวดำเนินมาตรการเพื่อปกป้องบ้านจากภัยพิบัติ เช่น 41% ติดตั้งบานเกล็ดกันพายุและหน้าต่างชนิดพิเศษ 34% เสริมความแข็งแรงของโครงสร้างบ้าน30% เตรียมอุปกรณ์ป้องกันน้ำท่วม 25% ติดตั้งปั๊มน้ำระบายน้ำท่วม 32% ปรับปรุงระบบระบายน้ำให้มีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการป้องกันแล้ว แต่ความวิตกกังวลก็ยังคงอยู่ สะท้อนให้เห็นถึงโลกที่ยากจะคาดเาในยุคปัจจุบัน
นอกจากนี้ในยุคที่เศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมผันผวน การวางแผนเรื่องที่อยู่อาศัยของ Gen Z จึงไม่ใช่แค่การเลือกซื้อบ้าน แต่รวมถึงการออกแบบให้ทนภัยธรรมชาติ การทำประกันที่ครอบคลุม และการลงทุนในเทคโนโลยีที่ช่วยรับมือกับความเปลี่ยนแปลง
เจ้าของบ้านรุ่นใหม่กว่า 69% ในกลุ่ม Gen Z และ 61% ในกลุ่ม Millennials ต่างรู้สึกว่าการเป็นเจ้าของบ้านไม่ได้น่าดึงดูดเหมือนในอดีต แต่พวกเขากลับให้ความสำคัญกับคุณสมบัติของบ้านในการฟื้นตัวจากภัยพิบัติมากกว่า 79% ยินดีจ่ายเพิ่มเพื่อให้บ้านมีระบบป้องกันที่ดีขึ้น และ 62% ต้องการข้อมูลที่โปร่งใสจากบริษัทประกันภัยเพื่อวางแผนอนาคตอย่างมั่นใจ
ความมั่นคงในมุมมองของ Gen Z จึงไม่ใช่การครอบครองบ้านหรือสินทรัพย์ที่จับต้องได้ แต่คือการมี "ทางเลือก" ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ทันกับสถานการณ์ ตัวอย่างเช่น เลือกเช่ามากกว่าซื้อ ลงทุนในทรัพย์สินที่เคลื่อนที่ได้ เช่น บ้านสำเร็จรูป หรือการสร้างกองทุนฉุกเฉิน และพึ่งพาประกันภัยแทนการลงทุนในทรัพย์สินที่มีความเสี่ยงสูง
นอกจากนี้ Gen Z ยังสนใจการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น คริปโตเคอร์เรนซี หุ้น หรือ NFT มากกว่าสินทรัพย์แบบดั้งเดิม พวกเขาให้ความสำคัญกับการมีอาชีพที่ยืดหยุ่น สามารถทำงานจากที่ใดก็ได้ และรายได้ที่กระจายจากหลายแหล่ง
เทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้ Gen Z จัดการการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ พวกเขาใช้แอปพลิเคชันธนาคารดิจิทัล แพลตฟอร์มการลงทุนออนไลน์ และเครื่องมือ AI เพื่อบริหารเงิน วิเคราะห์ความเสี่ยง และวางแผนอนาคตอย่างชาญฉลาด นอกจากนี้ยังไม่ลืมที่จะมีแผนสำรองในยามวิกฤติ เช่น การทำประกัน หรือการพัฒนาทักษะเพื่อเปลี่ยนสายอาชีพได้อย่างรวดเร็ว
สรุปแล้วแนวคิดเรื่องความมั่นคงทางการเงินในกลุ่ม Gen Z สะท้อนถึงการเปลี่ยนผ่านสำคัญของสังคม พวกเขาไม่ได้ยึดติดกับการเป็นเจ้าของสินทรัพย์เหมือนคนรุ่นก่อน แต่เลือกให้ความสำคัญกับความยืดหยุ่น ความคล่องตัว และความสามารถในการรับมือกับอนาคตที่ไม่แน่นอน
อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ ประกันภัย และการเงิน จำเป็นต้องปรับตัวให้ทันกับความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ ที่ไม่ได้ต้องการแค่บ้านหนึ่งหลัง แต่ต้องการ "ที่พักพิง" ที่มั่นคง ปลอดภัย และพร้อมเผชิญอนาคตในทุกสถานการณ์
อ่านเพิ่มเติม
อ้างอิงข้อมูลจาก liveinsurancenews , Randrmagonline , Domesticpreparedness
อ่านข่าวการเงินส่วนบุคคล และการวางแผนการเงิน กับ Thairath Money เพื่อให้คุณ "การเงินดีชีวิตดีได้ที่ https://www.thairath.co.th/money/personal_finance
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้