จากบัญชีธนาคาร สู่ บัญชีคริปโตฯ เมื่อ “บัญชีม้า” กำลังกลายพันธุ์ ภัยใหม่โลกดิจิทัล

Personal Finance

Financial Planning

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

จากบัญชีธนาคาร สู่ บัญชีคริปโตฯ เมื่อ “บัญชีม้า” กำลังกลายพันธุ์ ภัยใหม่โลกดิจิทัล

Date Time: 9 เม.ย. 2568 11:50 น.

Video

SAWAKAMI บลจ.ญี่ปุ่นบุกไทย | BrandStory Exclusive EP.26

Summary

จากบัญชีธนาคาร สู่ บัญชีคริปโตฯ เมื่อ “บัญชีม้า” กำลังกลายพันธุ์ ภัยใหม่โลกดิจิทัล เมื่อมิจฉาชีพ หลอกเหยื่อเปิดวอลเล็ตไว้ “ฟอกเงิน” ธปท.พบ เพียง 3 เดือน มีเงินบาท 6,700 ล้านบาท ถูกแปลงสภาพเป็นคริปโตฯ

ในสังคมไทย คำว่า "บัญชีม้า" ไม่ใช่คำใหม่ แต่กลับเป็นคำที่อยู่คู่กับข่าวอาชญากรรมมานานหลายปี และยิ่งทวีความน่ากลัวขึ้นทุกครั้งที่มีเหยื่อโผล่มาเล่าเรื่องราวผ่านหน้าสื่อ

บัญชีม้าในความหมาย คือ บัญชีธนาคารที่ถูกใช้โดยผู้อื่นเพื่อรับ-โอนเงินที่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวงหรือการกระทำผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นการหลอกลงทุน, คอลเซ็นเตอร์, ซื้อขายออนไลน์ หรือแม้แต่แชร์ลูกโซ่ในยุคใหม่

เรื่องน่าเศร้า เมื่อผู้เป็นเจ้าของบัญชีม้ามักไม่ใช่ผู้ก่อเหตุโดยตรง แต่กลับต้องกลายเป็น “ผู้ต้องสงสัย” ในทางกฎหมาย บางคนตกเป็นเหยื่อเพียงแค่ให้คนรู้จักยืมบัญชี หรือบางคนโดนขโมยข้อมูลบัตรประชาชนไปเปิดบัญชีโดยไม่รู้ตัว

แต่อีกทาง ก็มีคนอีกจำนวนมาก ยอมแลกบัตรประชาชนตัวเองกับเงินแค่ 500 บาทเรื่อยไปถึง 2,000 บาท และในขณะที่ภาครัฐเร่งปราบปรามขบวนการใช้บัญชีม้าในระบบธนาคาร (ยอดสะสม ณ สิ้น ก.พ. 2568 มากกว่า 2 ล้านบัญชี หรือมากกว่า 1 แสน 5 หมื่นรายชื่อ)

ล่าสุด มิจฉาชีพกำลังเปลี่ยนสนามจากโลกที่ผูกติดกับบัญชีธนาคารแบบดั้งเดิมสู่โลกดิจิทัลที่มีกระเป๋าคริปโตเคอร์เรนซีแทนบัญชีธนาคาร ซึ่งดูเหมือนวิธีฟอกเงินจะซับซ้อนและติดตามได้ยากขึ้น เป็นภัยสำหรับคนธรรมดาอย่างยิ่ง

จากรายงานของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่า ปัจจุบันเริ่มเห็นการโอนเงินระหว่างบัญชีม้าเป็นทอด ๆ ที่สั้นลงอย่างมีนัย

จากเดิมที่เคยโอนเงินผ่านบัญชีม้า 4-5 ทอด แต่ละทอดกระจายไปในหลายบัญชี เปลี่ยนมาเป็นการโอนเงินเพียง 1-2 ทอด ในบัญชีม้าธนาคารแล้วมีการโอนไปสู่บัญชีม้าคริปโตเคอร์เรนซีด้วย ซึ่งนับเป็นการเปลี่ยนแปลงที่น่ากังวล เนื่องจากการตรวจสอบต้นสายปลายทางจะทำได้ยากขึ้นแบบทวีคูณ

“บัญชีม้าบุคคล > บัญชีม้านิติบุคคล (บัญชีที่เปิดในนามบริษัท) > บัญชีม้าคริปโตฯ ที่เปิดสำหรับการซื้อขายคริปโตฯ เพื่อเปลี่ยนเงินที่เหยื่อโอนมา”

“ม้าคริปโตฯ” บัญชีม้าพันธุ์ใหม่ที่ร้ายกว่าเดิม

ธปท. รายงานว่า จากข้อมูลในระบบ Central Fraud Registry (CFR) พบว่าช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2567 เพียง 3 เดือน มิจฉาชีพใช้บัญชีคริปโตเคอร์เรนซีเป็นช่องทางหลักในเส้นทางเงินทุจริต โดย 75% ของมูลค่าความเสียหายทั้งหมด หรือเท่ากับ 6,700 ล้านบาท ถูกแปลงสภาพจากเงินบาทเป็นคริปโตฯ

ซึ่งการโอนย้ายดังกล่าวสามารถทำได้ภายในเวลาไม่ถึง 20 นาที ก่อนจะขายกลับคืนเป็นเงินบาทหรือเงินสกุลอื่น ๆ เรียกว่าสามารถจบกระบวนการ “ฟอกเงิน” ได้ภายในวันเดียว

ส่วนข้อความที่บ่งบอกว่าบัญชีม้าคริปโตฯ มีความซับซ้อนกว่าบัญชีม้าธนาคารนั้น มาจากการโอนเงินจากบัญชีธนาคารไปยังบัญชีคริปโตฯ ทำได้ผ่านบัญชีซื้อขายคริปโตถึง 2 รูปแบบด้วยกัน ได้แก่

1. บัญชีซื้อขายผ่านตัวกลาง เช่น ผ่านกระดานเทรด (exchange) ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)

2. บัญชีซื้อขายผ่านแพลตฟอร์มต่างประเทศแบบ Peer-to-Peer (P2P) ซึ่งเป็นการซื้อขายระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายโดยตรง ทั้งนี้ ปัจจุบันประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายรองรับ รวมถึงไม่มีหน่วยงานกำกับดูแล จึงมีความเสี่ยงสูงที่จะถูกใช้เป็นเครื่องมือของมิจฉาชีพ

ขณะข้อสงสัยว่าเดิมที การทำธุรกรรมการซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซีมีความโปร่งใส เพราะมีเทคโนโลยีบล็อกเชนอยู่เบื้องหลัง ทำให้ใคร ๆ ก็สามารถตรวจสอบข้อมูลธุรกรรมย้อนหลังได้ แต่ในความเป็นจริงนั้น

ธปท. ระบุว่า แม้เราจะตรวจสอบการซื้อขายบนบล็อกเชนได้ แต่หากซื้อขายคริปโตฯ แบบ P2P หรือหากบัญชีต้นทางหรือปลายทางไม่ได้มีการ KYC หรือ CDD เอาไว้ ก็จะรู้เพียงเหรียญคริปโตฯ จำนวนนี้ถูกโยกย้ายไปกระเป๋า “ใบไหน” แต่ไม่ทราบว่ากระเป๋าใบนั้นเป็น “ของใคร” ดังนั้น การติดตามเส้นทางเงินเพื่อจับมิจฉาชีพ และนำเงินมาคืนเหยื่อจึงเป็นไปได้ยากมาก

ทั้งนี้ ระหว่างที่ภาครัฐร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพิ่มความเข้มข้นในการจัดการบัญชีม้า แต่มิจฉาชีพก็มีการปรับตัวและขยายออกไปไกลกว่าขอบเขตบัญชีธนาคาร โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างแก้ไขกฎหมายให้รัดกุมมากขึ้น เพื่อให้มีมาตรการป้องกันและคุ้มครองประชาชนที่อาจตกเป็นเหยื่อ รวมถึงยังอาจต้องมีส่วนร่วมรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการหลอกลวงของมิจฉาชีพ

ในแง่ของบุคคลธรรมดาอย่างเรา ๆ นั้น จึงถือว่ามีความเสี่ยงมากขึ้น หากไม่ระมัดระวัง โดยข้อเสนอแนะสำคัญ คือ 1. อย่าเปิดบัญชีธนาคาร/วอลเล็ตให้ผู้อื่น 2. ตรวจสอบธุรกรรมของตนเสมอ และ 3. ระวังภัยรูปแบบใหม่ในโลกการเงินดิจิทัล จากการติดตามข่าวสารอยู่เสมอ ก็สามารถช่วยได้

ที่มา: ธปท.

อ่านข่าวหุ้น ข่าวทองคำ และ ข่าวการลงทุน และ การเงิน กับ Thairath Money ได้ที่

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้  https://www.facebook.com/ThairathMoney


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ