เปิดงบฯ SCT ผู้ค้าทองออนไลน์ รายได้ทะลุ 7 หมื่นล้าน กำไรโต 3 ปีติด หลังระงับบริการฟ้าผ่า

กลายเป็นประเด็นร้อนที่สั่นสะเทือนความเชื่อมั่นในแวดวงการลงทุนทองคำออนไลน์ เมื่อ บริษัท ซินเนอร์จี้ คอมโมดิตี้ส์ เทรด จำกัด หรือ SCT GOLD ผู้ให้บริการซื้อขายทองคำ ได้ประกาศหยุดให้บริการอย่างกะทันหัน สร้างความกังวลและความเสียหายให้กับรายย่อยจำนวนมาก

ประกาศระงับบริการฟ้าผ่า SCT ยันไม่มีเจตนาทุจริต

เหตุการณ์เริ่มบานปลายตั้งแต่สิ้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เมื่อกลุ่มผู้เสียหายซึ่งเป็นนักลงทุนรายย่อยกว่า 50 ราย รวมตัวกันเข้าร้องทุกข์ต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) หลังมีการประกาศหยุดให้บริการ

ท่ามกลางความกังวลดังกล่าว ทาง SCT ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับลูกค้า ซึ่งบางช่วงของประกาศระบุข้อความยืนยันว่า บริษัทไม่เคยมีเจตนาที่จะหลอกลวงหรือฉ้อโกงลูกค้าแต่อย่างใด ทว่าปัจจุบัน บริษัทกำลังเผชิญกับภาวะขาดสภาพคล่องทางการเงินชั่วคราว ประกอบกับปัญหาการทุจริตที่เกิดขึ้นภายในองค์กรเอง

โดยบริษัทได้ดำเนินกิจการมาตั้งแต่ ปี 2554 จนถึงปัจจุบัน นับเป็นเวลา 10 กว่าปี และยังคงมีความมุ่งมั่นที่จะประกอบกิจการต่อไปด้วยความสุจริตด้วยดีมาโดยตลอดจนทำให้ บริษัทมีชื่อเสียงและเป็นที่เชื่อถือ รวมถึงเป็นสามัญสมาชิกของสมาคมค้าทองคำ (ส.0075)

อย่างไรก็ตาม SCT ย้ำว่ากำลังพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อแก้ไขปัญหาและจะเร่งคลี่คลายสถานการณ์ให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด พร้อมทั้งให้คำมั่นว่าสถานะบัญชีและสินทรัพย์ของลูกค้าทุกคนยังคงอยู่ครบถ้วนตามข้อมูลล่าสุดก่อนการระงับบริการ

เปิดงบการเงิน SCT

บริษัท ซินเนอร์จี้ คอมโมดิตี้ เทรด จำกัด หรือ SCT นั้น ก่อตั้งขึ้นเมื่อ วันที่ 18 มีนาคม 2554 เกิดจากการรวมตัวกันของห้างทองขนาดใหญ่ ด้วยการผนึกกำลังของนักธุรกิจ ผู้มีประสบการณ์ในวงการธุรกิจทองคำ เพื่อให้บริการลูกค้าที่เริ่มเปลี่ยนพฤติกรรมมาเป็นการซื้อผ่านทางระบบออนไลน์มากขึ้น มีศูนย์กลางการให้บริการอยู่ที่ กรุงเทพมหานคร ย่านเยาวราช ซึ่งเป็นศูนย์กลางแหล่งค้าส่งทองคำขนาดใหญ่ของประเทศ

โดยเป็น SCT นับเป็นบริษัทนำเข้า-ส่งออกทองคำ เเละแปรรูปทองคำเป็นทองคำแท่งและรูปพรรณ ซึ่งบริษัทเป็นผู้นำเป็นค้าส่งรูปพรรณให้แก่ร้านทองค้าปลีกทั่วประเทศไทย

เมื่อพิจารณาข้อมูลผลประกอบการย้อนหลังของ SCT กลับพบข้อมูลที่น่าสนใจ โดยเฉพาะในช่วง 3 ปีล่าสุด ที่บริษัทมีกำไรสุทธิเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยข้อมูลจาก Corpus X ระบุว่า 

• ปี 2566 มีรายได้รวม 79,168,935,109.15 บาท กำไรสุทธิ 8,423,239.51 บาท
• ปี 2565 มีรายได้รวม 75,036,339,489.54 บาท กำไรสุทธิ 5,989,349.70 บาท
• ปี 2564 มีรายได้รวม 67,471,536,199.21 บาท กำไรสุทธิ 1,918,408.47 บาท
• ปี 2563 มีรายได้รวม 53,645,651,722.20 บาท ขาดทุนสุทธิ 23,155,724.46 บาท
• ปี 2562 มีรายได้รวม 31,722,283,482.24 บาท ขาดทุนสุทธิ 10,972,139.76 บาท

อย่างไรก็ตาม คงต้องติดตามกันต่อไปอย่างใกล้ชิดว่า เรื่องราวครั้งนี้จะปิดฉากลงอย่างไร ผู้ลงทุนและรายย่อยที่ได้รับความเสียหายจะได้รับการเยียวยาหรือไม่ และจะมีใครต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่สั่นคลอนความเชื่อมั่นครั้งใหญ่นี้บ้าง

ที่มา : มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค, sctgold.com, Corpus X

อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่

https://www.thairath.co.th/money/investment 

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้

https://www.facebook.com/ThairathMoney