
การกู้หนี้ยืมสินไม่ใช่เรื่องผิด หาก “จำเป็น” และปูทางเพื่อสร้างรายได้ - ความมั่นคง ในอนาคต หากแต่สถานการณ์ของประเทศไทย ดูเหมือนจะไกลไปจากหลักการมากนัก
เพราะข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) บ่งชี้ว่า ปัจจุบันไทยมีหนี้ครัวเรือนในสัดส่วนค่อนข้างสูง และเป็นหนึ่งในประเทศที่มีหนี้ครัวเรือนสูงเป็นลำดับต้น ๆ ของโลก หนำซ้ำส่วนใหญ่เป็นหนี้ที่อาจไม่สร้างรายได้ และยังกระจุกตัวอยู่กับลูกหนี้ที่มีปัญหาในการจ่ายหนี้คืน นี่เอง ทำให้ประเทศไทยเผชิญกับแนวโน้ม “หนี้เสีย” หรือ NPL (Non-Performing Loan) พุ่งสูง มูลค่าร่วม 1.2 ล้านล้านบาท
แต่รู้หรือไม่? 1 ในตัวการที่ทำให้ “หนี้เสีย” ทั้งภาพรวมและระดับบุคคลเพิ่มขึ้นไม่รู้จบ คือ ดอกเบี้ยที่เรียกว่า “ดอกเบี้ยผิดนัดชำระ”สิ่งที่ตามมาจากการที่เราไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามเวลาที่กำหนด ซึ่งจะนำไปสู่การเรียกเก็บดอกเบี้ยผิดนัด ซึ่งมีผลกระทบที่ทำให้หนี้ของเราเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงขั้นไม่สามารถชำระหนี้ได้หมดและกลายเป็นหนี้เสียในที่สุด
ข้อมูลจากเครดิตบูโรระบุว่า ดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้ หมายถึง ดอกเบี้ยที่เราต้องจ่ายเพิ่มจากดอกเบี้ยปกติ หรือว่าง่าย ๆ ก็คือ ดอกเบี้ยที่เกินจากอัตราปกติในกรณีที่เราผิดนัดชำระหนี้ ซึ่งถือว่าเป็นค่าปรับสำหรับการชำระหนี้ก้อนดังกล่าวค่างวดล่าช้าเกินระยะเวลาที่กำหนด โดยดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้จะคิดบนยอดเงินต้นของค่างวดที่เราผิดนัดชำระหนี้เท่านั้น
เช่น ค่างวดแต่ละเดือนจำนวน 8,000 บาท ของงวดนั้น ๆ แบ่งเป็นดอกเบี้ย 3,000 บาท และเงินต้น 5,000 บาท ดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้จะถูกคิดบนยอดเงินต้น 5,000 บาท โดยคิดตามจำนวนวันตั้งแต่มีการผิดนัดชำระหนี้จนถึงวันที่มีการชำระหนี้ก้อนนั้น
ซึ่งเท่ากับว่าเราจะต้องจ่ายทั้งเงินต้น ดอกเบี้ยปกติ และดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้ ดังนั้นหากเรายังไม่ทำการชำระหนี้สักที ดอกเบี้ยก้อนดังกล่าวก็จะถูกคิดไปเรื่อย ๆ ทุกวัน จนอาจกลายเป็นหนี้ก้อนใหญ่ได้ในที่สุด
แต่การคิดดอกเบี้ยผิดนัดมีข้อกำหนดทางกฎหมายที่สามารถแตกต่างกันไปตามประเภทของการกู้ยืม และประเภทของสัญญากู้ยืม เช่น การกู้ยืมจากธนาคาร หรือจากเงินกู้นอกระบบ
สมมุติว่าเรากู้เงินจากธนาคารจำนวน 100,000 บาท โดยมีดอกเบี้ยปกติ 5% ต่อปี และมีการกำหนดชำระหนี้ในระยะเวลา 12 เดือน หากเราไม่สามารถชำระหนี้ในกำหนดเวลาได้ และธนาคารเรียกเก็บดอกเบี้ยผิดนัดที่ 2% จะทำให้เราต้องจ่ายดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นจากที่กำหนดในสัญญาเดิม ซึ่งเป็นการทำให้หนี้ของเราเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ขณะ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ยกอีกตัวอย่างไว้ให้เห็นภาพชัดเจน เช่น เมื่อกู้ซื้อบ้าน 5 ล้านบาท โดยผ่อนงวดละ 42,000 บาท มีเงินต้น 10,000 บาท ดอกเบี้ย 32,000 บาท หากผิดนัดชำระในงวดที่ 25 จะคิดดอกเบี้ยผิดนั้นแค่งวดที่ 25 ไม่รวมงวด 26 และงวดต่อ ๆ ไป และดอกเบี้ยผิดนัดจะคิดบนฐาน 10,000 บาท
อัตราดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้จะเป็นอัตราดอกเบี้ยตามสัญญาบวกไม่เกิน 3% หากดอกเบี้ยปกติตามสัญญาคือ 7% ดังนั้น อัตราดอกเบี้ยผิดนัดตามสัญญาต้องไม่เกิน 10%
อย่างไรก็ดี สำหรับคนที่ผิดนัดชำระหนี้จะมีค่าใช้จ่ายที่พ่วงมาด้วย ก็คือ “ค่าติดตามทวงถามหนี้” ที่เจ้าหนี้ติดต่อเพื่อทวงถามหนี้ ซึ่งจะถูกคิดและถูกทบไปในรอบบิลถัดไป โดยแต่ละสถาบันการเงินมีการคิดอัตราค่าติดตามทวงถามที่แตกต่างกันออกไปเช่นกัน
เมื่อดอกเบี้ยผิดนัดถูกเพิ่มเข้าไปในหนี้ที่ยังไม่ได้ชำระ ผู้กู้จะต้องชำระดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นตลอดเวลา หากผู้กู้ไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด หรือไม่ได้ทำการชำระขั้นต่ำที่กำหนด หนี้จะสะสมและเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนกลายเป็นหนี้เสีย (Bad debt) ซึ่งส่งผลต่อสถานะทางการเงินของผู้กู้และทำให้การฟื้นฟูกลับมาเป็นเรื่องยาก
ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าหนี้กลายเป็นหนี้เสีย ผู้กู้อาจต้องเผชิญกับการฟ้องร้อง หรือการถูกดำเนินคดีทางกฎหมาย ซึ่งจะทำให้เสียเครดิตและเสี่ยงต่อการถูกยึดทรัพย์สิน
1. ขอปรับโครงสร้างหนี้: หากผู้กู้ไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด สามารถลองติดต่อกับเจ้าหนี้เพื่อขอปรับโครงสร้างหนี้ เช่น การยืดระยะเวลาในการชำระหนี้ หรือการขอลดดอกเบี้ยหรือค่าปรับ เพื่อช่วยให้สามารถชำระหนี้ได้ง่ายขึ้น
2. จัดการงบประมาณและหาทางเพิ่มรายได้: ควบคุมการใช้จ่ายและหาทางเพิ่มรายได้เพื่อใช้ในการชำระหนี้อย่างตรงเวลา
3. การขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ: คำปรึกษาจากที่ปรึกษาทางการเงินหรือผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการหนี้สามารถช่วยเสนอทางออกที่เหมาะสมในการลดภาระหนี้
สำหรับมนุษย์เงินเดือนทั้งหลายที่มีภาระหนี้สิน ไม่ว่าจะเป็นหนี้บัตรเครดิต หนี้บัตรกดเงินสด หนี้สินเชื่อรถ หนี้สินเชื่อบ้าน จากการกู้ยืมสินเชื่อต่าง ๆ จากสถาบันการเงินนั้น สิ่งสำคัญที่ควรพึงระวังให้มาก คือ การมีวินัยในการชำระหนี้ให้ตรงเวลา เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบจากการชำระหนี้ล่าช้า หรือการไม่ชำระหนี้
ที่มา : เครดิตบูโร , ธปท.,thac,คลินิกแก้หนี้ by SAM ,ธนาคารเกียรตินาคินภัทร
อ่านข่าวหุ้น ข่าวทองคำ และ ข่าวการลงทุน และ การเงิน กับ Thairath Money ได้ที่ https://www.thairath.co.th/money/investment
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney