จับตา “หนี้เสีย” บัตรเครดิตพุ่ง หลังปรับเกณฑ์จ่ายขั้นต่ำ 8% กลุ่มบัตรหลายใบหนักสุด!

ธนาคารแห่งประเทศไทย เดินหน้าแก้ไขหนี้ครัวเรือน พร้อมๆ กับการหาทางป้องกัน การก่อหนี้ใหม่ โดย 1 ในมาตรการสำคัญ คือ ปรับการเพิ่มยอดการจ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิต จาก 5% เป็น 8%

ซึ่งมาตรการดังกล่าวอาจทำให้ผู้ถือบัตรต้องเลือกชำระเงินกับบัตรหลักที่ใช้ในชีวิตประจำวันก่อน ในขณะที่จำนวนเม็ดเงินที่ต้องจ่ายนั้นเพิ่มขึ้น ทำให้เห็นสัญญานการผิดนัดชำระหนี้นั้นสูงขึ้น

“อธิศ รุจิรวัฒน์” กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจเนอรัล คาร์ด เซอร์วิสเซส จำกัด ในฐานะตัวแทนบัตรเครดิตในเครือกรุงศรี คอนซูมเมอร์ และประธานชมรมธุรกิจบัตรเครดิต-สมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า หลังจากที่ ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้กำหนดอัตราการจ่ายขั้นต่ำจาก 5% เพิ่มเป็น 8% นั้น ในมิติลูกค้านั้นเริ่มเห็นสัญญานผลกระทบจากมาตรการดังกล่าว โดยในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมามียอดการผิดนัดชำระเพิ่มขึ้น 0.05%

“จากมาตรการเพิ่มการจ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิตเป็น 8% นั้น เราเห็นสัญญาณของลูกค้าที่ได้รับผลกระทบ เพราะส่วนใหญ่ไม่ได้มีบัตรแค่ใบเดียว ทำให้เขาต้องเลือกจ่ายบัตรหลักก่อน โดยเห็นการผิดนัดชำระหนี้ในระดับ 0.05% ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา”

ทั้งนี้ ลูกค้าไม่ได้มีแค่บัตรเดียว บางคนมีหลายบัตร มีบางส่วนผิดชำระเพิ่มขึ้นแล้ว ซึ่งเรามองว่าต้องรอประเมินลูกค้า 6 เดือน หรือในช่วงกลางปีจะเห็นผลกระทบเต็มที่ ซึ่งหลังจากนั้นอาจจะพบกับ ธปท. เพื่อประเมินผลกระทบเพิ่มเติมก่อนที่อาจจะมีมาตรการเพิ่มการชำระขั้นต่ำเป็น 10% ในอนาคต

สำหรับเป้าหมายการดำเนินงานในปี 2567 กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ต้องการยอดการเปิดบัตรใหม่ 365,000 บัตร เพิ่มขึ้น 8% ยอดใช้จ่ายบัตรเครดิต 393,000 ล้านบาท ยอดสินเชื่อใหม่ 1 แสนล้านบาท โดยในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มียอดการเปิด 6.2 หมื่นบัตร เพิ่มขึ้น 6% ยอดใช้จ่ายบัตรเครดิต 6.2 หมื่นล้านบาท เพิ่นขึ้น 10% ยอดสินเชื่อใหม่ 1.5 หมื่นล้าน เพิ่มขึ้น 8% และยอดสินเชื่อคงค้าง 1.42 แสนล้านบาท

โดยกลยุทธ์ที่จะใช้ในปีนี้คือ การร่วมกับพาร์ตเนอร์ในการเติบโต เช่น MUFG ที่มีพาร์ตเนอร์ เราจะต้องพูดคุยกับพาร์ตเนอร์เพื่อให้ผู้บริโภคคนไทยได้ประโยชน์ รวมถึงการทำแคมเปญ เรื่องญี่ปุ่น ต้องกรุงศรี

สมหวัง โตรักตระกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท บัตรกรุงศรีอยุธยา จำกัด เปิดเผยว่า ปีที่แล้วลูกค้ากรุงศรีไปต่างประเทศ 1.83 แสนคน เพิ่มขึ้น 32% ใช้จ่าย 1.5 หมื่นล้านบาท โดย 37% คือมาญี่ปุ่น จากการเซอเวย์ของวีซ่า คนไทยอยากมาญี่ปุ่นมากที่สุด โดยปีที่แล้วคนไทยมาเที่ยว 9.95 แสนคน ลูกค้ากรุงศรีบินมา 1.06 แสนคน ใช้จ่าย 2.2 พันล้านบาท ใช้จ่ายสูงสุด ห้างสรรพสินค้า 2 โรงแรมที่พัก 3 สินค้าแฟชั่น เครื่องแต่งกาย และเครื่องสำอาง

ปีนี้กลยุทธ์ขยายระบบ Japn ecosystem นำเสนอระบบชำระเงินที่หลากหลาย มาจ่ายที่ญี่ปุ่นทำเป็นแบบผ่อนชำระได้ เอาพอยต์มาเป็นส่วนลด หรือชำระค่าใช้จ่ายได้เลย รวมถึงพัฒนาชำระเงินผ่านวอลเล็ต เป้าหมายลูกค้าจะมาญี่ปุ่น 1.5 แสนคน เพิ่มขึ้นปีก่อน 40% และยอดใช้จ่ายผ่านบัตร 2,950 ล้านบาท เพิ่มขึ้นปีก่อน 50%

อธิป ศิลป์พจีการ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารธุรกิจกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ บริษัท อยุธยา แคปปิตอล เซอร์วิสเซส จำกัด และประธานชมรมสินเชื่อส่วนบุคคล ภายใต้สมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า จากมาตรการแก้หนี้เรื้อรังของธนาคารแห่งประเทศไทย ที่จะมีการเริ่มใช้ในวันที่ 1 เม.ย.นี้ คาดว่าจะมีเชื่อลูกค้าเข้าไม่ถึงไม่มากนัก แม้มาตรการดังกล่าวจะกำหนดอัตราดอกเบี้ยลดลงก็ตาม แต่ในความเป็นจริงลูกค้าต้องการสินเชื่อหมุนเวียนไว้ใช้ แต่ลูกค้าที่จะไม่ใช้บริการแล้ว จะเข้าโครงการ การมีวงเงินสำรองจะสำคัญกับลูกค้ามากกว่า หากมีภาวะฉุกเฉินต้องใช้ก็ใช้ได้

ส่วนการประเมินการปล่อยสินเชื่อนั้น ทางบริษัทจะปล่อยสินเชื่อในลูกค้าที่ดี และบริหารความเสี่ยงได้สุดในตลาด สามารถจัดการความเสี่ยงและยอดได้ กลุ่มลูกค้าเข้าค่ายหนี้เรื้อรังอยู่ที่ 7% แม้จะไม่เยอะ แต่ต้องเฝ้าระวัง และวางแผนรัดกุมในการบริหารจัดการแผนลูกค้ากลุ่มนี้ โดยในวันที่ 1 เม.ย. จะเริ่มแจ้งกับลูกค้าว่าเป็นกลุ่มลูกหนี้เรื้อระรัง ให้ลูกค้าปิดสินเชื่อกลุ่มนี้ได้ ในอัตราอกเบี้ยพิเศษ 15% ให้ผ่อนชำระ 5 ปี ความพร้อมกลุ่มกรุงศรี เราตรวจสอบรายชื่อลูกค้าก่อนจัดส่งไปให้ในต้นเดือนหน้า.