
เมื่อพูดถึงการเป็น “หนี้” หลายคนคงจะมีภาพจำว่าเป็นสิ่งไม่ดี ไม่ควรมี เพราะมีแล้วจะเป็นบ่อเกิดของปัญหามากมาย เนื่องจากเรามักถูกสอนให้กลัวการก่อหนี้ แทนที่จะทำความเข้าใจการมีอยู่ของหนี้ และบริหารให้ถูกวิธี ก็จะสามารถพลิกเป็นโอกาสต่อยอดทางการเงินได้ เพราะแท้จริงแล้ว หนี้ไม่ได้มีแค่ “หนี้เสีย” แต่ยังมี “หนี้ดี”
Thairath Money ชวนทำความรู้จัก หนี้ดี คืออะไร มีกี่ประเภท ทำไมถึงควรมี
หนี้ดี คือ การก่อหนี้ที่สร้างประโยชน์และเพิ่มศักยภาพให้กับตัวเรา โดยเป็นหนี้ที่ก่อให้เกิดรายได้ สร้างความมั่งคั่งให้กับเราในอนาคต สรุปง่ายๆ ก็คือ เป็นหนี้ที่ก่อให้เกิดรายได้มากกว่าดอกเบี้ยในการกู้ยืม ไม่เหมือนกับหนี้เสีย หนี้ที่สร้างรายได้น้อย หรืออาจจะไม่ได้ช่วยสร้างรายได้เพิ่มเติม ส่วนใหญ่เป็นกู้ยืมเพื่อใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ทั้งนี้ “หนี้ดี” หากใช้ให้ถูกวิธี ก็จะยิ่งช่วยต่อยอดโอกาสทางการเงิน เสริมความมั่งคั่ง โดยทั่วไปหนี้ดียิ่งเป็นมากเท่าไร ก็จะยิ่งช่วยให้เรามีกระแสเงินสดเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น
เพื่อให้เห็นภาพมากขึ้น เราสามารถแบ่งหนี้ดี ออกเป็น 3 ประเภท ดังนี้
1. หนี้เพื่อความมั่งคง
เป็นการขอกู้สินเชื่อที่อยู่อาศัย ซึ่งถือเป็นขั้นแรกในการสร้างความมั่นคงให้กับชีวิต เพราะบ้านเป็นหนึ่งในปัจจัย 4 ที่จำเป็น ทำให้ “หนี้บ้าน” เป็นหนึ่งในหนี้ที่ดีที่สุดและปลอดภัยที่สุด ในกรณีที่เรามีบ้านอยู่แล้ว ก็สามารถขอสินเชื่อที่อยู่อาศัย นำมาลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์ เช่น คอนโดฯ ทำเลดี สภาพแวดล้อมดี เพื่อขายต่อหรือปล่อยเช่า เป็นช่องทางหารายได้เพิ่มเติม สร้าง passive income ทั้งนี้ โดยปกติแล้วมูลค่าของอสังหาริมทรัพย์จะเพิ่มขึ้นตามเวลา และยังสามารถเอาชนะเงินเฟ้อ ประกอบกับมีการวางแผนการชำระสินเชื่อที่ดี เช่น การรีไฟแนนซ์เมื่อครบกำหนดระยะเวลาที่ธนาคารให้ดอกเบี้ยต่ำ ซึ่งปกติจะทำเมื่อครบ 3 ปี บวกกับการโปะหนี้มากกว่ายอดที่ต้องจ่ายรายเดือน ก็จะช่วยให้เราปิดหนี้เร็ว และทำให้การเป็นหนี้มีความคุ้มค่ามากขึ้น
2. หนี้เพื่อการศึกษา
เป็นหนี้เพื่อการลงทุน เพิ่มศักยภาพให้กับตัวเราเอง การที่เรามีการศึกษาที่สูงขึ้น ก็จะยิ่งทำให้เรามีโอกาสประกอบอาชีพดีๆ ได้เงินเดือนและค่าตอบแทนที่เหมาะสม และจากการบ่มเพาะความสามารถในด้านอื่นๆ ก็จะเป็นตัวช่วยสร้างรายได้เพิ่มเติม
ทั้งนี้ กฎเหล็กที่ต้องคำนึงก่อนกู้หนี้เพื่อการศึกษา คือ เราไม่ควรกู้เงินเพื่อการศึกษาสูงกว่ารายได้ที่คาดว่าจะได้รับในปีแรกของการทำงาน เช่น ถ้าคิดว่าเมื่อเรียนจบมาจะได้รับเงินเดือน เดือนละ 20,000 บาท เท่ากับว่าหนึ่งปีจะมีรายได้ 240,000 บาท ดังนั้นจึงไม่ควรกู้เงินเกินจากนี้ เพราะอาจแบกภาระหนี้ไม่ไหวระหว่างทำงาน จนต้องไปขอกู้เพิ่มเพื่อให้รายได้พอใช้จ่ายค่ากิน ค่าอยู่ในแต่ละเดือน
3. หนี้เพื่อทำธุรกิจหรือขยายธุรกิจ
เป็นหนี้จากการกู้เงินมาเพื่อการประกอบอาชีพ เช่น การกู้สินเชื่อรถยนต์เพื่อเป็นพาหนะในการทำธุรกิจ เช่น การรับจ้างขนสินค้า รับจ้างขับรถไม่ประจำทาง เพื่อหารายได้เสริม หรือแม้กระทั่งการขอสินเชื่อทำธุรกิจ เพื่อลงทุนสร้างธุรกิจเป็นของตัวเอง เนื่องจากหลายคนมีไอเดียธุรกิจที่ดี แต่มีเงินทุนไม่เพียงพอ การกู้เงินเพื่อลงทุนและต่อยอดธุรกิจ หากมีการวางแผนที่ดี จะช่วยสร้างรายได้ทำกำไรได้มากกว่าเงินต้นและดอกเบี้ยที่ยืมมา จึงถือเป็นหนี้ที่ดี ทั้งนี้ ทุกๆ การก่อหนี้ ภาระผ่อนชำระต้องไม่เกิน 1 ใน 3 ของรายได้ต่อเดือน เพื่อไม่ให้กระทบต่อการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
ที่มา: SCB, คลินิกแก้หนี้
ติดตามข้อมูลด้านเศรษฐกิจและนโยบายรัฐบาล กับ Thairath Money ได้ที่
https://www.thairath.co.th/money/economics/thailand_econ
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney