ซัด ธปท.ประเมินจีดีพีสูงเกินจริง มือลั่นส่งเอกสารลับกลุ่มไลน์นักข่าวทำเนียบ

Personal Finance

Financial Planning

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

ซัด ธปท.ประเมินจีดีพีสูงเกินจริง มือลั่นส่งเอกสารลับกลุ่มไลน์นักข่าวทำเนียบ

Date Time: 24 ม.ค. 2567 07:20 น.

Summary

โฆษกรัฐบาลมือลั่น ส่งเอกสารแถลงข่าวประทับตรา “ลับ” ของกระทรวงการคลัง เรื่องประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 66-67 เข้าห้องไลน์นักข่าวทำเนียบรัฐบาล พร้อมตั้งข้อสังเกต จีดีพีปี 66 โตเพียง 1.8% เทียบกับที่ ธปท.คาดการณ์ไว้เมื่อต้นปี 66 ว่าจะโตถึง 3.6% ถือเป็นการเติบโตที่ถดถอยลงกว่าปี 65 ที่โต 2.6% ก่อนจะลบทิ้งในเวลา ต่อมา ขณะที่ IMF คาดรวมดิจิทัลวอลเลตจีดีพีไทยปีนี้โตพุ่ง 4.4% ส่วนปี 66 โต 2.5%

Latest

ถอดบทเรียนการเงิน “Anna Chacon” จากใช้เงิน “เดือนชนเดือน” สู่ความมั่งคั่ง 200 ล้านบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าของวันที่ 23 ม.ค.ที่ผ่านมา นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ส่งเอกสารข่าวกระทรวงการคลัง ที่ยังมีตราประทับลับ และเตรียมแถลงต่อสื่อมวลชนในวันที่ 24 ม.ค. เรื่องการประมาณ การเศรษฐกิจไทยปี 66 และ ปี 67 เข้ามาในห้องไลน์ผู้สื่อข่าวทำเนียบรัฐบาล พร้อมกับมีข้อสังเกตประกอบว่า “สรุปแล้วจีดีพี ปี 66 เติบโตเพียง 1.8% เทียบกับที่ ธปท.คาดการณ์เอาไว้เมื่อต้นปี 66 ว่า จะเติบโตถึง 3.6% ถือเป็นการเติบโตที่ถดถอยลงกว่าปี 65 ที่เติบโต 2.6%” อย่างไรก็ตาม ในเวลา 11.00 น. หลังจากมีข่าวเผยแพร่ตามสื่อออนไลน์ต่างๆ นายชัยได้แจ้งเพิ่มเติมว่า “รายงานข้างต้นยังเป็นเพียงฉบับร่าง ต้องมีการตรวจทานความถูกต้องทั้งตัวเลขและข้อความอยู่ ดังนั้น ขอได้โปรดอย่าเพิ่งนำออกเผยแพร่ จนกว่าจะได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการจากกระทรวงคลัง” พร้อมกับลบไฟล์ที่ส่งมาออกจากห้องไลน์

สำหรับเนื้อหาในเอกสารข่าวของกระทรวงการคลัง ได้ระบุว่าเศรษฐกิจไทยปี 66 คาดว่าจะขยายตัวที่ 1.8% และเร่งตัวขึ้นเป็น 2.8% ในปี 67 โดยมีปัจจัยสำคัญจากการหดตัวของการผลิตภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะสินค้าหมวดยานยนต์ คอมพิวเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งนี้ มูลค่าการส่งออกสินค้าทั้งปี 66 คาดจะหดตัวที่ -1.5% เป็นผลจากอุปสงค์ที่ชะลอตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าสำคัญ ขณะที่มูลค่าการนำเข้าจะหดตัว -1.9% ส่วนปัจจัยหนุนเศรษฐกิจปี 66 มาจากการท่องเที่ยวขยายตัวและการบริโภคภาคเอกชนเป็นสำคัญ

สำหรับปี 67 กระทรวงการคลังคาดว่าเศรษฐกิจ ไทยจะขยายตัวเร่งขึ้นที่ 2.8% ต่อปี (ช่วงคาดการณ์ที่ 2.3-3.3%) เป็นการขยายตัวที่มาจากทุกเครื่องยนต์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ได้ปัจจัยสนับสนุนจากการส่งออกสินค้าและบริการที่ขยายตัวสูง ในภาคท่องเที่ยว คาดว่าปี 67 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทย 33.5 ล้านคน ขยายตัว 19.5% ต่อปี และมีรายได้จากการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวต่างชาติ 1.48 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.6% ต่อปี ส่งผลดีต่อ ธุรกิจท่องเที่ยว นอกจากนี้ การส่งออกสินค้าจะขยายตัวตามอุปสงค์ในตลาดโลกและเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า ทำให้มูลค่าส่งออกสินค้าจะขยายตัว 4.2% ต่อปี และมูลค่าการนำเข้าสินค้าจะขยายตัวที่ 4.0%

ส่วนด้านอุปสงค์ในประเทศคาดว่าจะขยายตัวได้ต่อเนื่อง โดยการบริโภคภาคเอกชนจะขยายตัวได้ 3.3% ต่อปี ตามการเพิ่มขึ้นของรายได้ กิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศ ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนขยายตัวที่ 3.2% และด้านเสถียรภาพภายในประเทศคาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะอยู่ที่ 1.0% เร่งขึ้นจากปีก่อนตามอุปสงค์ภายในประเทศที่ขยายตัวดี ขณะที่เสถียรภาพภายนอกประเทศ ดุลบริการมีแนวโน้มกลับมาเกินดุล ตามการเพิ่มขึ้น ของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ส่งผลให้ดุลบัญชีเดินสะพัดปี 67 มีแนวโน้มกลับมาเกินดุล 10.0 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 1.8% ของจีดีพี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 66-67 ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ปี 66 ขยายตัว 2.4% และปี 67 ขยายตัว 3.2% ส่วนสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) คาดการณ์ปี 66 ขยายตัว 2.5% และปี 67 ขยายตัว 2.7-3.7% ขณะที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ประเมินภาวะเศรษฐกิจไทยปี 66 โดยมีมุมมองที่สอดคล้องกับทางการไทยต่อแนวโน้มเศรษฐกิจที่ยังฟื้นตัว แม้จะชะลอลงบ้าง จากการดำเนินนโยบายการเงินเข้มงวดของกลุ่มประเทศเศรษฐกิจหลัก การปรับขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ และการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน โดย IMF คาดว่าเศรษฐกิจไทยปี 66 จะขยายตัวได้ 2.5% และปี 67 จะเร่งขึ้นเป็น 4.4% (กรณีรวมผลมาตรการ Digital Wallet) จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและการบริโภคภายในประเทศที่เติบโตต่อเนื่อง สำหรับอัตราเงินเฟ้อทั่วไป IMF คาดว่าปี 66 จะอยู่ที่ 1.3% และ 1.7% ในปี 67 อยู่ในกรอบเป้าหมายของ ธปท. IMF ยังเห็นว่านโยบายการเงินปัจจุบันมีความเหมาะสม และควรติดตามความเสี่ยงต่อเสถียรภาพระบบการเงินอย่างใกล้ชิด สอดคล้องกับกรอบการดำเนินนโยบายการเงินของ กนง. ที่มีเป้าหมายเพื่อรักษาเสถียรภาพราคาควบคู่กับดูแลเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนและเต็มศักยภาพ และระบบการเงินมีเสถียรภาพ

IMF ยังสนับสนุนแผน ธปท.ในการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนอย่างยั่งยืน ผ่านเกณฑ์การให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรมและการดูแลหนี้เรื้อรัง โดย IMF แนะทางการไทยให้ความสำคัญกับการปฏิรูป โครงสร้างเศรษฐกิจ รองรับการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลและเศรษฐกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม คู่กับการ ลดทอนผลกระทบจากการแบ่งขั้วทางภูมิเศรษฐศาสตร์ รวมทั้งสนับสนุนการเพิ่มผลิตภาพ โดยเฉพาะการเพิ่ม ทักษะแรงงาน การลงทุน โครงสร้างพื้นฐาน การเพิ่มความสามารถการแข่งขันและปรับเกณฑ์ทางธุรกิจให้เหมาะสม เพื่อให้เศรษฐกิจไทยโตได้ตามศักยภาพ.

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ