จับตาเงินบาทอ่อนค่า หลังทะลุ 35.00 บาทต่อดอลลาร์ กูรูคาดไม่น่าไปแตะที่ 36.00 บาทต่อดอลลาร์ หวั่นผู้ส่งออกได้รับผลกระทบแนะใช้ Option ปิดความเสี่ยง
เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. 65 นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ค่าเงินบาทมีแนวโน้มผันผวนหนักในวันนี้ จนถึงช่วงรับรู้การประชุมเฟด โดยการอ่อนค่าของเงินบาทในช่วงที่ผ่านมานั้น มาจากปัจจัยการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ตามแนวโน้มการเร่งขึ้นดอกเบี้ยของเฟดเป็นหลัก
ปัจจุบัน ผู้เล่นในตลาดและนักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ว่า เฟดจะเร่งขึ้นดอกเบี้ยถึง 0.75% ในการประชุมครั้งนี้และการประชุมในเดือนกรกฎาคม ทำให้มีโอกาสที่ผู้เล่นในตลาดอาจ Sell on Fact เงินดอลลาร์ กดดันให้เงินดอลลาร์ย่อตัวลงได้บ้าง หากเฟดไม่ได้ส่งสัญญาณพร้อมเร่งขึ้นดอกเบี้ยรุนแรงอย่างต่อเนื่อง หรือ เฟดแสดงความกังวลแนวโน้มเศรษฐกิจมากขึ้น
อย่างไรก็ดี การอ่อนค่าของเงินบาททะลุระดับ 35.00 บาทต่อดอลลาร์ อาจทำให้ฝั่งผู้ประกอบการบางส่วน โดยเฉพาะในฝั่งผู้นำเข้าวิตกกังวลและเร่งเข้ามาซื้อเงินดอลลาร์ ซึ่งภาพดังกล่าวอาจยิ่งหนุนให้เงินบาทผันผวนในฝั่งอ่อนค่าไปสู่ระดับ 35.10-35.15 บาทต่อดอลลาร์ได้
ทั้งนี้ การอ่อนค่าของเงินบาทอาจอยู่ถูกชะลอลงได้บ้าง จากแรงขายของฝั่งผู้ส่งออกบางส่วน รวมถึงการเข้ามาดูแลความผันผวนของค่าเงินจากทางธนาคารแห่งประเทศไทย หลังจากที่เงินบาทได้อ่อนค่าอย่างรวดเร็วในช่วงที่ผ่านมา
นอกจากนี้ การปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์ไทยในช่วงที่ผ่านมา อาจทำให้นักลงทุนต่างชาติบางส่วนมองว่าระดับยีลด์เริ่มมีความน่าสนใจมากขึ้นและอาจทยอยกลับเข้ามาซื้อบอนด์ไทยได้บ้าง ซึ่งฟันด์โฟลว์ดังกล่าวก็สามารถชะลอการอ่อนค่าได้เช่นกัน
โดย เราคงมองว่า เงินบาทอาจไม่ได้อ่อนค่าทะลุโซนแนวต้านใหม่แถวระดับ 35.50 บาทต่อดอลลาร์ไปไกล หรือ ไปทดสอบระดับ 36.00 บาทต่อดอลลาร์ได้ง่ายๆ หากตลาดการเงินไม่ได้เผชิญภาวะปิดรับความเสี่ยงสินทรัพย์ในฝั่ง EM Asia ที่รุนแรง ซึ่งเราคาดว่าจะเกิดขึ้นในกรณีที่ ตลาดกลับมากังวลแนวโน้มการใช้มาตรการ Lockdown ในวงกว้างของจีน
ในช่วงที่ตลาดการเงินยังมีความผันผวนสูง เราคงแนะนำว่า ผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลาย อาทิ ใช้ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน โดยเรามองกรอบเงินบาทวันนี้ (15 มิ.ย. 65) คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.95-35.20 บาทต่อดอลลาร์
สำหรับวันนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้น ผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด (ทราบผลในเวลา 01.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย) โดยบรรดานักวิเคราะห์รวมถึงผู้เล่นส่วนใหญ่ในตลาดต่างมองว่า ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินเฟด หรือ FOMC เดือนมิ.ย. เฟดจะเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.75% สู่ระดับ 1.50%-1.75%
พร้อมกันนี้ ความเสี่ยงที่เงินเฟ้อยังมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นจะทำให้ เฟดสามารถส่งสัญญาณพร้อมเร่งขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมครั้งถัดไป ซึ่งตลาดจะรอจับตาประมาณการแนวโน้มเศรษฐกิจใหม่ของเฟด รวมถึงคาดการณ์ดอกเบี้ยเฟด หรือ Dot Plot ใหม่ เพื่อประเมินแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด
นอกจากนี้ ตลาดจะจับตาถ้อยแถลงของประธานเฟดในช่วง Press Conference เพื่อจับตาการส่งสัญญาณถึงแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด และที่สำคัญ ตลาดอาจรอฟังการประเมินความเสี่ยงที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจชะลอตัวหนัก จนเข้าสู่สภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Recession) จากประธานเฟด หลังจากประเด็นดังกล่าวเริ่มเป็นที่กล่าวถึงในตลาดการเงินมากขึ้น.