ธนาคารกรุงเทพ ส่งแอปฯ atta หรือ อั๊ตต้า ให้บริการยืนยันตัวตนด้วย Mobile ID เชื่อมลูกค้าค่ายโทรศัพท์มือถือ ทำธุรกรรมทั้งออนไลน์-ไปสาขา
เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 64 นายกึกก้อง รักเผ่าพันธุ์ รองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL กล่าวว่า ธนาคารได้เริ่มเปิดให้บริการยืนยันตัวตนด้วยรูปแบบบัตรประจำตัวอิเล็กทรอนิกส์บนโทรศัพท์เคลื่อนที่ หรือ Mobile ID
โดยลูกค้าของผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ในเครือข่าย AIS, DTAC และ TRUE ที่สมัครใช้บริการ Mobile ID เรียบร้อยแล้ว สามารถยืนยันตัวตนเพื่อทำธุรกรรมกับธนาคารได้
ทั้งนี้ จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการสมัครใช้บริการต่างๆ กับธนาคาร ไม่ต้องใช้เอกสาร ทำธุรกรรมด้วยตนเองได้ง่าย ทุกที่ ทุกเวลา และมีความปลอดภัย ซึ่งนับเป็นธนาคารแห่งแรกที่ได้เริ่มเปิดให้บริการนี้
เมื่อลูกค้าได้สมัครใช้งาน Mobile ID กับผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือเรียบร้อยแล้ว จะสามารถใช้ Mobile ID เพื่อยืนยันตัวตนเพื่อทำธุรกรรมต่างๆ กับธนาคารกรุงเทพได้ 2 รูปแบบ ดังนี้
ธุรกรรมออนไลน์ - ลูกค้าสามารถใช้ Mobile ID เพื่อยันยันตัวตนสำหรับการเปิดบัญชีสะสมทรัพย์ e-Savings พร้อมสมัครโมบายแบงก์กิ้ง จากธนาคารกรุงเทพ เพียงทำรายการผ่าน atta หรือ อั๊ตต้า แอปพลิเคชันที่ธนาคารกรุงเทพพัฒนาขึ้นมาเป็นพิเศษ เพื่อให้บริการยืนยันตัวตนโดยใช้เบอร์โทรศัพท์มือถือ (Mobile ID)
ร่วมกับแอปของผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ ช่วยให้ลูกค้าสะดวกมากขึ้น ไม่ต้องเตรียมเอกสาร ทั้งยังทำธุรกรรมการเงินแบบดิจิทัลด้วยตนเองอย่างเต็มรูปแบบได้ทุกที่ ทุกเวลา โดยไม่ต้องไปสาขา (สำหรับลูกค้า AIS ใช้บริการ Mobile ID ผ่านแอปพลิเคชัน atta ร่วมกับแอปพลิเคชัน myAIS)
สำหรับ atta เป็นแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน ที่รองรับระบบปฏิบัติการทั้ง iOS และ Android พัฒนาโดยธนาคารกรุงเทพ เพื่อรองรับบริการยืนยันตัวตนด้วย Mobile ID โดยทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างผู้ใช้งาน (ลูกค้าผู้ต้องการยืนยันตัวตนเพื่อทำธุรกรรม) กับผู้ให้บริการ (หน่วยงานภาครัฐและเอกชน) ร่วมกับผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่เข้าร่วมโครงการ Mobile ID
ธุรกรรมที่สาขา - ลูกค้าสามารถใช้ Mobile ID เพื่อยืนยันความเป็นเจ้าของหมายเลขโทรศัพท์มือถือ สำหรับประกอบการทำธุรกรรมเปิดบัญชี ณ สาขาธนาคาร โดยสามารถทำธุรกรรมเปิดบัญชีเงินฝาก, เปิดบัญชีเงินฝากพร้อมทำบัตรเดบิต/สมัครโมบายแบงก์กิ้ง จากธนาคารกรุงเทพ/บัวหลวง ไอแบงก์กิ้ง/SMS Account Alert, เปิดบัญชีกองทุนรวม, เปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์
รวมถึงเปิดบัญชีพันธบัตร ผ่าน 9 สาขาของธนาคารกรุงเทพ ได้แก่ สำนักงานใหญ่สีลม, จามจุรีสแควร์, ดิ เอ็มควอเทียร์, เซ็นทรัล เอ็มบาสซี, เซ็นทรัล ลาดพร้าว, เดอะ คริสตัล 2, เซ็นทรัล วิลเลจ, ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต 2, เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน (สำหรับลูกค้า DTAC และ TRUE ใช้บริการ Mobile ID ผ่านแอปพลิเคชัน DTAC/TrueID)
อย่างไรก็ตาม บริการ Mobile ID เป็นการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมต่างๆ ได้โดยไม่จำเป็นต้องพกบัตรประชาชนไปแสดง หรือยืนยันตัวตน เพียงใช้ Mobile ID แทนบัตรประชาชนได้เลย จะใช้งานระบบออนไลน์ก็ง่าย ทำธุรกรรมที่ไหน เมื่อไหร่ก็ได้ หรือกรณีไปใช้บริการที่สาขาก็มั่นใจ สามารถยืนยันเบอร์โทรศัพท์ได้ง่ายๆ
ที่สำคัญยังมีความน่าเชื่อถือและปลอดภัย เนื่องจากนำเทคโนโลยีทันสมัย เช่น บล็อกเชน และระบบการยืนยันตัวตนแบบหลายองค์ประกอบ (Multi-factor Authentication) มาสนับสนุน ลูกค้าเพียงสมัครใช้บริการ Mobile ID และพิสูจน์ตัวตนกับผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่เพียงครั้งเดียว ก็สามารถใช้ยืนยันตัวตนเพื่อทำธุรรมกับธนาคารกรุงเทพได้ รวมถึงบริการอื่นๆ ที่จะทยอยเปิดเพิ่มเติมในอนาคตอีกด้วย
นายกึกก้อง กล่าวอีกว่า การให้บริการทางการเงินนั้นมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องยืนยันตัวบุคคลของลูกค้าได้อย่างถูกต้องแม่นยำ เพื่อความปลอดภัยในการทำธุรกรรม ซึ่งเป็นสิ่งที่ธนาคารกรุงเทพให้ความสำคัญทั้งการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมบริการด้านการเงินรูปแบบใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าในการใช้บริการทางการเงินกับธนาคาร ซึ่งสอดคล้องกับทิศทางการเปลี่ยนแปลงในอนาคตที่ระบบดิจิทัลจะมีความสำคัญมากขึ้น ขณะเดียวกันธนาคารยังคงคำนึงถึงความปลอดภัยของลูกค้าเป็นพื้นฐานอยู่เสมอ เพื่อตอกย้ำความน่าเชื่อถือในฐานะสถาบันการเงิน.