นางแพตริเซีย มงคลวนิช ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยแผนการออกพันธบัตรออมทรัพย์ในปีงบประมาณ 64 ว่าวงเงินสูงสุดไม่เกิน 100,000 ล้านบาท โดยลอตแรกมีแผนออกพันธบัตรออมทรัพย์หลังช่วงปีใหม่ 50,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม การออกพันธบัตรออมทรัพย์จะต้องดูความต้องการการใช้เงินด้วย ถ้ายังไม่มีความต้องการ สบน.ก็อาจจะไม่ต้องออกพันธบัตรออมทรัพย์
“หากต้องการใช้เงินพันธบัตรออมทรัพย์ถือเป็นตัวเลือกที่ดี เนื่องจากประชาชนได้รับผลตอบแทนค่อนข้างดี ส่วนการออกพันธบัตรหลังช่วงปีใหม่นั้น จะใช้สำหรับชดเชยการขาดดุล หรือเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 นั้น จะต้องดูรายละเอียดอีกครั้งว่าใช้เงินช่วยเหลือทั้งสองอย่างได้หรือไม่ และจะต้องดูว่าเรื่องไหนต้องการใช้เงินมาก กว่าด้วย” อย่างไรก็ตาม อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรออมทรัพย์ที่จะให้ จะเป็นเท่าไร ต้องรอดูดอกเบี้ยนโยบาย ของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ณ วันที่ออกพันธบัตรก่อน
สำหรับการกู้ขาดดุลกรณีรายจ่ายสูงกว่ารายได้นั้น เป็นไปตามกฎหมายของกระทรวงการคลัง ที่ระบุว่าสามารถกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณได้ 20% ของงบประมาณรายจ่ายบวกกับ 80% ของต้นเงินชำระคืนเงินกู้ ซึ่งวงเงินอยู่ที่ 700,000 ล้านบาท และภายใต้พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ปี 64 ที่เป็นขาดดุลงบประมาณ 600,000 ล้านบาท ซึ่งถ้าลบกันแล้วจะเหลือช่องว่างให้กู้เงินกรณีขาดดุลอยู่ได้ราว 100,000 ล้านบาท ส่วนถ้าหากจะใช้เงินมากกว่าที่สามารถกู้ได้นั้น ทำได้แต่จะต้องตรากฎหมายพิเศษขึ้นมาซึ่งเรื่องนี้จะต้องปรึกษากับฝ่ายนโยบายด้วย แต่ทุกอย่างต้องดูความเหมาะสม
“ส่วนจะใช้เงินมากกว่างบขาดดุลที่มีอยู่หรือไม่ต้องรอดูนโยบายด้วย และยังเร็วเกินไปที่จะพูดตอนนี้ เพราะขณะนี้เศรษฐกิจฟื้นตัวค่อนข้างแรง ซึ่งอาจส่งผลให้การจัดเก็บรายได้ดีขึ้นกว่าที่คาดไว้ ดังนั้นการกู้กรณีรายจ่ายสูงกว่ารายได้จำเป็นหรือไม่นั้นคงตอบไม่ได้ ต้องรอดูตัวเลขจัดเก็บที่ชัดเจนก่อน ซึ่งคาดว่าจะรู้ตัวเลขที่ชัดเจนในช่วงไตร มาสสุดท้ายของปีงบประมาณ ซึ่งสบน.ถือเป็นหน่วยงานท้ายๆ ที่จะรู้ เพราะถ้ารายได้ไม่ตามเป้าถึงจะใช้เงินในส่วนนี้”.