ยาหอม!ดัชนีปี 62 พุ่งแตะสูงสุด 2,000 จุด

Personal Finance

Financial Planning

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

ยาหอม!ดัชนีปี 62 พุ่งแตะสูงสุด 2,000 จุด

Date Time: 4 ม.ค. 2562 08:43 น.

Summary

  • นายอาทิตย์ นันทวิทยา กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการส่งเสริมการออมให้กับผู้ฝากเงินรายย่อย

Latest

ออมเงินยังไง?ให้ไม่ต้องพึ่ง”ประกันสังคม”ตอนแก่

ไทยพาณิชย์-กสิกรไทย ขึ้นดอกเงินฝาก หุ้นไทยจ่อดี๊ด๊าเงินนอกไหลกลับ

นายอาทิตย์ นันทวิทยา กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการส่งเสริมการออมให้กับผู้ฝากเงินรายย่อย ธนาคารได้ตัดสินใจปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 3 เดือน 6 เดือน 12 เดือน 24 เดือน และ 36 เดือน ในอัตรา 0.25% ต่อปี สำหรับบุคคลธรรมดาที่มียอดเงินฝากไม่เกิน 5 ล้านบาท ทำให้มีอัตราดอกเบี้ยเงินฝากตั้งแต่ 1.15 -1.85% ต่อปี ซึ่งเป็นดอกเบี้ยเงินฝากประจำสำหรับบุคคลธรรมดาที่สูงที่สุดในระบบ โดยอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำใหม่จะมีผลตั้งแต่วันที่ 4 ม.ค.เป็นต้นไป

นายปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ธนาคารได้ปรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 3 เดือน 6 เดือน 12 เดือน 24 เดือน และ 36 เดือน สำหรับวงเงินไม่เกิน 5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.25% ต่อปี ทำให้อัตราดอกเบี้ย เงินฝากประจำอยู่ที่ 1.15% ถึง 1.85% ต่อปี โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 5 ม.ค.62

“ไทยพาณิชย์ถือเป็นธนาคารพาณิชย์แรกที่ปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากประจำให้กับผู้ฝากเงินรายย่อย ขณะเดียวกัน ธนาคารยังตรึงดอกเบี้ยเงินกู้ไว้ที่ระดับเดิม เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระให้ประชาชน โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย”

วันเดียวกัน นายพรเทพ ชูพันธุ์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน สายงานวิจัย บล.ไทยพาณิชย์ กล่าวถึงแนวโน้มและกลยุทธ์การลงทุนในตลาดหุ้นไทยปีนี้ว่า บริษัทยังคงเป้าดัชนีหุ้นไทยปี 62 ว่าจะขึ้นไปสูงสุดได้ที่ระดับ 2,000 จุด โดยปัจจัยภายในประเทศคาดว่า เศรษฐกิจไทยปีนี้จะเติบโตได้ 4% จากวัฏจักรการลงทุนในประเทศที่มากขึ้น ส่วน กนง.มีโอกาสปรับขึ้นดอกเบี้ย อีก 1-3 ครั้งในปีนี้ ส่วนกำไรสุทธิบริษัทจดทะเบียนปีนี้จะเติบโตได้ 7%

ส่วนปัจจัยภายนอกประเทศ พบว่าสัญญาณเศรษฐกิจโลกเริ่มกลับมาฟื้นตัว แม้จะเติบโตในอัตราชะลอตัว โดยคาดว่ากระแสการลงทุนจะเริ่มเปลี่ยนทิศมาสนใจตลาดเกิดใหม่แทน หลังจากเศรษฐกิจสหรัฐฯลดความร้อนแรงลงในปี 62 ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ชะลอการขึ้นดอกเบี้ย ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯหยุดแข็งค่า ซึ่งถือว่าเป็นผลดีต่อหุ้นตลาดเกิดใหม่ และจะดึงดูดให้กระแสเงินทุนเปลี่ยนทิศมาลงทุนในภูมิภาคนี้รวมทั้งตลาดหุ้นไทย

นายพรเทพยังเจาะลึกถึงตลาดหุ้นไตรมาส 1 ปีนี้ว่ามีแนวโน้มสดใสดัชนีหุ้นปรับตัวขึ้นจากแรงหนุนที่เศรษฐกิจขยายตัวสูงกว่าค่าเฉลี่ย กำไรบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่เพิ่มขึ้น และราคาหรือ Valuation ที่น่าสนใจ โดยตามสถิติในอดีตช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ.ของทุกปี จะเป็นช่วงที่ดัชนีปรับเพิ่มขึ้น ซึ่งเชื่อว่ามีโอกาสกลับไปแตะ 1,600-1,700 จุดในช่วง 1-2 เดือนนี้ได้ จากมีปัจจัยหนุน ทั้งการเลือกตั้งที่จะช่วยให้กำลังซื้อของผู้มีรายได้น้อย และความต่อเนื่องในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ส่งผลนักลงทุนต่างชาติเชื่อมั่นมากขึ้นและทำให้กระแสเงินทุนไหลกลับ ซึ่งหากเป็นไปตามคาดมีโอกาสที่ดัชนีหุ้นไทยกลับไปที่ 1,700-1,850 จุดในครึ่งปีแรกได้.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ