ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า บริษัท หลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส ออกบทวิเคราะห์ปรับลดเป้ากำไรธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB ซึ่งเป็นผลจากไตรมาส 2 ต้องตั้งสำรองหนี้ของบริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) หรือ EARTH เต็มจำนวน ฉุดกำไรทรุดตัวลง โดยเอเซีย พลัส ระบุว่า คุณภาพสินทรัพย์ที่อ่อนแอยังเป็นปัญหาหลักของ KTB ในปีนี้ เมื่อพบว่าหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เช่น กรณี EARTH จะกระทบโดยตรงไปที่กำไรสุทธิและมูลค่าพื้นฐาน
ทั้งนี้ เนื่องจากความกังวลเรื่องการจัดชั้นลูกหนี้ของ EARTH มูลค่า 12,000 ล้านบาท ซึ่งคาดธนาคารต้องกันสำรองหนี้ทั้งจำนวน โดยไม่คิดมูลค่าหลักประกัน ทำให้ฝ่ายวิจัยคาดการณ์สัดส่วนเอ็นพีแอล ต่อสินเชื่อรวม ณ สิ้นไตรมาส 2 เพิ่มเป็น 4.88% จาก 4.36% ในไตรมาส 1 ภายใต้สมมติฐานที่ไม่รวมลูกหนี้รายอื่นที่มีโอกาสเป็นเอ็นพีแอลเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ปรับลดคาดการณ์กำไรสุทธิไตรมาส 2 เหลือเพียง 4,780 ล้านบาท หดตัวถึง 44.0% จากไตรมาสก่อนหน้า และหดตัว 44.9%จากช่วงเดียวกันปีก่อน จากเดิมที่คาดกำไรสุทธิ 7,790 ล้านบาท ขณะที่คาดการณ์กำไรสุทธิปี 60 หดตัวจากงวดเดียวกันปีก่อนถึง 15.5% แต่จะพลิกกลับมาโต 20.6% ในปี 61 จากภาระสำรองที่เริ่มลดลง
อย่างไรก็ตาม นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ กล่าวถึงกรณีปัญหาหนี้เอ็นพีแอลของสถาบันการเงินหลังเกิดกรณีการผิดนัดชำระหนี้ของ EARTH ว่า มั่นใจว่าระบบธนาคารพาณิชย์ไทยยังมีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง แม้จะมีเอ็นพีแอลสูงขึ้นกว่าเดิม แต่ยังเป็นระดับที่ธนาคารยังสามารถบริหารจัดการได้ ทำให้ไม่น่ากังวล ขณะที่ตลาดหุ้นไทยช่วงนี้ถือว่าอยู่ในภาวะสงบ ไม่หวือหวา ไม่มีปัจจัยลบและปัจจัยบวกที่มีอิทธิพลต่อการลงทุนเข้ามากระตุ้น ส่วนมูลค่าการซื้อขายปีนี้จะต่ำกว่าปีก่อนหรือไม่นั้นต้องรอดูสถานการณ์ต่อไป.