
โลกของการลงทุนเต็มไปด้วยความวุ่นวาย หลายคนรู้สึกว่าต้องวิ่งตามกระแส ตามข่าวสาร หรือเทรดหุ้นรายวันเพื่อให้ไม่ตกขบวน แต่ “ซีเค เจิง” ซีอีโอของ Fastwork มีมุมมองที่แตกต่างออกไป เขาเชื่อว่าถ้าอยากสร้างความแตกต่างในการลงทุน เราต้องมองไปในระยะที่ยาวขึ้น 5 ปี หรือ 10 ปี ไม่ใช่คิดแบบคนส่วนใหญ่ที่อยากรวยเร็วภายในสัปดาห์หน้าหรือพรุ่งนี้
มาเจาะลึกกันว่าในเรื่องการลงทุน “ซีเค เจิง” ซีอีโอ Fastwork มีมุมมองแบบไหนผ่านบทสรุปจากช่วง “FinFlu กูรูสอนน้อง” บนเวที Thairath Money Campus Tour 2025 ที่มหาวิทยาลัยรังสิต
ก่อนจะเข้าสู่โลกการลงทุน ซีเคย้ำว่าเราควรลงทุนในตัวเองก่อน โดยเฉพาะการเพิ่มความรู้นอกห้องเรียนที่จะทำให้เราโดดเด่นไม่ว่าจะทำอะไร ซึ่งก่อนจะลงทุนเราควรพัฒนาทุกสกิลให้เต็มที่ เพื่อรอจังหวะและโอกาสที่เหมาะสม ถึงจุดหนึ่งเมื่อคุณสร้างรายได้เพียงพอ การลงทุนจะเป็นสิ่งที่ตามมา
ส่วนถ้าถามว่าควรจะลงทุนในหุ้น หรืออุตสาหกรรมแบบไหน ซีเคย้ำว่า “หุ้น อย่าซื้อตามเพื่อน ให้ซื้อตามสินค้าและบริการของหุ้นตัวนี้ ต้องรู้สึกว่าชอบและต้องเข้าใจสินค้าบริการของเขาก่อน นั่นสำคัญที่สุด”
สิ่งสำคัญที่สุดไม่ใช่ P/E, รายได้ หรือกำไรในปัจจุบัน แต่คือการที่เราเข้าใจว่าบริษัทนั้นขายอะไร และเราเชื่อว่าสินค้าหรือบริการนั้นจะดีขึ้นในอนาคตหรือไม่ และมองให้ไกลไปถึง 5-10 ปี
เราต้องคาดการณ์ไปว่าโลกจะเป็นอย่างไรในอนาคต สินค้า บริการแบบไหนที่จะเติบโตได้ “ใครที่สามารถมองเห็นอนาคตได้ดีกว่า นั่นแหละคือผู้ชนะ”
ซีเค เจิง ยกตัวอย่างบริษัทอย่าง NVIDIA ที่แม้ปัจจุบันจะมียอดขายและกำไรน้อยกว่า Apple แต่กลับมีมูลค่าบริษัทสูงกว่ามาก นั่นเป็นเพราะนักลงทุนไม่ได้เทรดตามยอดขายปัจจุบัน แต่พวกเขาเทรดตาม “ความรู้สึกที่มีต่ออนาคต” ของบริษัทเหล่านั้น
เมื่อถามว่าอนาคตการลงทุนที่น่าสนใจ ซีเค เล่าว่าเขาสนใจใน Artificial Intelligence หรือ AI มากที่สุด เพราะต้องยอมรับว่า เม็ดเงินการลงทุน เทคโนโลยีที่ลงไปในอุตสาหกรรม AI กำลังพัฒนามาเป็นสินค้าและบริการที่น่าสนใจ รวมถึงหลากหลายมากขึ้น
AI ถือว่าน่าสนใจมากๆ เมื่อเทียบกับคริปโตเคอร์เรนซีที่ ซีเคยอมรับว่า ตื่นเต้นน้อยลงไปเยอะ จากในอดีตที่เห็นโอกาสในการพัฒนาสู่บริการใหม่ๆ (พอร์ตคริปโตฯ ไม่ได้ลงทุนเพิ่มแต่มูลค่าเติบโตขึ้นมากในช่วงที่ผ่านมา) แต่ตอนนี้กลับเห็นสิ่งใหม่ๆ ของใหม่ๆ ไปอยู่ในตลาด AI มากกว่าอย่างมหาศาลและจะกลายเป็นตัวช่วยให้คนต่อยอดธุรกิจได้มากขึ้น ในรูปแบบที่ง่ายยิ่งขึ้น
ที่สำคัญคือ AI ในอีก 5-10 ปีข้างหน้าจะกลายเป็นโอกาสของคนรุ่นใหม่ในไทย เพราะตอนนี้อุตสาหกรรมส่วนใหญ่ยังเป็นแบบดั้งเดิม ไม่กระโดดเข้ามาในอุตสาหกรรมใหม่มากๆ เช่น AI ดังนั้น คนรุ่นใหม่ๆ จะใช้จังหวะนี้ในการเรียนรู้เพื่อปรับใช้ AI เพื่อสร้างธุรกิจให้ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าได้มากขึ้น
สุดท้ายนี้การจะเริ่มต้นลงทุนสิ่งที่คุณต้องมีคือ “วินัย” ไม่ใช่แค่ “แรงบันดาลใจ” อย่างเดียว “แรงบันดาลใจมันร้อนแป๊บเดียวครับ แต่คุณต้องตามหาวินัยให้ได้ คือวินัยคือทำแม้ในวันที่คุณไม่อยากทำ
ติดตามเพจ Facebook: Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney