“เนย ธนพร”แห่ง Stock JourNoey  สาวเชียงใหม่ มือใหม่หัดลงทุน  ที่เริ่มต้นจาก “เงินของขวัญ” จากพ่อ

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

“เนย ธนพร”แห่ง Stock JourNoey สาวเชียงใหม่ มือใหม่หัดลงทุน ที่เริ่มต้นจาก “เงินของขวัญ” จากพ่อ

Date Time: 10 ก.ย. 2567 15:03 น.

Video

แก้เกมหุ้นไทยตกต่ำ ประธานตลาดหลักทรัพย์ฯ เปิดแผนฟื้นความเชื่อมั่น | Money Issue

Summary

  • “เนย” ธนพร เจียรนัยกุลวานิช เจ้าของเพจ Stock JourNoey เพจด้านการเงินและการลงทุนที่ได้รับความนิยมสูง เป็นเด็กสาวจากเชียงใหม่ที่ห่างไกลจากภาพของนักลงทุน แต่ด้วยความมุ่งมั่นและความตั้งใจ เธอได้ใช้เงินของขวัญจากพ่อ เรียนรู้การลงทุนแบบเร่งรัดจากการเข้าร่วมแข่งขันเทรดหุ้น และต่อยอดความรู้ด้วยการเปิดเพจ Stock JourNoey จนปัจจุบันมีผู้ติดตามเกือบ 5 แสนคน นอกจากนี้ เธอยังเป็นฟูลไทม์เทรดเดอร์ แบ่งปันความรู้ด้านการลงทุน และสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ติดตาม

หากพูดถึงเพจด้านการเงินและการลงทุนที่ได้รับความนิยมสูงในเวลานี้ หลายคนมักจะนึกถึง Stock JourNoey เพจด้านการเงินที่มีผู้ติดตามมากกว่า 4.8 แสนคน ซึ่งเสน่ห์ที่ทำให้หลายคนติดใจคือการแบ่งปันความรู้ด้านการลงทุนที่เข้าถึงง่าย อ่านได้ทุกคน 

จุดเริ่มต้นการเดินทางของ Stock JourNoey มาจากเจ้าของเพจอย่าง “เนย” ธนพร เจียรนัยกุลวานิช เด็กสาวจากจังหวัดเชียงใหม่ ที่หลายคนมองว่าห่างไกลจากการลงทุนในหุ้น และตลาดการเงิน ใช้จังหวะของชีวิตหลังเรียนจบมหาวิทยาลัย และก้าวสู่โลกของการลงทุน ด้วยจุดเริ่มต้นด้วยเงินของขวัญจากพ่อ เรียนลัดจากการร่วมแข่งขันเทรดเดอร์ สู่การปั้นเพจเป็นอินฟูฯ แถวหน้าของเมืองไทย และเป็นฟูลไทม์เทรดเดอร์ไปพร้อมกัน 

 

เนย ได้เล่าจุดเริ่มต้น เริ่มจากการเรียนจบวิศวะ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยมีความใฝ่ฝันว่าเมื่อเรียนจบ อยากเปิดโรงเรียนกวดวิชา ซึ่งในช่วงที่จบปริญญาตรีนั้น คุณพ่อได้ให้ของขวัญเรียนจบเป็นเงินก้อนหนึ่งมาต่อยอดความฝันของลูก 

“ตอนเรียนจบ คุณพ่อได้ให้ของขวัญเรียนจบเป็นเงินหนึ่งก้อน เวลานั้นอยากนำเงินไปต่อยอดความฝันของตัวเองคือการเปิดสถาบันกวดวิชา แต่คุณพ่อชี้ให้เห็นความเสี่ยงของการทำธุรกิจ” 

แต่เมื่อนำไอเดียไปคุย คุณพ่อบอกว่าถ้าเราเป็นเจ้าของธุรกิจและมันไม่เวิร์ค เราจะไม่สามารถเปลี่ยนกลุ่มธุรกิจได้ในทันที ทุนที่เราลงไปจะจมอยู่สักพักและถอนทุนยาก 

แต่ถ้าเรามองไปลงทุนในธุรกิจผ่านการซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะมีธุรกิจที่มีกำไรและเติบโตต่อไป แต่ถ้าไม่เป็นอย่างที่เราคิดไว้ เราก็เลือกที่จะขายหุ้นและเปลี่ยนกลุ่มไปธุรกิจอื่นได้ ดังนั้นคุณพ่ออยากให้เนยเริ่มศึกษาการลงทุนจากตลาดหุ้นก่อน 

วิธีการสอนของคุณพ่อคือลองซื้อหุ้นตามที่คิดวิเคราะห์ไว้และห้ามขายจนกว่าจะรู้ว่าหุ้นนั้นคืออะไร ซึ่งทันทีที่เนยซื้อหุ้นก็ไม่ขาดทุนทันที แต่ราคาหุ้นปรับตัวลดลงเยอะมาก ตอนนั้นเริ่มต้นลงทุนหลักแสน และลบในหลักหมื่นบาท 

ต่อมา  ได้เรียนปริญญาโท และเริ่มทำงานด้วยการสอนพิเศษเพื่อหารายได้เพิ่ม ซึ่งในระหว่างนั้นได้นำรายได้จากการทำงานไปฝากธนาคารแบบฝากประจำ ซึ่งสิ่งที่เราพบคือหุ้นที่เคยถือไว้ก่อนหน้านี้ราคาเพิ่มขึ้นและจ่ายปันผลให้เราด้วย 

“การลงทุนในช่วงนั้น เนยเกิดการเปรียบเทียบระหว่างหุ้นที่ปันผลดีกับดอกเบี้ยเงินฝากในธนาคาร หุ้นให้ผลตอบแทนมากกว่าฝากเงินธนาคาร ซึ่งผลตอบแทนที่มากขึ้นมาพร้อมกับความเสี่ยง ทำให้เนยหันมาศึกษาเรื่องการลงทุนอีกครั้ง” 

เรียนลัดจากการแข่งขัน 

เนยตั้งใจจะเรียนรู้การลงทุนอย่างจริงจัง จึงตัดสินใจเข้าร่วมแข่งขันเทรดหุ้นที่โบรกเกอร์รายหนึ่งจัดขึ้น เพราะมองว่าการแข่งขันเป็นการเรียนรู้ที่ใช้งบจำกัดที่สุด ซึ่งสุดท้ายไม่ได้เข้ารอบ แต่ได้ประสบการณ์จากการเรียนรู้และอะไรหลายๆ อย่าง ซึ่งนำมาสู่การเปิดเพจ Stock JourNoey ที่อยากให้เป็นศูนย์กลางของการแลกเปลี่ยนความรู้ด้านการลงทุน จนปัจจุบันมีผู้ติดตามเพจเกือบ 5 แสนคน 

สไตล์การลงทุนในเวลานี้เป็นนักลงทุนสายกราฟเทคนิคเป็นหลัก และมีความสุขที่ได้ดูกราฟพร้อมแพทเทิร์น สังเกตความผิดปกติจากการซื้อขาย และในขณะเดียวกันพื้นฐานมาหาหุ้นที่ดีและหาจุดซื้อขายด้วยกราฟ 

ลงทุนทั้งในหุ้นและ TFEX บ้าง ซึ่งหุ้นไทยลงทุนเป็นหลัก โดยแบ่งเป็น 2 พอร์ต:

  • พอร์ตระยะสั้น :โดยตั้งไว้ว่า ถ้าขาดทุนเกิน 3% จะขายออกทันที แบ่งเงินเข้าทำการซื้อขาย ดูแพทเทิร์นกราฟ
  • พอร์ตระยะกลาง :ระยะกลางเป็นพอร์ตที่ลงทุนเกิน 3 เดือน

ความท้าทายในการลงทุนในตลาดหุ้นไทยคือตลาดปรับเปลี่ยนตลอดเวลา ใครปรับตัวและเรียนรู้ได้เร็วจะได้เปรียบ แต่บางครั้งการลงทุนอาจไม่เป็นไปตามที่วางไว้

อย่าหวังรวยเร็ว แต่ให้มองระยะยาว

อย่างไรก็ตาม ในโลกของการลงทุน ส่วนตัวมองว่าเราไม่ควรจะหวังรวยเร็ว ยังไงก็ควรอยู่ครบไซเคิลของตลาดหุ้นก่อน เพราะจะทำให้เราเห็นวัฏจักรการลงทุน ซึ่งบทเรียนสำคัญคือเราต้องปรับตัวอยู่เสมอ แม้ที่ผ่านมาหลายคนมักจะมีไม้ตายที่เคยซื้อแล้วได้กำไร ต่อมาอาจจะขาดทุน ทำให้เราไม่ยึดติดว่าไม้เดิมๆ ทำแล้วจะได้เงินตลอด ต้องปรับไปตามตลาดหุ้นว่าไปทางไหน แล้วหยิบมาใช้

สิ่งที่ทำอยู่เสมอคือการติดตามข้อมูลข่าวสารการลงทุนจากโซเชียลมีเดีย และนำเรื่องนั้นมาวิเคราะห์และบันทึกข้อมูล เช่น เมื่อเราดูข่าวแล้วพบว่าดอกเบี้ยกำลังจะเป็นขาลง เราจะมาทำการบ้านว่าแล้วหุ้นอะไรที่จะได้รับประโยชน์จากการเป็นดอกเบี้ยขาลง แล้วจะนำไปจดบันทึกไว้เพื่อทบทวนการลงทุนอย่างสม่ำเสมอและท่องไว้เสมอว่าการลงทุนในตลาดหุ้นถูกวางไว้บนความคาดหวังของคนในอนาคต ถ้าคนมองว่าเศรษฐกิจจะดี ตลาดหุ้นจะขึ้นนำไปก่อนแล้ว

โอกาสเริ่มลงทุนสำหรับคนต่างจังหวัด

การลงทุนถ้าเริ่มเร็วเรายิ่งได้เปรียบมาก หากตลาดไม่ดี เศรษฐกิจไม่ดี ก็ศึกษาไปก่อนและเตรียมความพร้อมไปก่อน แล้วค่อยทยอยลงทุน ซึ่งเวลานี้มองว่าทุกช่วงเวลาเหมาะกับการลงทุน อยู่ที่เราเลือกมากกว่า ถ้าเราเป็นสายเก็งกำไร ก็มีจังหวะในการเล่นเก็งกำไร หุ้นมีมากกว่า 800 ตัว แต่ในสายพื้นฐานในช่วงตลาดย่ำแย่ ก็อาจเป็นช่วงที่ได้หุ้นราคาถูก

ถ้าในมุมเริ่มต้นลงทุน งานสัมมนาดีๆ มักจะจัดที่กรุงเทพเป็นส่วนใหญ่ แต่ในเวลานี้เริ่มมีสัญจรและจัดใกล้บ้านเรา ก็เป็นโอกาสในการศึกษาหาความรู้ หาสังคมที่พูดคุยในภาษาเดียวกัน ซึ่งในแต่ละงานก็จะมีบูธของโบรกเกอร์ที่ไปรวมกันและมีโปรโมชั่นเปิดพอร์ต เพียงแค่เราเตรียมเอกสารส่วนตัวไปก็มีโอกาสเปิดพอร์ตในทุกโบรกเกอร์ที่เราอยากลงทุน

ซึ่งในเร็วๆนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ สัญจร จ. เชียงใหม่ พบกันวันเสาร์ที่ 21 กันยายน 2567 เริ่มเวลา 9.00 - 16.00 น. (เริ่มลงทะเบียน 08.30 น.) ที่ เชียงใหม่ แกรนด์วิว โฮเทล แอนด์ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ จังหวัดเชียงใหม่

เปิดโอกาสให้คนต่างจังหวัดได้เข้าถึงข้อมูลการลงทุน งานสัมนาแลกเปลี่ยนความเห็น หรือโปรโมชั่นต่างๆจากโบรกเกอร์ ที่เราสามารถหาได้จากงานนี้ ไม่ต้องเดินทางไปยังกรุงเทพ เหมือนยังสมัยก่อน ดังนั้น จึงเป็นโอกาสที่จะเริ่มต้นลงทุน ที่ทุกคนพลาดไม่ได้ 

 คลิกลงทะเบียนล่วงหน้า ได้ที่นี่ https://setga.page.link/E291

 อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ