นายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน (IAA Survey) เปิดเผยถึงผลสำรวจความเห็นนักวิเคราะห์และผู้จัดการกองทุนจาก 26 บริษัท โดยได้มี การปรับลดคาดการณ์กำไรบริษัทจดทะเบียนปีนี้เหลือโตเฉลี่ย 3.29% ลดลงจากการสำรวจในครั้งก่อนที่ประเมินการเติบโตอยู่ที่ระดับ 7.88% ด้านกำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) ปีนี้ เฉลี่ยอยู่ที่ 99.68 บาท ส่วนภาพรวมเป้าหมายดัชนีตลาดหุ้นไทยสิ้นปีนี้ผลสำรวจประเมินว่า ดัชนีเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 1,677 จุด ลดลงจากการประเมินในครั้งก่อนที่เคยคาดการณ์ไว้ที่ 1,755 จุด ขณะที่ค่าเฉลี่ยจุดต่ำสุดและจุดสูงสุดของดัชนีหุ้นไทยในช่วงไตรมาส 4 ถึงสิ้นปี 2562 อยู่ที่ระดับ 1,590 จุด และ 1,707 จุด ตามลำดับ
นอกจากนี้ ผลสำรวจส่วนใหญ่ 36% มีมุมมองดัชนีตลาดหุ้นไทยในช่วงไตรมาส 4 มีทิศทาง Sideways หรือไม่เปลี่ยนแปลงจากไตรมาส 3 โดยปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยมาจากปัจจัยเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ความกังวลสงครามการค้าจีนสหรัฐฯ รองลงมาคือปัจจัยการเมืองต่างประเทศ และผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่ชะลอตัว โดยยังเหลืออีก 3 เดือนที่ต้องติดตามปัจจัยต่างๆ ทั้งนโยบายภาครัฐ การส่งออกที่ยังลดลง การท่องเที่ยวดีขึ้น เล็กน้อย ขณะที่การลงทุนภาครัฐยังเบิกจ่ายน้อยกว่าที่ควร ดังนั้น ต้องมองทิศทางการลงทุนระยะยาวถึงปีหน้า ขณะที่ประมาณการกำไรบริษัทจดทะเบียนที่ลดลง ก็ไม่ถือว่าแย่มากยังแข็งแรงดี โดยยังมีการจ่ายเงินปันผลได้กว่า 3% มีทิศทางที่ดีและสูงกว่าผลตอบแทนดอกเบี้ยพันธบัตรไทยและโลก
นายสมบัติยังกล่าวว่า นักวิเคราะห์และผู้จัดการกองทุน แนะนำหุ้นเด่นที่น่าลงทุนส่วนใหญ่ตรงกันในหุ้น 5 บริษัท ได้แก่ ADVANC, BJC, CPALL, ERW และ WHA.