รวม 5 กองทุน เงินลงทุนเริ่มต้นเพียง 1 บาท ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีเกิน 50%

การลงทุนเพื่อหวังจะได้รับผลตอบแทนกลับมานั้น ส่วนใหญ่จะต้องใช้เม็ดเงินลงทุนจำนวนหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนเพื่อทำธุรกิจ ลงทุนในกิจการ หรือแม้แต่การลงทุนในหุ้นของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ที่กำหนดปริมาณขั้นต่ำการซื้อหุ้นไว้

ขณะที่การลงทุนในกองทุน ก็มีการกำหนดจำนวนเงินลงทุนครั้งแรกขั้นต่ำไว้เช่นเดียวกัน #ThairathMoney รวบรวมข้อมูลกองทุนที่ให้ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีมากที่สุด แถมใช้เงินเริ่มต้นลงทุนหน่วยลงทุนเพียง 1 บาท ทำให้นักลงทุนที่สนใจ สามารถนำเงินไปลงทุนได้อย่างง่ายดาย และมีโอกาสได้ผลตอบแทนที่ดีด้วย

มาเริ่มกันที่ กองทุนเปิด ดาโอ เน็กซ์ เจเนอเรชั่น อินเทอร์เน็ต หรือ DAOL-CYBER จาก บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุน ดาโอ จำกัด เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของ ARK Next Generation Internet ETF (กองทุนหลัก) ในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ เพียงกองทุนเดียว โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ให้ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี 57.30% ณ วันที่ 14 กรกฎาคม 2566 กำหนดมูลค่าขั้นต่ำการซื้อครั้งแรกที่ 1 บาท

อันดับสอง คือ กองทุนเปิดทีเอ็มบี อีสท์สปริง Next Generation Internet หรือ TMB-ES-INTERNET จาก บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุน อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จำกัด เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองเดียว คือ กองทุน ARK Next Generation Internet ETF (กองทุนหลัก) ซึ่งเป็นกองทุนรวมอีทีเอฟที่ใช้กลยุทธ์การบริหารแบบเชิงรุก ที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE Arca, Inc.) ประเทศสหรัฐอเมริกา ในอัตราส่วนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ให้ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีที่ 55.99% ณ วันที่ 14 กรกฎาคม 2566 กำหนดมูลค่าขั้นต่ำการซื้อครั้งแรกที่ 1 บาท

ถัดมา กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ Next Generation Internet (ชนิดช่องทางอิเล็กทรอนิกส์) หรือ SCBNEXT(E) จากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด มีนโยบายเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว (Feeder Fund) ได้แก่ ARK Next Generation Internet ETF (กองทุนหลัก) ซึ่งเป็นกองทุน ETF ที่บริหารแบบเชิงรุก (Actively Managed Exchange Traded Fund) ให้ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีที่ 54.48% ณ วันที่ 14 กรกฎาคม 2566 กำหนดมูลค่าขั้นต่ำการซื้อครั้งแรกที่ 1 บาท

ต่อมา กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ Semiconductor (ชนิดเพื่อการออมผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์) หรือ SCBSEMI (SSFE) มีนโยบายเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว (Feeder Fund) ได้แก่ VanEck Semiconductor UCITS ETF (กองทุนหลัก) ซึ่งเป็นกองทุนประเภท Exchange Traded Fund (ETF) บริหารโดย VanEck Asset Management B.V. และลงทุนในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) กองทุนหลักจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ London Stock Exchange สหราชอาณาจักร ตลาดหลักทรัพย์ DEUTSCHE BÖRSE ประเทศเยอรมนี ตลาดหลักทรัพย์ SIX SWISS EXCHANGE ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ตลาดหลักทรัพย์ BORSA ITALIANA ประเทศอิตาลี 

ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ที่กองทุนจะลงทุนคือ ตลาดหลักทรัพย์ London Stock Exchange ให้ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีที่ 52.08% ณ วันที่ 14 กรกฎาคม 2566 กำหนดมูลค่าขั้นต่ำการซื้อครั้งแรกที่ 1 บาท

และสุดท้าย กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ Innovation (ชนิดเพื่อการออมผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์) หรือ SCBINNO(SSFE) มีนโยบายเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว ได้แก่ กองทุน ARK Innovation ETF (กองทุนหลัก) ซึ่งเป็นกองทุน ETF ที่บริหารแบบเชิงรุก กองทุนหลักจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE Arca, Inc.) บริหารโดย ARK Investment Management LLC และลงทุนในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) 

กองทุนหลักจะลงทุนอย่างน้อยร้อยละ 65 ของสินทรัพย์กองทุน ในตราสารทุนของบริษัททั้งในประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่นๆ ที่มีการดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับหรือได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี อาทิ พันธุวิศวกรรม, นวัตกรรมการเปลี่ยนแปลงระบบอัตโนมัติ, นวัตกรรมการปรับเปลี่ยนพลังงาน, ปัญญาประดิษฐ์, นวัตกรรมเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตแห่งอนาคต และนวัตกรรมด้านการเงิน ให้ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีที่ 50.20% ณ วันที่ 14 กรกฎาคม 2566 กำหนดมูลค่าขั้นต่ำการซื้อครั้งแรกที่ 1 บาท