จับตาหุ้นการบินไทยหลังศาลสั่งเบรก “บอร์ดใหม่” โบรกฯ มองไม่กระทบธุรกิจ ยังซื้อได้หวังท่องเที่ยวฟื้น

Investment

Capital Market

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

จับตาหุ้นการบินไทยหลังศาลสั่งเบรก “บอร์ดใหม่” โบรกฯ มองไม่กระทบธุรกิจ ยังซื้อได้หวังท่องเที่ยวฟื้น

Date Time: 24 ธ.ค. 2568 10:58 น.

Video

อธิบายทีเดียวว่า ทำไมฟองสบู่ AI จะไม่แตกซ้ำรอยดอทคอม? | Digital Frontiers EP.51

Summary

ศึกชิงอำนาจ “การบินไทย” สะดุด ศาลสั่งระงับบอร์ดใหม่ ทำให้แผนเพิ่มบอร์ดเป็น 15 คนต้องชะงัก ฟากโบรกฯ ชี้หุ้นยังน่าเก็บ พร้อมคาดทิศทางกำไรปีนี้ยังสดใสจากแรงหนุนภาคท่องเที่ยวที่กลับมาบูม

ประเด็นร้อนของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น THAI กลับมาอยู่ในความสนใจของนักลงทุนอีกครั้ง หลังศาลแพ่งมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ห้ามกรรมการชุดใหม่ที่มาจากมติประชุมผู้ถือหุ้นวันที่ 19 ธันวาคม 2568 เข้าปฏิบัติหน้าที่ พร้อมให้ยึดอำนาจบริหารไว้กับกรรมการชุดเดิมไปก่อน ระหว่างรอการพิจารณาว่าการประชุมดังกล่าวชอบด้วยกฎหมายหรือไม่

แม้สถานการณ์ดังกล่าวอาจสร้างความกังวลว่าการตัดสินใจเชิงนโยบายและแผนระยะยาวจะล่าช้าออกไป แต่ในมุมของตลาดทุนราคาหุ้น THAI วันนี้ยังไม่ตอบสนองรุนแรงนัก โดย ณ เวลา 10.35 น. หุ้น THAI อยู่ที่ระดับ 8.70 บาท ไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้า สะท้อนว่านักลงทุนส่วนหนึ่งยังให้น้ำหนักกับปัจจัยพื้นฐานมากกว่าความวุ่นวายเชิงโครงสร้าง

ขณะที่บทบาทของภาครัฐยังคงถูกจับตาอย่างใกล้ชิด เนื่องจาก กระทรวงการคลังยังถือหุ้นการบินไทยในสัดส่วนราว 38.9% ทำให้แม้บริษัทจะพ้นสถานะรัฐวิสาหกิจแล้ว แต่ทิศทางการบริหารและเสถียรภาพของบอร์ดยังคงมีนัยต่อความเชื่อมั่นของตลาด 

โดยเฉพาะในช่วงที่การบินไทยกำลังอยู่ในจังหวะฟื้นตัวของผลประกอบการจากภาคการท่องเที่ยวที่กลับมาคึกคักอีกครั้ง…


ศาลสั่งเบรก “บอร์ดใหม่” ชั่วคราว

ก่อนหน้านี้ บริษัทการบินไทยได้จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ในวันที่ 19 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยมีมติเพิ่มจำนวนกรรมการจากเดิม 11 คนเป็น 15 คน ซึ่งรวมกรรมการชุดเดิมและกรรมการชุดใหม่ที่ได้รับเลือกจากที่ประชุม 

ต่อมาเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม ดร. เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ในนามกลุ่มผู้ถือหุ้น พร้อมผู้ถือหุ้นกลุ่มหนึ่ง ยื่นฟ้องบริษัทการบินไทยต่อศาลแพ่ง ขอเพิกถอนมติการประชุมดังกล่าว และร้องขอคุ้มครองชั่วคราวก่อนการตัดสินคดี ด้วยเหตุผลว่าการจัดประชุมอาจไม่เป็นไปตามกฎหมายและข้อบังคับของบริษัท

ล่าสุดศาลแพ่งมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวพิจารณาแล้ว ให้ระงับการจดทะเบียน เปลี่ยนแปลง และแก้ไขรายชื่อกรรมการของ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีขึ้นตามมติที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 เมื่อวันที่ 19 ธันวาคมที่ผ่านมา พร้อมทั้ง ห้ามกรรมการที่ได้รับเลือกตั้งชุดใหม่เข้าปฏิบัติหน้าที่จนกว่าคดีจะสิ้นสุดทางกฎหมาย

โดยคณะกรรมการชุดเดิม ที่ดำรงตำแหน่งก่อนการประชุมผู้ถือหุ้นวันที่ 19 ธันวาคม 2568 มีรายชื่อดังนี้

  1. นายลวรณ แสงสนิท ประธานกรรมการ

  2. นายชาย เอี่ยมศิริ กรรมการ และรักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร

  3. นายวิรไท สันติประภพ รองประธานกรรมการ

  4. นายญนน์ โภคทรัพย์ กรรมการ

  5. นางชนัญญารักษ์ เพ็ชร์รัตน์ กรรมการ

  6. นางชาริตา ลีลายุทธ กรรมการ

  7. นายปิยะสวัสดิ์ อัมระนันทน์ กรรมการอิสระ

  8. นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการอิสระ

  9. นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการอิสระ

  10. นางสาวพิมพ์ใจ ชัยชาญกุล กรรมการ

  11. นายธนพร ศรีไตรรัตน์ กรรมการ

ประเด็นนี้ทำให้นักลงทุนต้องจับตาว่า การตัดสินใจเชิงนโยบายสำคัญโดยเฉพาะเรื่องโครงสร้างองค์กรและแผนในระยะยาวจะเดินหน้าได้รวดเร็วเพียงใด ภายใต้โครงสร้างบอร์ดที่ยังไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามที่บริษัทเคยเสนอเหตุผลไว้

อย่างไรก็ตาม ในเชิงโครงสร้างผู้ถือหุ้น กระทรวงการคลังยังคงเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของการบินไทย โดยถือหุ้นในสัดส่วนประมาณ 38.9% ส่งผลให้ภาครัฐยังมีบทบาทสำคัญ แม้บริษัทจะพ้นสถานะรัฐวิสาหกิจแล้วก็ตาม


โบรกฯ ชี้กระทบ “จังหวะตัดสินใจ” มากกว่าธุรกิจหลัก

นักวิเคราะห์หลัทรัพย์ บริษัท หลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) มองว่า คำสั่งศาลที่ระงับบอร์ดชุดใหม่อาจทำให้ การพิจารณาเรื่องสำคัญบางประเด็นล่าช้าออกไป โดยเฉพาะเรื่องที่ต้องใช้คณะกรรมการจำนวนมาก เช่น การพิจารณาฝูงบินใหม่ ซึ่งเป็นเหตุผลหนึ่งที่บริษัทต้องการเพิ่มจำนวนกรรมการจาก 11 คนเป็น 15 คน

อย่างไรก็ตาม ในเชิงการดำเนินธุรกิจ นักวิเคราะห์ประเมินว่า ผลกระทบต่อการบริหารจริงค่อนข้างจำกัด และยังไม่เห็นสัญญาณว่าจะกระทบต่อแนวโน้มผลประกอบการในระยะสั้น

อย่างไรก็ดี ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” หุ้น THAI โดยให้ราคาเหมาะสมที่ 10.10 บาท มองว่าปัจจัยหลักที่นักลงทุนให้น้ำหนักยังคงเป็น แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/2568 ซึ่งเข้าสู่ช่วง High Season ของภาคการท่องเที่ยว

ข้อมูลผู้โดยสารเดือนตุลาคมเริ่มกลับมาเติบโต เมื่อเทียบกับปีก่อนเป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือน โดยเฉพาะเส้นทางยุโรป ขณะที่ต้นทุนราคาน้ำมันยังอยู่ในระดับที่เอื้อต่อการฟื้นตัวของกำไร ทำให้ประมาณการกำไรทั้งปี 2568 ยังคงไว้ที่ราว 36,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ยังคงคาดการณ์กำไรสุทธิในปี 2568 ไว้เท่าเดิมที่ 36,345 ล้านบาท จากขาดทุน 26,934 ล้านบาทในปีก่อนหน้า


อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ