ฝุ่น PM 2.5 กลับมา! เปิดลิสต์หุ้นได้อานิสงส์ แม้หุ้นไทยยังซึมหนักในรอบ 3 ปี ลุ้น TISA ช่วยกระตุ้น

Investment

Capital Market

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

ฝุ่น PM 2.5 กลับมา! เปิดลิสต์หุ้นได้อานิสงส์ แม้หุ้นไทยยังซึมหนักในรอบ 3 ปี ลุ้น TISA ช่วยกระตุ้น

Date Time: 2 ธ.ค. 2568 12:38 น.

Video

Jack Ma กลับมา จะพา Alibaba สร้างอำนาจใหม่ให้วงการเทคจีนได้ยังไง ? | Digital Frontiers EP.50

Summary

ฝุ่น PM 2.5 กลับมารุนแรง สร้างความเสียหายมหาศาล โบรกฯ ชี้ บางอุตสาหกรรมได้อานิสงส์ หนุน หุ้นกลุ่มโรงพยาบาล (BDMS, BH) และค้าปลีก (HMPRO) แม้หุ้นไทยยังซึม หวังมาตรการ TISA (บัญชีออมหุ้นลดภาษี) ที่เตรียมเข้า ครม. ช่วยฟื้นสภาพคล่องตลาดหุ้น

Latest


ฝุ่นพิษ PM 2.5 กลับมาอีกแล้ว! ซึ่งสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจและยังเป็นภัยต่อสุขภาพประชาชน แต่ในวิกฤตินี้ก็มีโอกาสซ่อนอยู่ในมุมมองของการลงทุน โดย บล.เอเซีย พลัส ชี้ว่าความต้องการสินค้าป้องกันฝุ่นและการรักษาพยาบาลที่เพิ่มขึ้น จะส่งผลบวกต่อกลุ่มโรงพยาบาลและกลุ่มค้าปลีกที่จำหน่ายอุปกรณ์ป้องกันฝุ่นอย่างชัดเจน

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทยภาพรวมยังคงซบเซาและเป็นตลาดที่ผลตอบแทนย่ำแย่ปัญหาหลักคือสภาพคล่องที่หายไป ดังนั้น ความหวังในการฟื้นฟูจึงอยู่ที่มาตรการปฏิรูปตลาดทุนโดยเฉพาะโครงการ TISA หรือบัญชีออมหุ้นลดหย่อนภาษี ซึ่งกำลังจะเข้าสู่การพิจารณาของ ครม. ในเร็ว ๆ นี้


ฝุ่น PM 2.5 พุ่ง! หุ้นกลุ่มไหนได้ประโยชน์บ้าง

ฝ่ายวิจัยฯ บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด เปิดเผยว่า สถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ได้กลับมาทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2568 โดยเฉพาะในวันที่ 30 พ.ย. 68 ที่มีรายงานค่าฝุ่นในระดับ "ไม่ดีต่อสุขภาพ" (สีส้ม/แดง) สูงขึ้นอย่างชัดเจนทั่วประเทศ

โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ บริเวณเขตปทุมวัน ที่ดัชนีคุณภาพอากาศ (US AQI) พุ่งสูงสุดถึง 159 ซึ่งจัดอยู่ในระดับ"Unhealthy for Sensitive Groups" หรือ “ไม่ดีต่อสุขภาพสำหรับกลุ่มคนไวต่อมลพิษ”

จากสถานการณ์ดังกล่าว ทำให้ความต้องการผลิตภัณฑ์และบริการที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพและการป้องกันฝุ่นเพิ่มขึ้นอย่างมาก บล.เอเซีย พลัส จึงคาดการณ์ว่ากลุ่มบริษัทที่จะได้รับผลตอบรับในเชิงบวก ได้แก่

  • 1.กลุ่มโรงพยาบาล: BDMS, BH, BCH ซึ่งอาจได้รับอานิสงส์จากผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น
  • 2.กลุ่มค้าปลีก/จำหน่ายอุปกรณ์ป้องกันฝุ่น: HL, IP, MEGA, HMPRO, CRC ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายหน้ากาก, เครื่องฟอกอากาศ และผลิตภัณฑ์ที่ช่วยดูแลสุขภาพ


หุ้นไทยยังซึม...ต้องกระตุ้น ลุ้น "TISA" ช่วยหนุน

ในขณะเดียวกัน ตลาดหุ้นไทยกลับเผชิญกับมรสุมหลายปัจจัย โดยเฉพาะปัจจัยในประเทศ ทำให้ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (ตั้งแต่สิ้นปี 2565 - ปัจจุบัน) ตลาดหุ้นไทยมีผลตอบแทนที่แพ้ทุกสินทรัพย์ (ยกเว้นน้ำมัน)

และเป็นตลาดหุ้นเดียวที่ปรับตัวลง โดย SET Index ปรับตัวลง -22.2% และ mai Index ปรับตัวลงถึง -63.2% สวนทางกับตลาดหุ้นอื่น ๆ ทั่วโลกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น

บล.เอเซีย พลัส ชี้ว่า ปัจจุบันสภาพคล่องในตลาดหุ้นไทยหายไป ทำให้หุ้นไม่ค่อยขยับ จึงมองว่ายังต้องเพิ่มแรงกระตุ้นเข้ามาอย่างโครงการ TISA (Thailand Individual Saving Account) หรือเครื่องมือการออมที่สามารถนำมาหักลดหย่อนภาษีได้จะเข้าที่ประชุม ครม. ในสัปดาห์หน้า

ด้าน บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ มองว่า โครงการบัญชีออมหุ้นนั้น จะช่วยเป็นแรงหนุนให้ตลาดหุ้นไทย จากคณะรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจได้เห็นชอบ 3 มาตรการปฏิรูปตลาดทุนเพื่อเพิ่มสภาพคล่อง ซึ่งหลักๆ คือ

  • บัญชีออมหุ้น ที่จะมีการเพิ่มสิทธิประโยชน์ทางภาษีและเปิดโอกาสลงทุนหุ้นต่างประเทศ
  • การออกมาตรการคล้าย LTF เพื่อแก้ไขปัญหาการขายหุ้นเมื่อครบกำหนด
  • การอนุญาตให้บริษัทจดทะเบียนซื้อหุ้นคืน เพื่อแก้ปัญหาแรงขายออกของ LTF


อย่างไรก็ตาม ทั้งจากสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ที่ส่งผลต่อการลงทุนในบางกลุ่มธุรกิจ และความพยายามของภาครัฐในการผลักดันมาตรการกระตุ้นตลาดทุนอย่าง TISA เพื่อเพิ่มสภาพคล่อง เป็นเรื่องที่ต้องติดตามรายละเอียดและความคืบหน้ากันต่อไปว่ามาตรการเหล่านี้ จะสามารถพลิกฟื้นบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยให้กลับมาคึกคักได้จริงหรือไม่…

อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ