
นักท่องเที่ยวจีนยังฟื้นตัวไม่เต็มที่, ตลาดหลักของไทย
ภาคการท่องเที่ยวไทยซึ่งถือเป็น "เครื่องยนต์หลัก" ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ กำลังเผชิญกับความท้าทายรอบด้าน โดยเฉพาะประเด็นหลักคือ นักท่องเที่ยวจีน ซึ่งเป็นตลาดขนาดใหญ่ ยังคงฟื้นตัวได้ไม่เต็มที่
และล่าสุดคือสถานการณ์ วิกฤติน้ำท่วมรุนแรง ที่เกิดขึ้นในภาคใต้ของไทย ซึ่งอาจสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจในระดับหมื่นล้านบาท และส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นและการตัดสินใจเดินทางของนักท่องเที่ยว ซึ่งล่าสุดรัฐบาลแคนาดา ได้ออกคำเตือนให้พลเมืองของตนเอง “เพิ่มความระมัดระวัง” ในการเดินทางมายังประเทศไทย
อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางแรงกดดันเหล่านี้ นักวิเคราะห์ฯ ยังเห็นสัญญาณเชิงบวกจากกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูงอย่างรัสเซีย และโอกาสที่นักท่องเที่ยวจีนจะกลับมาเติบโตได้ในช่วงปีหน้า
ฝ่ายวิจัยฯ บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) ระบุว่า หาดใหญ่ เป็นพื้นที่เศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของภาคใต้ และอันดับ 14 ของประเทศ มีมูลค่า GDP ราว 2.51 แสนล้านบาท โดยหากสถานการณ์ยืดเยื้อ 1 เดือน คาดว่าจะเกิด ความเสียหายราว 10,000-15,000 ล้านบาท
ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วง High Season ของการท่องเที่ยวภาคใต้ ซึ่งเป็นช่วงที่ควรจะโกยรายได้เข้าประเทศ ทำให้เสียโอกาสในการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในงวดไตรมาส 4/2568
อย่างไรก็ตาม ในมุมมองเปรียบเทียบ แม้มีโอกาสจะเสียหายหลักหมื่นล้าน แต่เมื่อเทียบกับน้ำท่วมใหญ่ปี 2554 ที่ World Bank ประเมินไว้ถึง 1.44 ล้านล้านบาท ถือว่าสเกลความเสียหายครั้งนี้ ยังจำกัดอยู่ในระดับภูมิภาค ไม่ใช่ระดับประเทศ
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า แรงกดดันหลักต่อภาพรวมเศรษฐกิจมาจากสองส่วนคือ ภาคการท่องเที่ยวที่ลดลงถึง 10.7% เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากความกังวลเรื่องความปลอดภัยในไทย
และการใช้จ่ายภาครัฐที่ลดลง 3.9% เมื่อเทียบกับปีก่อน รวมถึงการลงทุนภาครัฐที่ลดลง 5.3% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งมีสาเหตุจากการเปลี่ยนฝ่ายบริหารของรัฐบาลที่กระทบต่อการเบิกจ่าย
ต้องยอมรับว่าช่วงที่ผ่านมาภาคการท่องเที่ยวไทย ต้องเผชิญบททดสอบต่อเนื่อง ตั้งแต่ความกังวลด้านความปลอดภัยที่ทำให้นักท่องเที่ยวจีนลังเลในการเดินทาง จนถึงเหตุอุทกภัยครั้งใหญ่ในภาคใต้ ที่ซ้ำเติมบรรยากาศท่องเที่ยวให้ยิ่งอึมครึมไปอีก
ล่าสุด ยังมีแรงกดดันเพิ่มเข้ามาเมื่อรัฐบาลแคนาดาออกประกาศเตือนประชาชนให้เพิ่มความระมัดระวังในการเดินทางมายังไทยด้วย
นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ชี้ว่า รัฐบาลแคนาดาได้อัปเดตคำเตือนการเดินทางให้ “เพิ่มความระมัดระวัง” จากเหตุน้ำท่วมรุนแรงในภาคใต้ของไทย ซึ่งเป็น Sentiment เชิงลบต่อกลุ่มท่องเที่ยว
อย่างไรก็ตาม สัดส่วนนักท่องเที่ยวแคนาดาคิดเป็น 0.8% ของจำนวนนักท่องเที่ยวรวม ทั้งนี้ หุ้นที่ได้รับผลกระทบจากจำนวนนักท่องเที่ยวในประเทศที่จะลดลงเรียงลำดับจากมากไปน้อยตามสัดส่วนรายได้ในประเทศไทย ได้แก่ ERW, CENTEL, MINT, SHR
โดย ERW มีสัดส่วนรายได้จากโรงแรมที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมเพียงประมาณ 1% ของรายได้รวม และมีประกันภัยครอบคลุมความเสียหายด้วย
ด้าน ฝ่ายวิจัยฯ บล.เอเซีย พลัส ประเมินว่า การฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวจีนเริ่มยืนระดับได้ที่ 7.5 หมื่นคนต่อสัปดาห์ และมีโอกาสกลับมาเติบโตเป็นครั้งแรกในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ 2569 ซึ่งมีปัจจัยหนุนจากฐานที่ต่ำและเทศกาลตรุษจีน
ขณะที่เริ่มเห็นสัญญาณการขยายตัวของกลุ่มนักท่องเที่ยวกำลังซื้อสูงอย่างรัสเซีย ซึ่งมองว่าจะเป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่มโรงแรม มากกว่ากลุ่มการบิน
ทั้งนี้ คงให้น้ำหนัก Outperform และเลือก CENTEL เป็น Top pick และ ERW จากการเข้าสู่ฤดูท่องเที่ยวไทย สำหรับ MINT มองว่าราคาน่าสนใจ ภายใต้ทิศทางกำไรไตรมาส 4/2568 ที่ดีขึ้น จากปัจจัยหนุนเรื่องเสถียรภาพของค่าเงินยูโรเทียบบาท และต้นทุนค่าไฟในยุโรปที่ปรับลดลง
แม้ว่ากลุ่มโรงแรมจะยังมีปัจจัยสนับสนุนเฉพาะตัวในระยะถัดไป แต่ในส่วนของธุรกิจการบินนั้น ถือเป็นอีกกลุ่มที่นักลงทุนต้องติดตามความท้าทายอย่างใกล้ชิด
บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) ระบุถึงภาพรวมของอุตสาหกรรมด้านการบินในปี 2569 ว่าจะเป็นปีที่ท้าทายอย่างมากสำหรับผู้ประกอบการอย่าง AAV, BA, และ THAI
เนื่องจากแรงกดดันจากทั้งจำนวนนักท่องเที่ยว ค่าโดยสาร รวมถึงต้นทุนหลักอย่างราคาน้ำมัน หลังจากที่เคยได้รับผลดีจากปัจจัยเหล่านี้ในช่วงสองปีที่ผ่านมา
ด้วยปัจจัยความผันผวนที่สูงนี้ ให้น้ำหนักการลงทุนในกลุ่มธุรกิจการบินไว้ที่เพียง “เท่าตลาด” เนื่องจากมองว่าแนวโน้มผลประกอบการในปี 2569 คาดว่าจะออกมาทรงตัว
โดยให้คำแนะนำหุ้น Top Picks ของกลุ่ม คือ BA เนื่องจากมีจุดเด่นตรงที่รายได้หลักมาจากสนามบินสมุย ซึ่งมีการแข่งขันค่อนข้างต่ำ ทำให้ได้รับผลกระทบจำกัดจากการแข่งขันของตลาดในประเทศ
อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้