เมื่อบริษัทฯ เบี้ยวหนี้หุ้นกู้ ผู้บริหารหายตัว-บินไปเมืองนอก นักลงทุนรายย่อยควรทำอย่างไร ?

Investment

Capital Market

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

เมื่อบริษัทฯ เบี้ยวหนี้หุ้นกู้ ผู้บริหารหายตัว-บินไปเมืองนอก นักลงทุนรายย่อยควรทำอย่างไร ?

Date Time: 25 พ.ย. 2568 17:47 น.

Video

อย่ากลัว! วิกฤติใหญ่ยังไม่เกิด หาโอกาสลงทุน กับ กวี ชูกิจเกษม | Thairath Money Night Stand EP.21

Summary

ความไม่แน่นอนต่างๆ ที่เกิดขึ้นในตลาดหุ้นกู้ ทำให้เราต้องกลับมาทบทวนคำถามเดิมอีกครั้งว่า “เราควรเลือกหุ้นกู้แบบไหน” แล้วถ้าเจอกรณี ผู้บริหารหายตัว-บินไปเมืองนอก แบบนี้ควรทำอย่างไร

Latest


เป็นกระแสสะเทือนถึงนักลงทุนหุ้นกู้อีกครั้ง เมื่อมีข่าวลือหนาหูว่า “แอน–จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์” อดีตผู้บริหารสูงสุดของ JKN ได้หายตัวไปต่างประเทศ พร้อมถูกกล่าวหาว่าอาจมีการโยกย้ายทรัพย์สินจำนวนหลายพันล้านบาทออกนอกประเทศไปยังเม็กซิโก

นอกจากนี้ ยังมีการปิดอินสตาแกรมแบบกะทันหัน (ก่อนเปิดใช้อีกครั้งในวันที่ 24 พฤศจิกายน) ทำให้นักลงทุนจำนวนมากเกิดคำถามว่าความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นนี้ อาจกระทบต่อผู้ถือหุ้นกู้หรือไม่ เพราะปัญหาการผิดนัดชำระหนี้ของ JKN ก็ยังคงคาราคาซัง และอยู่ระหว่างกระบวนการฟื้นฟูกิจการ

ความไม่แน่นอนต่างๆ ที่เกิดขึ้นทำให้เราต้องกลับมาทบทวนคำถามเดิมอีกครั้งว่า “เราควรเลือกหุ้นกู้แบบไหน” หลังจากเพิ่งเจอเคส STARK และ THG ไปหมาดๆ ถ้าเจอเหตุการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้นแบบซ้ำแล้วซ้ำเล่านี้ ควรทำอย่างไร


รับมืออย่างไร เมื่อเจอเหตุการณ์ไม่คาดฝัน

เสริมศักดิ์ วงศ์สิทธิโชค ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ ฝ่ายค้าตราสารการเงิน บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ให้ความเห็นกับ “Thairath Money” ว่า เมื่อหุ้นกู้มีสัญญาณผิดปกติ เช่น งบล่าช้า ผู้บริหารลาออก หรือมีข่าวลือต่างๆ นักลงทุนควรควรตรวจสอบข้อเท็จจริงจากแหล่งข่าวเช่น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) , สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) หรือสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือก่อน

หากออกมาในเชิงลบต้องมาประเมิน เช่น สถานะทางการเงิน อันดับความน่าเชื่อถือ หากถูกปรับด้านมุมมอง หรือถูกปรับอันดับความน่าเชื่อถือ แต่ยังไม่ถึงขั้นมีโอกาสผิดนัดชำระ ก็อาจจะพิจารณาถือได้

ทั้งนี้ หากหุ้นกู้เริ่มผิดนัดชำระ ผู้ถือหุ้นกู้    ควนดำเนินการติดต่อผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้  เพื่อเป็นผู้ติดตามดูแลสิทธิ์ของผู้ถือหุ้นกู้  และสอบถามแนวทางการดำเนินการเช่นการประชุมผู้ถือหุ้นกู้ หรืออาจติดต่อบริษัทผู้ออกหุ้นกู้ถือสาเหตุการผิดนัดชำระ  และแนวทางการแก้ปัญหา 

หากผู้ลงทุนเจอเหตุการณ์หรือกรณีอย่าง STARK หรือ JKN ผู้ถือหุ้นกู้ควรติดตามประกาศอย่างใกล้ชิด จาก ก.ล.ต. ตลาดหลักทรัพย์ และบริษัทผู้ออก ว่ากระบวนการขั้นตอนเป็นอย่างไร 

นอกจากนี้ ให้พิจารณาแผนการฟื้นฟูกิจการ หรือจะดำเนินคดี โดยแนะนำให้ติดตามผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้เพื่อสอบถามความคืบหน้า อย่างไรก็ตาม การติดตามขั้นตอนการฟื้นฟูซึ่งอาจจะใช้เวลานานพอควร 

เสริมศักดิ์ ยังให้มุมมองอีกว่า บริษัทที่ผิดนัดชำระจะมีจำนวนหนึ่งที่กลับตัวมีแผนฟื้นตัวได้ แต่กับบริษัทขนาดเล็กๆ มีโอกาสทีจะผิดนัดชำระและล้มละลายได้ 


แจก คาถา 4 ข้อ ก่อนตัดสินใจซื้อหุ้นกู้

“เลือกบริษัทใหญ่ ได้อันดับเครดิตดี มีกระแสเงินสดสูง กระจายความเสี่ยงการลงทุน” 

เสริมศักดิ์ ให้คำแนะนำว่า ก่อนลงทุนหุ้นกู้ให้เริ่มจากการพิจารณาผู้ออก เป็นบริษัทที่นักลงทุนรู้จักหรือไม่ เพราะการลงทุนหุ้นกู้ผู้ลงทุนเปรียบเสมือนเป็นผู้ปล่อยกู้ 

หากไม่รู้จักบริษัทเลยอาจจะเป็นความเสี่ยงในการลงทุน ควรรู้จักธุรกิจ ผู้บริหาร เจ้าของ  ผลประกอบการ มีประวัติการเปิดเผยข้อมูลที่โปร่งใส มีธรรมาภิบาล และควรเป็นผู้นำหรือเป็นบริษัทขนาดใหญ่  เพื่อให้มีความมั่นใจในการลงทุน  

ต่อมาพิจารณาอันดับความน่าเชื่อถือของผู้ออก ควรพิจารณาอันดับความน่าเชื่อถือระดับ Investment grade ขึ้นไป (ตั้งแต่ BBB-BBB+  ขึ้นไป) จากสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ เพื่อให้มั่นใจในการลงทุน และถ้านักลงทุนยังไม่มีความชำนาญ ควรหลีกเลี่ยง non investment grade หรือหุ้นกู้ High yield ซึ่งมีความเสี่ยงสูง  

นอกจากนี้ ต้องพิจารณาสภาพคล่องของผู้ลงทุนด้วย แม้ว่าหุ้นกู้จะสามารถซื้อขายได้ในตลาดรอง  แต่การถือจนครบอายุจะช่วยให้ได้ผลตอบแทนตามที่ต้องการได้ ดังนั้น หากผู้ลงทุนต้องการสภาพคล่องก็ไม่ควรจะลงหุ้นกู้อายุยาวมาก และทำการกระจายการลงทุนที่เหมาะสมด้วย


ศาลสั่งออกหมายจับ “แอน จักรพงษ์”

ล่าสุดวันที่ 25 พ.ย. 2568 ศาลแขวงพระนครใต้ ได้นัดฟังคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ อ.1440/2566 ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงที่มี นายจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ (จำเลยที่ 2) หรือ "แอน จักรพงษ์" ถูกฟ้องร่วมกับบริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (จำเลยที่ 1)

อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงเวลานัด "แอน จักรพงษ์" ไม่ได้เดินทางมาศาลและไม่ได้แจ้งเหตุขัดข้องใดๆ ศาลพิจารณาจากพฤติการณ์นี้แล้วเห็นว่าเป็นการจงใจหลบหนี จึงมีคำสั่งให้ออกหมายจับจำเลยที่ 2 เพื่อนำตัวมาฟังคำพิพากษาต่อไป พร้อมทั้งกำหนดนัดฟังคำพิพากษาใหม่อีกครั้งในวันที่ 26 ธ.ค. 2568

นอกจากคำสั่งออกหมายจับจำเลยที่ 2 แล้ว ศาลยังได้พิจารณาโทษต่อนายประกันด้วย เนื่องจากไม่สามารถนำตัวจำเลยมาส่งศาลได้ตามกำหนดนัด จึงมีคำสั่งให้ปรับนายประกันเต็มตามสัญญาประกันภายใน 15 วัน


เหตุการณ์นี้ยิ่งตอกย้ำถึงความไม่แน่นอนและสร้างแรงสั่นสะเทือนครั้งใหม่ต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนในตลาดทุน โดยเฉพาะผู้ถือหุ้นกู้ที่กำลังติดตามสถานการณ์ของบริษัทอย่างใกล้ชิด


อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ