“เด็กชาย” อายุต่ำ 15 ปี เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ได้ไหม? จากกรณีไอพีโอ SMO และอีกหลายบริษัทในตลาดหุ้นไทย

Investment

Capital Market

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

“เด็กชาย” อายุต่ำ 15 ปี เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ได้ไหม? จากกรณีไอพีโอ SMO และอีกหลายบริษัทในตลาดหุ้นไทย

Date Time: 10 พ.ย. 2568 17:54 น.

Video

เก็บเงินก็ยาก ลงทุนก็เสี่ยง คนไทยรอดจากความจนยาก? กับ ดร.บุรินทร์ อดุลวัฒนะ | Thairath Money Night Stand EP.17

Summary

SMO เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ วันแรก, เด็กชายหฤษฎ์ถือหุ้นใหญ่ 10.48% หลัง IPO

  • เด็กชายหฤษฎ์เป็นบุตรของรองประธานกรรมการบริษัท SMO
  • กฎหมายอนุญาตให้ผู้เยาว์ถือหุ้นได้, แต่ต้องมีผู้แทนโดยชอบธรรมดูแล
  • การถือหุ้นของผู้เยาว์ไม่ใช่เรื่องใหม่, พบหลายบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ฯ
  • ก.ล.ต. เน้นความโปร่งใสในการเปิดเผยข้อมูลผู้ถือหุ้น

Latest


กลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางในโลกโซเชียล สำหรับหุ้น IPO น้องใหม่ บริษัท กลุ่มสมอทอง จำกัด (มหาชน) หรือ SMO ที่เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ วันนี้เป็นวันแรก

โดยนักลงทุนต่างพากันตั้งข้อสังเกตถึงโครงสร้างผู้ถือหุ้น ที่ปรากฏชื่อ "เด็กชาย" เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 ก่อให้เกิดคำถามว่า การที่ผู้เยาว์ถือครองหุ้นในสัดส่วนสูงเช่นนี้สามารถทำได้หรือไม่


เปิดไฟลิ่ง SMO พบ "เด็กชายหฤษฎ์” ถือหุ้นใหญ่ก่อนเข้าตลาด

Thairath Money ได้ตรวจสอบข้อมูลและข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อไขข้อกระจ่างในประเด็นดังกล่าว จากแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ของ SMO ที่ยื่นต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ซึ่งได้ระบุโครงสร้างผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2568 พบว่า

"กลุ่มครอบครัวคุณเสกศักดิ์" ผู้ถือหุ้นที่ถือในนามบุคคลที่สูงที่สุดคือ "เด็กชาย หฤษฎ์ พิริเยศยางกูร" ซึ่งถือหุ้นจำนวน 96,399,200 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 14.00% ของทุนชำระแล้วก่อน IPO

ซึ่งภายหลังการ IPO แล้ว เด็กชาย หฤษฎ์ พิริเยศยางกูร ยังถือหุ้นจำนวน 96,399,200 หุ้น เท่าเดิม หรือคิดเป็น 10.48% ของทุนชำระแล้วหลังเสนอขาย IPO

ไฟลิ่งยังระบุความสัมพันธ์ด้วยว่า เด็กชายหฤษฎ์ เป็น "บุตรของคุณเสกศักดิ์ฯ" ซึ่ง นายเสกศักดิ์ พิริเยศยางกูร มีตำแหน่งเป็น รองประธานกรรมการบริษัท SMO


กฎหมายไม่ห้าม “ผู้เยาว์” ถือหุ้น

สำหรับคำถามว่าสามารถทำได้ในทางกฎหมายหรือไม่ คำตอบคือ "ทำได้" ซึ่งการที่ผู้เยาว์ หรือบุคคลที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะจะ "ถือครอง" หรือ "เป็นเจ้าของ" ทรัพย์สินรวมถึง "หุ้น" นั้นสามารถทำได้

การได้มาซึ่งหุ้นดังกล่าวอาจเกิดได้หลายกรณี เช่น การรับมรดก หรือในกรณีนี้อาจเป็นการโอนทรัพย์สินจากผู้ปกครอง ซึ่งเป็นเรื่องปกติในการบริหารทรัพย์สินภายในครอบครัว

หัวใจสำคัญที่ ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้ความสำคัญ ไม่ใช่แค่ "อายุ" ของผู้ถือหุ้น แต่คือ "ความโปร่งใสและการเปิดเผยข้อมูล"

ตราบใดที่บริษัทได้เปิดเผยข้อมูลผู้ถือหุ้นอย่างถูกต้อง ครบถ้วน และโปร่งใสในแบบไฟลิ่ง เพื่อให้นักลงทุนทั่วไปได้รับทราบข้อมูลสำคัญนี้ก่อนการตัดสินใจลงทุน ก็ถือว่าบริษัทได้ปฏิบัติตามเกณฑ์การเปิดเผยข้อมูลอย่างครบถ้วนแล้ว

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าผู้เยาว์จะ "เป็นเจ้าของ" หุ้นได้ แต่ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ผู้เยาว์ไม่สามารถ "ทำนิติกรรม" เช่น การซื้อ ขาย โอน หรือใช้สิทธิ์ออกเสียงได้ด้วยตนเอง

การใช้สิทธิ์ในฐานะผู้ถือหุ้นทั้งหมดจะต้องดำเนินการผ่าน "ผู้แทนโดยชอบธรรม" ซึ่งตามกฎหมายก็คือผู้ปกครอง นั่นหมายความว่าการเข้าประชุมผู้ถือหุ้นและการโหวต ผู้แทนโดยชอบธรรมจะเป็นผู้มีสิทธิ์เข้าประชุมและใช้สิทธิออกเสียงลงคะแนนตามจำนวนหุ้นที่ถือครองอยู่


เด็กไทยถือหุ้นใหญ่ บจ. เพียบ

และไม่ใช่แค่กรณีของ SMO เท่านั้น จากการตรวจสอบข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์ฯ พบว่ามีผู้เยาว์ ติดอันดับผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัทจดทะเบียนอื่นๆ ในตลาดหลักทรัพย์ฯ อีกหลายสิบราย

ซึ่งข้อมูลล่าสุด (10 พ.ย. 68) ระบุว่ามีผู้เยาว์ที่ติดอันดับผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ฯ หลายคน เช่น AJ, ARIN, SMIT, SONIC, SST, MOTHER และ PATO เป็นต้น

ดังนั้น กรณีของ SMO จึงไม่ใช่กรณีเดียวที่เกิดขึ้นในตลาดหุ้นไทย และอย่างที่ได้อธิบายไปก่อนหน้านี้ การถือครองหุ้นของผู้เยาว์สามารถทำได้และไม่ผิดกฎหมาย โดยจะต้องมีผู้แทนโดยชอบธรรม (ผู้ปกครอง) เป็นผู้ดำเนินการใช้สิทธิต่างๆ แทน


ดังนั้น ในกรณีนี้อาจเป็นรูปแบบหนึ่งของการจัดการทรัพย์สินภายในครอบครัวของผู้ก่อตั้ง ซึ่งได้เปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะอย่างโปร่งใสแล้ว โดยสิทธิ์ในการบริหารจัดการหุ้นทั้งหมดจะอยู่ภายใต้การดูแลของ "ผู้แทนโดยชอบธรรม" จนกว่าจะบรรลุนิติภาวะ

อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ