เป็นกรรมการการบินไทยได้ค่าตอบแทนเท่าไร? หลังจ่อชงผู้ถือหุ้นเพิ่มจำนวนบอร์ดฯ จาก 11 คน เป็น 15 คน

Investment

Capital Market

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

เป็นกรรมการการบินไทยได้ค่าตอบแทนเท่าไร? หลังจ่อชงผู้ถือหุ้นเพิ่มจำนวนบอร์ดฯ จาก 11 คน เป็น 15 คน

Date Time: 7 พ.ย. 2568 12:07 น.

Video

Jack Ma กลับมา จะพา Alibaba สร้างอำนาจใหม่ให้วงการเทคจีนได้ยังไง ? | Digital Frontiers EP.50

Summary

การบินไทยเตรียมประชุมผู้ถือหุ้น 19 ธันวาคม 2568 ในรูปแบบออนไลน์

  • เสนอเพิ่มจำนวนกรรมการเป็น 15 คน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
  • มีการเลือกตั้งกรรมการใหม่ 9 ตำแหน่ง รวมถึงแคนดิเดตใหม่หลายราย
  • พิจารณาอนุมัติค่าตอบแทนกรรมการชุดใหม่ ตั้งแต่ มิ.ย. 2568 ถึง เม.ย. 2569
  • ค่าตอบแทนกรรมการมีการปรับเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเบี้ยประชุมคณะกรรมการชุดย่อย

Latest


บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI กำลังเป็นที่จับตามองอีกครั้ง หลังเตรียมจัดการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นเพื่อเสนอเพิ่มจำนวนกรรมการบริษัทฯ จากเดิม 11 คน เป็น 15 คน

โดยให้เหตุผลว่าการขยายบอร์ดครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติหน้าที่ สร้างความหลากหลายในโครงสร้างกรรมการ และช่วยให้สามารถจัดตั้งคณะกรรมการชุดย่อยเพื่อมาช่วยกลั่นกรองงานสำคัญๆ ได้อย่างรอบคอบและโปร่งใสยิ่งขึ้น

สิ่งที่มาคู่กันและต้องจับตาไม่แพ้กัน ก็คือวาระการพิจารณาอนุมัติ "ค่าตอบแทนกรรมการ" ชุดใหม่ ซึ่งจะขออนุมัติสำหรับช่วงเวลาตั้งแต่วันที่ 16 มิถุนายน 2568 ซึ่งเป็นวันประชุมบอร์ดครั้งแรกหลังศาลล้มละลายกลางยกเลิกการฟื้นฟูกิจการ จนถึงวันที่ 30 เมษายน 2569 ซึ่งการปรับโครงสร้างค่าตอบแทนนี้มีส่วนที่สะท้อนต้นทุนที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน


จับตาวาระสำคัญ เพิ่มบอร์ดเป็น 15 คน

บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น THAI แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่าเตรียมจะจัดการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 โดยกำหนดวันประชุมไว้ในวันศุกร์ที่ 19 ธันวาคม 2568 ซึ่งการประชุมครั้งนี้จะจัดในรูปแบบออนไลน์ หรือ E-Meeting เท่านั้น สำหรับผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิเข้าร่วมประชุมจะใช้วันที่ 20 พฤศจิกายน 2568 เป็นวันกำหนดรายชื่อ

ประเด็นที่น่าจับตามองที่สุดของการประชุมครั้งนี้ คือวาระการพิจารณาอนุมัติ "เพิ่มจำนวนกรรมการ" โดยคณะกรรมการฯ เสนอให้เพิ่มจำนวนกรรมการ จากเดิมที่มีอยู่ 11 คน เป็น 15 คน ซึ่งจำนวนนี้ยังอยู่ในกรอบข้อบังคับของบริษัทฯ ที่กำหนดไว้

เหตุผลหลักที่บอร์ดเสนอให้เพิ่มจำนวนกรรมการ ก็เพื่อ "เพิ่มประสิทธิภาพ" ในการทำงาน โดยมองว่าการมีกรรมการ 15 คน จะช่วยให้การปฏิบัติหน้าที่ของบอร์ดมีประสิทธิภาพสูงสุด ทำให้บอร์ดมีความหลากหลายมากขึ้น ทั้งในแง่ของความรู้ ประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง

นอกจากนี้ ยังระบุว่าการมีกรรมการมากขึ้น ยังช่วยให้สามารถจัดตั้งคณะกรรมการชุดย่อยต่างๆ เพื่อมาช่วยกลั่นกรองและสนับสนุนการตัดสินใจในเรื่องสำคัญๆ ได้อย่างรอบคอบและโปร่งใสมากขึ้น


เปิดโผแคนดิเดตบอร์ดการบินไทย

ในการประชุมครั้งนี้ ถือว่าเป็นการ "เลือกตั้งใหญ่" เลยทีเดียว เพราะจะต้องมีการเลือกตั้งกรรมการรวมทั้งสิ้น 9 ตำแหน่ง  ซึ่งมาจากกรรมการที่ต้องออกจากตำแหน่งตามวาระ 4 ท่าน, กรรมการที่ลาออก 1 ท่าน และตำแหน่งใหม่ที่ขอเพิ่มอีก 4 ท่าน

ทางคณะกรรมการบริษัทฯ ก็ได้พิจารณาและเห็นควรเสนอรายชื่อบุคคลให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นเลือกตั้ง  โดยมีทั้งแคนดิเดตใหม่ และกรรมการเดิมที่เสนอให้กลับเข้ามาทำหน้าที่ต่อ สำหรับแคนดิเดตใหม่ที่บอร์ดเสนอชื่อ มีรายชื่อดังนี้

  • นางชาริตา ลีลายุทธ
  • นางชนัญญารักษ์ เพ็ชร์รัตน์ 
  • นายญนน์ โภคทรัพย์ 
  • นายรพี สุจริตกุล
  • นายวัชรา ตันตริยานนท์
  • ดร.วิรไท สันติประภพ
  • นายพลากร หวั่งหลี 

ส่วนกรรมการเดิมที่ต้องออกจากตำแหน่งตามวาระในรอบนี้ บอร์ดก็ได้เสนอชื่อให้ผู้ถือหุ้นพิจารณาเลือกตั้งกลับเข้ามาดำรงตำแหน่งต่ออีกวาระหนึ่ง จำนวน 2 ท่าน คือ นายชาย เอี่ยมศิริ และ พลอากาศเอก อำนาจ จีระมณีมัย

นอกจากรายชื่อที่บอร์ดเสนอเองแล้ว ยังมีอีก 2 รายชื่อที่มาจาก "การเสนอชื่อของผู้ถือหุ้น"  ซึ่งบริษัทฯ ได้เปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นที่ถือหุ้นไม่น้อยกว่า 5% ตามเกณฑ์ที่กำหนด เสนอชื่อเข้ามา ได้แก่

  • สหกรณ์ออมทรัพย์การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ (ถือหุ้น 5.43%) ได้เสนอชื่อ ผศ.ดร.ประชา คุณธรรมดี
  • ธนาคารกรุงเทพ (ถือหุ้น 8.49%) ได้เสนอชื่อ นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร 


ส่องค่าตอบแทนบอร์ดการบินไทย

นอกจากวาระการเพิ่มจำนวนกรรมการแล้ว อีกวาระที่ต้องจับตาก็คือการพิจารณาอนุมัติ "ค่าตอบแทนกรรมการ" โดยจะขออนุมัติสำหรับช่วงเวลาตั้งแต่วันที่ 16 มิถุนายน 2568 ซึ่งเป็นวันที่บริษัทฯ มีการประชุมบอร์ดครั้งแรก หลังจากศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งยกเลิกการฟื้นฟูกิจการ ไปจนถึงวันที่ 30 เมษายน 2569

หากถามว่าการปรับโครงสร้างค่าตอบแทนนี้สะท้อนต้นทุนที่เพิ่มขึ้นหรือไม่? เมื่อเทียบกับอัตราเดิมช่วงปี 2563 ก่อนเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ ก็ต้องบอกว่า "มีส่วนที่เพิ่มขึ้น"

โดยเฉพาะในส่วนของเบี้ยประชุมคณะกรรมการชุดย่อย และที่แน่นอนคือ เมื่อจำนวนกรรมการเพิ่มขึ้นจาก 11 คน เป็น 15 คน  ค่าใช้จ่ายรวมในส่วนนี้ก็จะเพิ่มขึ้นตามจำนวนคนอย่างแน่นอน

โดยรายละเอียดของอัตราที่เสนอสำหรับคณะกรรมการบริษัทฯ หรือ “บอร์ดใหญ่” โครงสร้างที่เสนอมีดังนี้ 

ค่าตอบแทนรายเดือน

  • ประธานกรรมการ: 100,000 บาท/เดือน 
  • กรรมการ: 50,000 บาท/เดือน 

เบี้ยประชุม

  • ประธานกรรมการ: 37,500 บาท/ครั้ง 
  • กรรมการ: 30,000 บาท/ครั้ง 

จุดที่เปลี่ยนแปลงคือเพดานการจ่ายเบี้ยประชุม ของเดิมกำหนดไว้ไม่เกิน 1 ครั้งต่อเดือน แต่ที่เสนอใหม่คือ ให้ได้รับเบี้ยประชุมไม่เกิน 15 ครั้งต่อปี 

ส่วน "คณะกรรมการชุดย่อย" อย่างคณะกรรมการตรวจสอบนั้น จะได้รับเป็น "ค่าตอบแทนรายเดือน" (ไม่ว่าจะประชุมหรือไม่ก็ตาม) ซึ่งประธานได้ 37,500 บาท/เดือน และกรรมการได้ 30,000 บาท/เดือน โดยจะไม่ได้รับเบี้ยประชุมซ้ำ 

ขณะที่คณะกรรมการชุดย่อยอื่น เช่น คณะกรรมการสรรหาฯ จะไม่มีค่าตอบแทนรายเดือน แต่จะได้รับ "เบี้ยประชุม" ซึ่งจุดนี้คือส่วนที่ "เพิ่มขึ้น" โดยเสนอเพิ่มเบี้ยประชุมเป็น 20,000 บาท/ครั้ง จากเดิม 10,000 บาท/ครั้ง โดยยังมีเงื่อนไขเดิมคือ จ่ายรวมแล้วไม่เกิน 2 คณะ และคณะละไม่เกิน 1 ครั้งต่อเดือน

อย่างไรก็ดี คณะกรรมการฯ ให้เหตุผลว่า การกำหนดอัตราเหล่านี้ได้พิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว โดยคำนึงถึงผลการดำเนินงาน เทียบเคียงกับอัตราเดิมก่อนเข้าแผนฟื้นฟูฯ และเปรียบเทียบกับบริษัทอื่นในอุตสาหกรรมเดียวกัน เพื่อให้เกิดความเหมาะสมและโปร่งใส


อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ