เปิดลิสต์ 17 หุ้นกู้ เดือนพฤศจิกายน 68! ดอกเบี้ยสูงสุด 6.50% ต่อปี “รายย่อยซื้อได้”

Investment

Capital Market

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

เปิดลิสต์ 17 หุ้นกู้ เดือนพฤศจิกายน 68! ดอกเบี้ยสูงสุด 6.50% ต่อปี “รายย่อยซื้อได้”

Date Time: 3 พ.ย. 2568 11:55 น.

Video

"คริส หอวัง" ดีไซน์ชีวิตสร้างเงินให้งอกเงยที่ใครก็ทำได้ l Money Secret EP.8

Summary

รวมหุ้นกู้ 17 ชุด จาก 6 บริษัท ที่เปิดให้ “นักลงทุนรายย่อย” ซื้อได้ พบให้อัตราดอกเบี้สูงสุดถึง 6.50% ต่อปี ถือเป็นอีกหนึ่งโอกาสสำหรับผู้ที่มองหาผลตอบแทนที่มั่นคงและสูงกว่าการฝากเงินธนาคาร

Latest


ตลาดตราสารหนี้กลับมาน่าจับตาอีกครั้ง หลังจากที่หลายบริษัทเตรียมเปิดขายหุ้นกู้ชุดใหม่ในเดือนพฤศจิกายนนี้ เพื่อเป็นทางเลือกให้กับนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนคงที่

สำหรับรอบนี้มีหุ้นกู้ที่น่าจับตาถึง 17 ชุด จาก 6 บริษัท ที่เปิดให้ “นักลงทุนรายย่อย” เข้าร่วมลงทุนได้โดยตรง โดยให้อัตราดอกเบี้ยจูงใจสูงสุดถึง 6.50% ต่อปี ถือเป็นอีกหนึ่งโอกาสสำหรับผู้ที่มองหาผลตอบแทนที่มั่นคงกว่าฝากเงินธนาคาร แต่ยังอยู่ในระดับความเสี่ยงที่บริหารได้


1.บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) 

คาดออกและเสนอขายหุ้นกู้เสี่ยงสูง ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน อายุ 2 ปี 6 เดือน อัตราดอกเบี้ย 6.50% ต่อปี  จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน เสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไป (โดยให้บุคคลธรรมดาที่เป็นผู้ลงทุนสถาบันจองซื้อในฐานะผู้ลงทุนทั่วไปเท่านั้น) เปิดให้จองซื้อในระหว่างวันที่ 10-12 พฤศจิกายน 2568

โดยมี ผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้  ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด, บริษัทหลักทรัพย์ บลูเบลล์ จำกัด, บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน), บริษัท หลักทรัพย์ เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จำกัด (มหาชน)  และ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เป็นผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ 

สำหรับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือโดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2568

  •  องค์กรจัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ที่ BBB-
  •  หุ้นกู้จัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ที่ BB+

โดยบริษัทมีวัตถุประสงค์ที่จะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้ เพื่อชำระคืนหนี้จากการออกตราสารหนี้


2.บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)

คาดว่าออกและเสนอขายหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไปและผู้ลงทุนสถาบัน (โดยให้บุคคลธรรมดาที่เป็นผู้ลงทุนสถาบันจองซื้อในฐานะผู้ลงทุนทั่วไปเท่านั้น) เปิดให้จองซื้อในระหว่างวันที่ 28 พฤศจิกายน และ 1-2 ธันวาคม 2568

หุ้นกู้ดังกล่าวแบ่งออกเป็นดังนี้

1. ชุดที่ 1

  • อายุ 1 ปี 6 เดือน ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2570
  • อัตราดอกเบี้ย [5.25-5.40%] ต่อปี

2. ชุดที่ 2

  • อายุ 2 ปี 11 เดือน ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ.2571
  • อัตราดอกเบี้ย [5.75-5.90%] ต่อปี

โดยมี ผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด, บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด, บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัทหลักทรัพย์ บลูเบลล์ จำกัด, บริษัท หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัท หลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน)   และ บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด  เป็นผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ 

สำหรับการ จัดอันดับความน่าเชื่อถือโดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2568

  •  องค์กรจัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ที่ BBB
  •  หุ้นกู้จัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ที่ BBB

โดยบริษัทมีวัตถุประสงค์ที่จะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้ เพื่อชำระคืนหนี้จากการออกตราสารหนี้


3.บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) คาดว่าเสนอขายหุ้นกู้

คาดว่าออกและเสนอขายหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน จ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน เสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไป (โดยให้บุคคลธรรมดาที่เป็นผู้ลงทุนสถาบันจองซื้อในฐานะผู้ลงทุนทั่วไปเท่านั้น) เปิดให้จองซื้อในระหว่างวันที่ 30-31 ตุลาคม และ 3 พฤศจิกายน 2568

หุ้นกู้ดังกล่าวแบ่งออกเป็น ดังนี้

  • ชุดที่ 1  อายุ 4 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ.2572 อัตราดอกเบี้ย 2.80% ต่อปี
  • ชุดที่ 2 อายุ 5 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ.2573 อัตราดอกเบี้ย 3.05% ต่อปี
  • ชุดที่ 3  อายุ 7 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ.2575 อัตราดอกเบี้ย 3.30% ต่อปี
  • ชุดที่ 4 อายุ 10 ปี ซึ่งผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ.2578 อัตราดอกเบี้ย 3.50% ต่อปี

โดยมี ผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ ได้แก่ ธนาคาร กรุงเทพ จำกัด (มหาชน), ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน), ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน), ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน), ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด และ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เป็นผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ 

สำหรับจัดอันดับความน่าเชื่อถือโดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2568

  •  องค์กรจัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ที่ A+
  •  หุ้นกู้จัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ที่ A+

โดยบริษัทมีวัตถุประสงค์ที่จะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้ เพื่อชำระคืนหนี้จากการออกตราสารหนี้ และสำหรับกรณี อื่นๆ


4.บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน)

คาดว่าออกและเสนอขายหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้  เสนอขาย ประชาชนเป็นการทั่วไป (โดยให้บุคคลธรรมดาที่เป็นผู้ลงทุนสถาบันจองซื้อในฐานะผู้ลงทุนทั่วไปเท่านั้น) เปิดให้จองซื้อในระหว่างวันที่ 10-12 พฤศจิกายน 2568  

หุ้นกู้ดังกล่าวแบ่งออกเป็นดังนี้

  • ชุดที่ 1  หุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (ทรัพยากรทางทะเล) อายุ 3 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ.2571 ไม่มีการชำระดอกเบี้ยระหว่างอายุหุ้นกู้ ราคาเสนอขายหน่วยละ 928.26965 บาท อัตราคิดลด 2.50% ต่อปี
  • ชุดที่ 2  หุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (ทรัพยากรทางทะเล) อายุ 4 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ.2572 อัตราดอกเบี้ย 2.72% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน 
  • ชุดที่ 3  อายุ 10 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ.2578 อัตราดอกเบี้ย 3.66% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน 
  • ชุดที่ 4  อายุ 5 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ.2573 อัตราดอกเบี้ย 2.90% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน
  • ชุดที่ 5  อายุ 7 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ.2575 อัตราดอกเบี้ย 3.20% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน

โดยมี ผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ ได้แก่ ธนาคาร กรุงเทพ จำกัด (มหาชน), ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน), ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน), ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน), ธนาคารออมสิน, บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด, บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด  และ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เป็นผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้

สำหรับจัดอันดับความน่าเชื่อถือโดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2568

  • องค์กรจัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ที่ A
  • หุ้นกู้จัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ที่ A-

 โดยบริษัทมีวัตถุประสงค์ที่จะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้ เพื่อชำระหนี้จากการออกตราสารหนี้ และลงทุนในโครงการที่เกี่ยวข้องกับ ESG


5.บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน)

คาดว่าออกและเสนอขายหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป และ ผู้ลงทุนสถาบัน เปิดให้จองซื้อในระหว่างวันที่ 24-26 พฤศจิกายน 2568

หุ้นกู้ดังกล่าวแบ่งออกเป็น ดังนี้

  • ชุดที่ 1  อายุ 3 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ.2571 อัตราดอกเบี้ย 2.95% ต่อปี
  • ชุดที่ 2  อายุ 4 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ.2572 อัตราดอกเบี้ย 3.15% ต่อปี
  • ชุดที่ 3  อายุ 5 ปี 11 เดือน 29 วัน ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ.2574 อัตราดอกเบี้ย 3.50% ต่อปี
  • ชุดที่ 4  อายุ 8 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ.2576 อัตราดอกเบี้ย 4.00% ต่อปี

โดยมี ผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ ดังนี้

1.สำหรับการเสนอขายหุ้นกู้ต่อผู้ลงทุนทั่วไป และผู้ลงทุนสถาบัน (เฉพาะผู้ลงทุนสถาบันที่เป็นบุคคลธรรมดาเท่านั้นและให้จองซื้อในฐานะผู้ลงทุนทั่วไป) ได้แก่ ธนาคาร กรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน)

2.สำหรับการเสนอขายหุ้นกู้ต่อผู้ลงทุนทั่วไป และ ผู้ลงทุนสถาบัน ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)  และธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เป็นผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ 

สำหรับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือโดย บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2568

  • องค์กรจัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ที่ A- (tha)
  •  หุ้นกู้จัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ที่ A- (tha)

โดยบริษัทมีวัตถุประสงค์ที่จะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้ เพื่อชำระคืนหนี้จากการออกตราสารหนี้ และซื้อทรัพย์สิน ลงทุน หรือเป็นเงินค่าใช้จ่ายในกิจการที่เกี่ยวข้องกับการดําเนินธุรกิจในปัจจุบัน


6.บริษัท ดีเอดี เอสพีวี จำกัด

คาดว่าออกและเสนอขายหุ้นกู้ที่ออกภายใต้โครงการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน จ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน ผู้เสนอโครงการ บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด จำนวน 6 ชุด

โดยจะเสนอขายหุ้นกู้ชุดที่ 5 ให้แก่ประชาชนเป็นการทั่วไป โดยชุดที่ 5  อายุ 5 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ.2573 (รอประกาศอัตราดอกเบี้ย) และจะเปิดให้จองซื้อสำหรับหุ้นกู้ที่ 5 ส่วนที่จัดสรรแบบ Small Lot First: วันที่ 17-19  พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

โดยมีผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ ได้แก่ ธนาคาร กรุงเทพ จำกัด (มหาชน), ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน), ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน), ธนาคารออมสิน  และ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เป็นผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้  

สำหรับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ หุ้นกู้จัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ที่ AAA (sf) โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 ส่วนองค์กรไม่มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ

บริษัทมีวัตถุประสงค์ที่จะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้ นำเงินไปชำระคืนหนี้จากการออกตราสารหนี้


อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ