
หุ้นบริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TKN ร่วงหนักในการซื้อขายวันนี้ (28 ต.ค. 2568) โดยราคาปิดตลาดช่วงเช้าอยู่ที่ 4.64 บาท ลดลง 0.51 บาท หรือ -9.90%
แรงเทขายดังกล่าว เกิดขึ้นหลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำความผิด 5 ราย จากกรณีซื้อหุ้น TKN โดยอาศัยข้อมูลภายใน ซึ่งรวมถึงผู้บริหารระดับสูงของบริษัท
ล่าสุด TKN ได้ออกมาชี้แจงว่า “ต๊อบ อิทธิพัทธ์” ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารแล้ว โดยมีผลทันทีตั้งแต่วันที่ 27 ตุลาคม 2568
ท่ามกลางวิกฤตความเชื่อมั่น นักวิเคราะห์ฯ ยังชี้ว่า เส้นทางการฟื้นตัวของผลการดำเนินงานยังไม่ราบรื่น โดยมีมุมมอง "เชิงลบ" ต่อผลงานไตรมาส 3/68 และให้คำแนะนำเพียง "ถือ"
เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2568 ก.ล.ต. ได้เผยแพร่การดำเนินคดีด้วยมาตรการลงโทษทางแพ่งกับบุคคล 5 ราย ได้แก่
ก.ล.ต. ระบุว่า จากการตรวจสอบพบว่าในช่วงระหว่างวันที่ 5 สิงหาคม - 9 พฤศจิกายน 2565 นายอิทธิพัทธ์ ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการ และนายณัชชัชพงศ์ ซึ่งเป็นกรรมการผู้จัดการ (ฝ่ายสนับสนุนธุรกิจ) ได้รู้หรือครอบครองข้อมูลภายในที่ส่งผลบวกต่อราคาหุ้น TKN
ข้อมูลภายในดังกล่าว คือ ผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 3 ปี 2565 ที่มีกำไรสุทธิ 179.97 ล้านบาท (เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ) และ การจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล (รอบพิเศษ) อัตรา 0.08 บาทต่อหุ้น
นายอิทธิพัทธ์ได้ใช้ข้อมูลนี้ซื้อหุ้น TKN ผ่านบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของนางพนิดา ส่วนนายณัชชัชพงศ์ซื้อผ่านบัญชีของนางสาวฐิติรัตน์และนายจักรพันธ์ ก่อนที่ TKN จะเปิดเผยข้อมูลนี้ต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2565
คณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง (ค.ม.พ.) จึงมีมติให้ผู้กระทำผิดทั้ง 5 ราย ชำระเงินรวมทั้งสิ้น 16,392,684 บาท
โดยในส่วนของ นายอิทธิพัทธ์ ต้องชำระค่าปรับทางแพ่ง ชดใช้ผลประโยชน์ และชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. รวมเป็นเงิน 11,601,063 บาท พร้อมกำหนด ห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารเป็นเวลา 20 เดือน
ล่าสุดเช้าวันนี้ (28 ตุลาคม 2568) บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู้ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) ได้ทำหนังสือชี้แจงต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยระบุว่า บริษัทฯ ได้รับทราบการเผยแพร่ข่าวดังกล่าวของ ก.ล.ต. แล้ว
บริษัทฯ แจ้งว่า นายอิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ ได้ลาออกจากตำแหน่งกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 27 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ TKN ยืนยันว่าเหตุการณ์ดังกล่าว ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ แต่อย่างใด และบริษัทฯ จะเร่งดำเนินการสรรหาบุคคลที่มีความเหมาะสมเข้าดำรงตำแหน่งแทนตำแหน่งที่ว่างลงต่อไป
หากพิจารณาในแง่ของผลการดำเนินงาน บทวิเคราะห์จาก บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย ได้ให้ความเห็นว่า "เส้นทางการฟื้นตัวยังไม่ราบรื่น"
บล.กสิกรไทย มีมุมมอง "เชิงลบ" ต่อผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2568 โดยคาดการณ์กำไรสุทธิไว้ที่ 92 ล้านบาท ลดลง 43.8% จากปีก่อน สาเหตุหลักมาจาก ธุรกิจในต่างประเทศยังไม่ฟื้นตัวชัดเจน แม้ตลาดในประเทศจะแข็งแกร่งแต่ก็ไม่เพียงพอที่จะชดเชย
นอกจากนี้ อัตรากำไรยังถูกกดดันจากต้นทุนสาหร่ายที่แม้จะลดลงเล็กน้อยแต่ยังสูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต และต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้นจากเงินกู้เพิ่มเติม
บล.กสิกรไทย จึงแนะนำ "ถือ" (Hold) โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 5.80 บาท พร้อมทั้งได้ปรับลดประมาณการกำไรปี 2568 ลง 30.9% และปรับลดประมาณการกำไรปี 2569-2570 ลง 20.0% และ 21.9% ตามลำดับ เพื่อสะท้อนยอดขายต่างประเทศที่อ่อนแอ
ด้าน บล.กรุงศรี ระบุว่า ยังคงคำแนะนำ “ถือ” (Neutral) หุ้น TKN ราคาเป้าหมายที่ 6.00 บาท เชื่อว่าTKN ยังคงเผชิญความท้าทายจากราคาสาหร่ายที่เพิ่มขึ้นในปี 2568 เนื่องจากความต้องการสาหร่ายเติบโตเร็วกว่าอุปทาน เพราะสาหร่ายสามารถเพาะปลูกได้เฉพาะในจีน เกาหลี และญี่ปุ่นเท่านั้น
อย่างไรก็ตามอัตราส่วน P/E ปี 2568 ที่ 17.1 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ -0.8 SD ซึ่งบ่งชี้ว่าแนวโน้มที่ท้าทายได้ถูกสะท้อนในราคาไปแล้ว
อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้