
ทำความรู้จัก CATL ยักษ์ใหญ่เบอร์หนึ่งของโลกด้านแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าจากประเทศจีน ที่กำลังก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีพลังงานสะอาดอย่างครบวงจร ซึ่งนับเป็นหุ้นที่น่าจับตามองในอุตสาหกรรมแห่งอนาคต ซึ่งเมื่อดูผลตอบแทนของราคาหุ้น นับตั้งแต่ต้นปี 2568 มาจนถึงปัจจุบัน ได้ปรับตัวสูงขึ้นถึงกว่า 83% (ณ วันที่ 10 ต.ค. 68)
สำหรับนักลงทุนไทย ตอนนี้สามารถลงทุนในหุ้น CATL ได้อย่างสะดวกผ่าน DR (Depositary Receipt) ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยถึง 3 หลักทรัพย์ ซึ่งเป็นช่องทางง่ายๆ ในการเข้าถึงหุ้นเทคโนโลยีระดับโลกด้วยเงินบาท ผ่านกระดานหุ้นไทย
CATL หรือ Contemporary Amperex Technology Co., Limited คือบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่สัญชาติจีน ผู้ผลิตแบตเตอรี่สำหรับยานยนต์ไฟฟ้าอันดับ 1 ของโลก ก่อตั้งขึ้นในปี 2011 โดย Zeng Yuqun ที่เมืองหนิงเต๋อ ประเทศจีน
จากจุดเริ่มต้นที่แยกตัวออกมาจากธุรกิจแบตเตอรี่สำหรับอุปกรณ์พกพา CATL ได้เล็งเห็นถึงศักยภาพของตลาดยานยนต์ไฟฟ้าที่กำลังเติบโต และได้ทุ่มเทวิจัยและพัฒนาจนกลายเป็นผู้เล่นคนสำคัญที่แบรนด์รถยนต์ชั้นนำทั่วโลกต่างให้ความไว้วางใจ
ปัจจุบัน CATL ไม่ได้จำกัดตัวเองอยู่แค่ในตลาดจีน แต่ได้ขยายฐานการผลิตและศูนย์วิจัยไปทั่วโลก รวมถึงในยุโรปและอาเซียน ซึ่งในประเทศไทยก็ได้ร่วมมือกับ บริษัท อรุณ พลัส ในเครือ ปตท. จัดตั้งโรงงานประกอบแบตเตอรี่อีกด้วย
นักวิเคราะห์จาก บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ ระบุว่า สิ่งที่ทำให้ CATL โดดเด่นและแข็งแกร่ง คือการไม่ได้พึ่งพารายได้จากแหล่งเดียว แต่มีการกระจายธุรกิจอย่างชาญฉลาด โดยมีโครงสร้างรายได้ ดังนี้
1.แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า เป็นธุรกิจหลักที่สร้างรายได้ถึง 68% CATL ครองส่วนแบ่งการตลาดในธุรกิจนี้ราว 37% ทั่วโลก ซึ่งยังคงมีแนวโน้มเติบโตสูงตามกระแสความต้องการใช้รถยนต์ EV ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
2.ระบบกักเก็บพลังงาน สร้างรายได้ประมาณ 17.9% ธุรกิจนี้กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดดทั่วโลก โดยเฉพาะในยุโรปและสหรัฐอเมริกาที่หันมาให้ความสำคัญกับพลังงานสะอาดมากขึ้น ซึ่ง CATL ก็เป็นผู้นำในตลาดนี้ด้วยส่วนแบ่งกว่า 40%
3.บริการรีไซเคิลแบตเตอรี่ สัดส่วนรายได้ที่ 7-8% ธุรกิจนี้มีแนวโน้มเติบโตสูง จากการที่บริษัทลงทุนขยายโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับแบตเตอรี่ที่หมดอายุการใช้งาน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของห่วงโซ่อุปทานที่ยั่งยืน
4.การขายวัตถุดิบและชิ้นส่วน คิดเป็นสัดส่วน 6-7% ของรายได้ ซึ่งสะท้อนถึงความพยายามในการสร้างห่วงโซ่อุปทานแบบครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ
นอกจากนี้ CATL ยังประสบความสำเร็จในการขยายตลาดไปยังต่างประเทศ โดยลดการพึ่งพาตลาดในประเทศจีนจาก 84% ในปี 2564 เหลือเพียง 70% ในปัจจุบัน และเพิ่มสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศขึ้นเป็น 30% จากเดิมที่ 16%
มุมมองจากนักวิเคราะห์หลายสำนักต่างเห็นตรงกันว่าอนาคตของ CATL ยังคงสดใส โดย นักวิเคราะห์จาก บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ระบุว่า ราคาหุ้นของ CATL ได้รับแรงหนุนจากนโยบายภาครัฐ และกระแสการเติบโตของรถยนต์ EV อย่างต่อเนื่อง
คาดการณ์ว่ากำไรของบริษัทจะเติบโตในกรอบ 10-20% ต่อปี ในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า จากการขยายกำลังการผลิตทั้งในจีนและยุโรป ประกอบกับการเปิดตัวเทคโนโลยีแบตเตอรี่รุ่นใหม่ "Shenxing Plus" ที่สามารถวิ่งได้ไกลถึง 600 กิโลเมตรด้วยการชาร์จเพียง 10 นาที
ขณะที่ บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) ชี้ว่า ในปี 2568 CATL จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนในตลาดหุ้นฮ่องกงไปใช้สร้างโรงงานในฮังการีและร่วมทุนในอินโดนีเซีย ซึ่งจะเริ่มการผลิตได้ในปี 2569
นอกจากนี้ยังมีแผนเปิดตัว EV chassis หรือโครงสร้างรถยนต์ไฟฟ้าที่แบตเตอรี่ถูกสร้างเป็นส่วนหนึ่งของตัวถังภายในสิ้นปี 2568 อีกด้วย โดย Bloomberg Consensus คาดการณ์ว่ากำไรสุทธิของ CATL ในปี 2025 จะเติบโตถึง 25.7%
สำหรับนักลงทุนไทยที่สนใจลงทุนบริผษัทยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานสะอาดอย่าง CATL ปัจจุบันสามารถลงทุนได้สะดวกสบายผ่าน ตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ (Depositary Receipt หรือ DR)
ซึ่งซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยด้วยสกุลเงินบาทได้โดยตรง ไม่จำเป็นต้องเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นต่างประเทศ โดยมี DR ที่อ้างอิงหุ้น CATL ให้เลือกลงทุนถึง 3 ตัวด้วยกันคือ
อย่างไรก็ดี แม้ DR จะอ้างอิงกับหุ้นตัวเดียวกัน แต่ราคาและผลตอบแทนของแต่ละ DR อาจไม่เท่ากัน จากอัตราอ้างอิงที่ต่างกัน และการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน (FX hedging) ที่ต่างกัน
หนึ่งในมุมมองต่อ DR ที่น่าสนใจจาก บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด ได้ให้ความเห็นในบทวิเคราะห์ต่อ CATL80 ว่าเป็น DR ที่น่าสนใจทั้งในแง่ของการเก็งกำไรระยะสั้นและมีศักยภาพในระยะยาว เนื่องจากตลาดเริ่มมองเห็น New S-Curve ใหม่ของบริษัท
นอกเหนือจากธุรกิจแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า นั่นคือธุรกิจระบบกักเก็บพลังงานซึ่งจะเป็นกุญแจสำคัญในการเติบโตไปอีกระดับ ประกอบกับปัจจัยบวกจากการที่จีนจำกัดการส่งออกแร่หายาก ซึ่งอาจส่งผลดีต่อผู้ผลิตรายใหญ่อย่าง CATL
อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้