ส่อง 10 อันดับ บริษัทยักษ์ใหญ่ มูลค่าสูงสุดในตลาดหุ้นไทย DELTA แซง PTT เกิน 2 เท่า

Investment

Capital Market

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

ส่อง 10 อันดับ บริษัทยักษ์ใหญ่ มูลค่าสูงสุดในตลาดหุ้นไทย DELTA แซง PTT เกิน 2 เท่า

Date Time: 10 ต.ค. 2568 12:38 น.

Video

อย่ากลัว! วิกฤติใหญ่ยังไม่เกิด หาโอกาสลงทุน กับ กวี ชูกิจเกษม | Thairath Money Night Stand EP.21

Summary

Thairath Money รวบรวมข้อมูลของ 10 บริษัทที่ใหญ่ที่สุดในตลาดหุ้นไทย ทั้งในแง่ของธุรกิจที่ทำ และตัวเลขทางการเงินที่สำคัญ พบ DELTA ก้าวขึ้นมาเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2566 แซงหน้าหุ้นอย่าง PTT ที่เป็นอันดับสอง ไปกว่าเท่าตัว

Latest


อย่างที่รู้กันว่าภาพรวมตลาดหุ้นไทย มักถูกขับเคลื่อนด้วยหุ้นขนาดใหญ่เพียงไม่กี่บริษัท ซึ่งมีอิทธิพลอย่างมากต่อทิศทางของดัชนี SET Index ซึ่งจากข้อมูลล่าสุด พบว่า หุ้น 10 อันดับแรกที่มีมาร์เก็ตแคปสูงสุดในตลาดหุ้นไทยนั้น มีสัดส่วนรวมกันคิดเป็นกว่า 45% ของมูลค่าตลาดรวมของดัชนี SET ทั้งหมด 

ที่น่าสนใจคือ นับตั้งแต่ปี 2566 การเปลี่ยนแปลงในอันดับที่เกิดขึ้น โดย DELTA ได้ก้าวขึ้นมาเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงสุด จากราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนปัจจุบันแซงหน้าหุ้นอย่าง PTT ที่เป็นอันดับสองไปกว่าเท่าตัว

เพื่อให้นักลงทุนและผู้สนใจได้เห็นภาพรวมที่ชัดเจนยิ่งขึ้น Thairath Money รวบรวมข้อมูลของ 10 บริษัทที่ใหญ่ที่สุดในตลาดหุ้นไทย ทั้งในแง่ของธุรกิจที่ทำ และตัวเลขทางการเงินที่สำคัญ ดังนี้


10 อันดับหุ้นที่ใหญ่ที่สุดในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

อันดับที่ 1 หุ้น DELTA หรือ บริษัทเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)

  • ธุรกิจ: ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ด้านการจัดการพลังงานและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ชั้นนำของโลก ครอบคลุมกลุ่มผลิตภัณฑ์พาวเวอร์อิเล็กทรอนิกส์, การจัดการพลังงาน, โซลูชันสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า (EV), และระบบอัตโนมัติสำหรับภาคอุตสาหกรรม
  • มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด: 2,363,788 ล้านบาท
  • P/E: 130 เท่า
  • Dividend Yield: 0.24%

อันดับที่ 2 หุ้น PTT หรือ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)

  • ธุรกิจ: กลุ่มธุรกิจพลังงานและปิโตรเคมีครบวงจรของไทย ดำเนินธุรกิจตั้งแต่การสำรวจและผลิตปิโตรเลียม, ธุรกิจก๊าซธรรมชาติ, โรงกลั่น, การค้าน้ำมันและค้าปลีก ไปจนถึงธุรกิจปิโตรเคมี และการลงทุนในธุรกิจพลังงานรูปแบบใหม่
  • มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด: 914,015 ล้านบาท
  • P/E: 12.86 เท่า
  • Dividend Yield: 6.62%

อันดับที่ 3 หุ้น ADVANC หรือ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)

  • ธุรกิจ: ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่รายใหญ่ที่สุดของประเทศ ภายใต้แบรนด์ "AIS" รวมถึงบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (AIS Fibre) และบริการดิจิทัลโซลูชันสำหรับลูกค้าองค์กร
  • มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด: 868,469 ล้านบาท
  • P/E: 21.92 เท่า
  • Dividend Yield: 3.63%

อันดับที่ 4 หุ้น GULF หรือ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)

  • ธุรกิจ: ผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ของไทย โดยเน้นการลงทุนในโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติเป็นหลัก และขยายการลงทุนไปสู่ธุรกิจพลังงานหมุนเวียน, ธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน และสาธารณูปโภคต่างๆ
  • มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด: 653,617 ล้านบาท
  • P/E: 8.18 เท่า
  • Dividend Yield: GULF มีการควบรวมกับ INTUCH และกลับมาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในวันที่ 3 เมษายน 2568 จึงยังไม่พบข้อมูลเงินปันผลใหม่

อันดับที่ 5 หุ้น AOT หรือ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)

  • ธุรกิจ: บริหารและพัฒนาท่าอากาศยานหลัก 6 แห่งของประเทศไทย เป็นประตูสู่การเดินทางและการท่องเที่ยวของประเทศ
  • มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด: 607,142 ล้านบาท
  • P/E: 32.76 เท่า
  • Dividend Yield: 1.86%

อันดับที่ 6: หุ้น PTTEP หรือ บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน)

  • ธุรกิจ: บริษัทในกลุ่ม ปตท. ที่ดำเนินธุรกิจด้านการสำรวจ, พัฒนา และผลิตปิโตรเลียมทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ
  • มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด: 454,563 ล้านบาท
  • P/E: 6.86 เท่า
  • Dividend Yield: 8.41%

อันดับที่ 7 หุ้น CPALL หรือ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน)

  • ธุรกิจ: ผู้ดำเนินธุรกิจร้านสะดวกซื้อ "7-Eleven" และยังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน CPAXT ซึ่งดำเนินธุรกิจค้าปลีก "Lotus's" และค้าส่ง “Makro”
  • มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด: 433,434 ล้านบาท
  • P/E: 15.86 เท่า
  • Dividend Yield: 2.82%

อันดับที่ 8 หุ้น SCB หรือ บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน)

  • ธุรกิจ: กลุ่มธุรกิจการเงิน โดยมีธนาคารไทยพาณิชย์เป็นธุรกิจหลัก และขยายสู่ธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล, แพลตฟอร์มฟินเทค และการลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีต่างๆ
  • มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด: 427,622 ล้านบาท
  • P/E: 8.92 เท่า
  • Dividend Yield: 8.22%

อันดับที่ 9 หุ้น KBANK หรือ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)

  • ธุรกิจ: หนึ่งในธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ ให้บริการทางการเงินครบวงจรแก่ลูกค้าบุคคล, ผู้ประกอบการ SME และองค์กรขนาดใหญ่ ทั้งในด้านเงินฝาก, สินเชื่อ, การลงทุน และบริการธนาคารดิจิทัล
  • มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด: 393,308 ล้านบาท
  • P/E: 8.07 เท่า
  • Dividend Yield: 7.23%

อันดับที่ 10 หุ้น TRUE หรือ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)

  • ธุรกิจ: ผู้ให้บริการโทรคมนาคมและเทคโนโลยีดิจิทัลครบวงจร ควบรวมระหว่างทรูและดีแทค ให้บริการทั้งเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ, อินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ (TrueOnline), โทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิก (TrueVisions) และบริการดิจิทัลอื่นๆ
  • มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด: 380,073 ล้านบาท
  • P/E: ยังมีงบปี 2567 ขาดทุนสุทธิ
  • Dividend Yield: ไม่มีปันผล


อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ