
นับถอยหลังสู่การเป็นหุ้นน้องใหม่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ สำหรับ บริษัท 88 (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น 88TH ที่จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เป็นวันแรกในวันพรุ่งนี้ (3 ตุลาคม 2568)
หลังจากเปิดจองซื้อหุ้น IPO ไปเมื่อวันที่ 25-26 และ 29 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา ในราคาหุ้นละ 5.45 บาท ท่ามกลางกระแสความสนใจจากนักลงทุนอย่างล้นหลาม โดยเฉพาะเมื่อปรากฏชื่อคนดังในแวดวงบันเทิงและนักลงทุนชื่อดังเข้าร่วมถือหุ้น ไม่ว่าจะเป็น “หนุ่ม กรรชัย” “ซัน กระทรวง” และ “หมอวิน รัชต์ชยุตม์” ยิ่งทำให้หุ้น 88TH ถูกจับตามองเป็นพิเศษ
คำถามสำคัญสำหรับนักลงทุนคือ หุ้น 88TH มีความน่าสนใจแค่ไหน ทำธุรกิจอะไร และพื้นฐานแข็งแกร่งเพียงใด Thairath Money พาไปเจาะลึกข้อมูลกัน
จุดเริ่มต้นของ บริษัท 88(ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ 88TH ต้องย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2558 “นพรัตน์ มาลัยวงค์” และกลุ่มผู้ร่วมก่อตั้ง ได้เริ่มต้นธุรกิจจากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพและความงาม ซึ่งมีแบรนด์แรกคือ "ver.88" ธุรกิจผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง
ต่อมาบริษัทจึงได้ขยายธุรกิจเข้าสู่ตลาดผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ นำไปสู่การเปิดตัวแบรนด์ที่กลายเป็นที่รู้จักในวงกว้างอย่างแบรนด์ LYO ซึ่งเน้นผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมและหนังศีรษะ และแบรนด์ Hone สำหรับผลิตภัณฑ์ดูแลผิว
พร้อมกันนี้ยังได้ขยายช่องทางการจัดจำหน่ายจากเดิมที่พึ่งพาระบบตัวแทน สู่ร้านค้าปลีกสมัยใหม่ (Modern Trade) และช่องทางออนไลน์ เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าถึงผลิตภัณฑ์ได้ง่ายขึ้น
ก้าวสำคัญที่สะท้อนถึงการวางรากฐานเพื่อการเติบโต เกิดขึ้นในปี 2565 เมื่อ 88TH ตัดสินใจเข้าซื้อหุ้นบริษัท ดีโอเค สกิน จำกัด (DOK) ในสัดส่วน 99.99% การลงทุนครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มศักยภาพและควบคุมต้นทุนการผลิต สำหรับผลิตภัณฑ์บางประเภทภายใต้แบรนด์ LYO
ทำให้ปัจจุบัน 88TH เป็นเจ้าของ 3 แบรนด์หลัก ได้แก่ LYO, Hone และ ver.88 เมื่อดูโครงสร้างรายได้ในปี 2567 จะเห็นว่า
โดยมีช่องทางการจัดจำหน่ายที่หลากหลาย ทั้งผ่านตัวแทนจำหน่าย, ร้านค้าปลีกสมัยใหม่, Home Shopping และช่องทางออนไลน์
เมื่อพิจารณาจากงบการเงินล่าสุด จะเห็นการเติบโตที่น่าสนใจ ดังนี้
โดยรายได้จากการขายและบริการ ในปี 2567 บริษัทมีรายได้ 477.82 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.25% จากปี 2566 ที่มีรายได้ 364.05 ล้านบาท
การเติบโตนี้มีปัจจัยสำคัญมาจากการเพิ่มขึ้นของยอดขายผลิตภัณฑ์กลุ่มดูแลเส้นผมและหนังศีรษะ โดยเฉพาะแชมพูปิดผมขาว LYO Hair Color และการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ LYO Herbal
ส่วนกำไรสุทธิปี 2567 อยู่ที่ 55.77 ล้านบาท เติบโตอย่างก้าวกระโดด 115.25% จากปี 2566 ที่ทำได้ 25.91 ล้านบาท โดยมีอัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจาก 7.10% ในปี 2566 เป็น 11.64% ในปี 2567 สะท้อนความสามารถในการทำกำไรที่ดีขึ้น
ก่อนการเสนอขายหุ้น IPO ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดคือ นายล้ำพันธุ์ พรรธนประเทศ ถือหุ้นในสัดส่วน 40.84% อย่างไรก็ตาม ภายหลังการเสนอขายหุ้น IPO สัดส่วนจะเปลี่ยนแปลงไป โดยประชาชนทั่วไปจะเข้ามาถือหุ้นในสัดส่วน 28.00%
จุดที่น่าสนใจและสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนคือ หุ้นของผู้มีส่วนร่วมในการบริหารทั้งหมดจะถูกติด Silent Period หรือห้ามขายเป็นระยะเวลาตามเกณฑ์ที่กำหนด โดยไม่มีหุ้นส่วนใดที่ไม่ถูกติด Silent Period เลย ซึ่งอาจสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของผู้บริหารต่อการเติบโตของบริษัทในระยะยาว
อย่างไรก็ตาม จากการรายงานของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) พบว่ามีบุคคลที่มีชื่อเสียงหลายรายได้รับการจัดสรรหุ้น IPO ของ 88TH นำโดย นายภูดิท กำเนิดพลอย หรือ "หนุ่ม กรรชัย" ที่ได้รับการจัดสรรสูงถึง 1,900,000 หุ้น คิดเป็น 3.19% ของจำนวนหุ้นที่เสนอขายทั้งหมด
ตามมาด้วย นายกระทรวง จารุศิระ หรือ "ซัน กระทรวง" นักลงทุนชื่อดัง ได้รับการจัดสรร 310,000 หุ้น (0.52%) และ นายรัชต์ชยุตม์ จีระพรประภา หรือ "หมอวิน" ได้รับการจัดสรร 200,000 หุ้น (0.34%)
ราคาเสนอขายหุ้นละ 5.45 บาท เมื่อคำนวณจากกำไรสุทธิต่อย้อนหลัง 4 ไตรมาสล่าสุด จะคิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E Ratio) ที่ประมาณ 12.91 เท่า (หลัง IPO) ซึ่งเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ย P/E ของบริษัทในหมวดธุรกิจของใช้ส่วนตัวและเวชภัณฑ์ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ 16.10 เท่า ถือว่า P/E ของ 88TH ไม่ได้สูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม
แม้จะมีจุดเด่นหลายด้าน แต่การลงทุนย่อมมีความเสี่ยง โดยความเสี่ยงหลักๆ ของ 88TH ที่ระบุไว้ในหนังสือชี้ชวน ได้แก่ การพึ่งพิงบุคคลที่มีชื่อเสียง (KOLs/Influencers) บริษัทฯ มีการใช้ผู้มีชื่อเสียงในการประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ LYO และ Hone ซึ่งหากเกิดผลกระทบเชิงลบต่อบุคคลดังกล่าว หรือไม่สามารถต่อสัญญาได้ อาจส่งผลต่อภาพลักษณ์และความนิยมของแบรนด์
นอกจากนี้ การแข่งขันในตลาดยังสูง โดยธุรกิจผลิตภัณฑ์สุขภาพและความงามมีการแข่งขันที่รุนแรง และมีผู้เล่นรายใหม่เข้าสู่ตลาดได้ง่าย ขณะเดียวกัน บริษัทมีการว่าจ้างบุคคลภายนอกผลิตสินค้า (OEM) ซึ่งการพึ่งพิงผู้ผลิตรายสำคัญอาจมีความเสี่ยงหากเกิดปัญหาในการผลิตหรือการส่งมอบ
88TH เป็นหุ้นน้องใหม่ที่มีความน่าสนใจ ด้วยโมเดลธุรกิจที่จับตลาดสุขภาพและความงามซึ่งเป็นเมกะเทรนด์ มีแบรนด์เป็นที่รู้จัก ผลประกอบการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรพิจารณาความเสี่ยงด้านการแข่งขันและการพึ่งพิงบุคคลที่มีชื่อเสียง ประกอบการตัดสินใจลงทุนในวันพรุ่งนี้ด้วย
อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้