หุ้น TURBO ติดเครื่อง เทรดวันแรกราคาพุ่งแรง ประเดิมไอพีโอ SET ตัวแรกปี 68 โบรกฯ มองกำไรโตปีละ 22%

Investment

Capital Market

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

หุ้น TURBO ติดเครื่อง เทรดวันแรกราคาพุ่งแรง ประเดิมไอพีโอ SET ตัวแรกปี 68 โบรกฯ มองกำไรโตปีละ 22%

Date Time: 30 ก.ย. 2568 12:57 น.

Video

Amazon ธุรกิจนี้เจ๋งยังไง ทำไมถึงเป็นหุ้นลูกรักของใครหลายคน ? | Digital Frontiers EP.48

Summary

TURBO เปิดตลาดช่วงเช้าด้วยราคา 2.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.80 บาท หรือ +53.33% จากราคาจองซื้อที่ 1.50 บาท สะท้อนความสนใจของนักลงทุนที่มีต่อหุ้นไอพีโอตัวแรกในกระดาน SET ของปี 2568 อย่างล้นหลาม

Latest


มาช้า…แต่มานะ! สิ้นสุดการรอคอย สำหรับหุ้นไอพีโอตัวแรกที่เข้าเทรดในกระดาน SET ปีนี้ นั่นคือ TURBO หรือ บริษัท เงินเทอร์โบ จำกัด (มหาชน) ที่เปิดตลาดช่วงเช้าด้วยราคา 2.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.80 บาท หรือ +53.33% จากราคาจองซื้อที่ 1.50 บาท 

โดยบรรยากาศการซื้อขายในช่วงปิดตลาดภาคเช้า ราคาหุ้น TURBO ปิดที่ระดับ 2.26 บาท เพิ่มขึ้น 0.76 บาท หรือ +50.67% โดยมีมูลค่าการซื้อขายหนาแน่นที่ 2.19 พันล้านบาท สะท้อนความสนใจของนักลงทุนที่มีต่อหุ้นไอพีโอตัวแรกของปี 2568 อย่างล้นหลาม


สำหรับหุ้น TURBO เข้าจดทะเบียนในกลุ่มอุตสาหกรรมธุรกิจการเงิน หมวดเงินทุนและหลักทรัพย์ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญของบริษัทในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อขยายกิจการและเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ธุรกิจในระยะยาว

TURBO ดำเนินธุรกิจภายใต้แบรนด์ "เงินเทอร์โบ" เป็นผู้ให้บริการสินเชื่อที่หลากหลายแก่ลูกค้ารายย่อย โดยเน้นสินเชื่อส่วนบุคคลที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน (สินเชื่อจำนำทะเบียน), สินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพ (สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์) และสินเชื่อโฉนดที่ดิน รวมถึงเป็นนายหน้าประกันชีวิตและประกันวินาศภัย

จุดเด่นที่สำคัญคือการมีเครือข่ายสาขาที่แข็งแกร่งถึง 996 สาขา ครอบคลุมพื้นที่ 54 จังหวัดทั่วประเทศ ทำให้สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่ยังไม่สามารถเข้าถึงบริการของธนาคารพาณิชย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

TURBO เสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนทั้งสิ้น 537 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 1.50 บาท โดยแบ่งเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุน 447.78 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเดิมของ KVISION 89.22 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่าระดมทุนจากหุ้นใหม่ 671.67 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO ที่ 4,005 ล้านบาท

สำหรับการกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO ที่ 1.50 บาท คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (P/E) ที่ 12.70 เท่า โดยคำนวณจากกำไรสุทธิของบริษัทฯ ในช่วง 12 เดือนย้อนหลัง (ก.ค. 67 - มิ.ย. 68)


สุธัช เรืองสุทธิภาพ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เงินเทอร์โบ เปิดเผยว่า เงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้จะถูกนำไปใช้เพื่อ ขยายธุรกิจทางการเงินเป็นหลัก รวมถึงใช้ชำระคืนเงินกู้จากสถาบันการเงินและเป็นเงินทุนหมุนเวียน

บริษัทฯ มุ่งมั่นที่จะเป็นช่องทางการเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่สะดวก รวดเร็ว และเชื่อถือได้สำหรับลูกค้ารายย่อย โดยอาศัยเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นเองเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการอนุมัติสินเชื่อและบริหารความเสี่ยง ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนและสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว

“ผมเชื่อมั่นว่าหลังจากเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ TURBO จะสามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง รวมถึงสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นได้อย่างยั่งยืน โดยอาศัยการให้บริการทางการเงินที่ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ทำให้ลูกค้าพึงพอใจและเกิดการบอกต่อ รวมถึงการใช้ระบบเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นมาเฉพาะ ซึ่งจะช่วยให้ TURBO สามารถปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว รักษาต้นทุนในการดำเนินงานให้ต่ำในระยะยาว”

ทั้งนี้ บริษัทฯ มีนโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 ของกำไรสุทธิจากงบการเงินเฉพาะกิจการหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและการจัดสรรทุนสำรองทุกประเภทที่กฎหมายและข้อบังคับของบริษัทฯ กำหนดไว้


ไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย และตัวแทนธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า TURBO มีศักยภาพการเติบโตสูงจากภาพรวมตลาดสินเชื่อรายย่อยที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน ที่มีการเติบโตอย่างโดดเด่นจาก 2.2 แสนล้านบาทในปี 2561 เป็น 6.3 แสนล้านบาทในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยสูงถึง 18.6% ต่อปี ซึ่งสูงกว่าภาพรวมสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับของธนาคารพาณิชย์ในช่วงเดียวกัน

สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการสินเชื่อรายย่อยที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้ปานกลางถึงระดับต่ำ ที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ได้ หรือเข้าถึงได้แต่ไม่ครอบคลุม ซึ่งเป็นประชาชนกลุ่มใหญ่ของประเทศ และจากปัจจัยบวกของภาพรวมอุตสาหกรรม ที่ส่งเสริมให้ TURBO มีอัตราเติบโตเฉลี่ยสะสมของรายได้ดอกเบี้ยซึ่งเป็นธุรกิจหลัก 40.8 % ต่อปีนับจากปี 2565 ถึงปี 2567

ตลอดจนรายได้ค่านายหน้าประกันภัยและนายหน้าประกันชีวิตของกลุ่มบริษัทฯ ที่เติบโตเฉลี่ย 54.3% ต่อปีนับจากปี 2563 ถึงปี 2567 จึงเชื่อมั่นว่าด้วยรากฐานที่แข็งแกร่งและศักยภาพการเติบโตที่ดีในระยะยาว TURBO จะเป็นหนึ่งในหุ้นคุณภาพในตลาดทุนไทย


ด้านพงศ์ศักดิ์ พฤกษ์ไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์  กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า มั่นใจว่า TURBO จะเป็นหุ้น Growth Stock ที่สร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่นักลงทุน ขณะทรี่พอร์ตสินเชื่อเติบโตแบบก้าวกระโดดเฉลี่ย 31.5% ต่อปี ระหว่างปี 2563 ถึงไตรมาสที่ 2 ปี 2568 อีกทั้งยังมีโอกาสขยายพอร์ตสินเชื่อจากการเป็นผู้ประกอบการรายใหม่ที่มีอายุสาขาเฉลี่ยเพียง 4.1 ปี


ฝ่ายวิจัยฯ บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ระบุว่า การระดมทุนครั้งนี้ ช่วยให้สถานะการเงินแกร่งขึ้น พร้อมรองรับการเติบโตด้านสินเชื่อในอนาคต นอกจากนี้การเป็นบริษัทจดทะเบียนใน SET น่าจะช่วยให้บริษัทฯ สามารถเจรจาอัตราดอกเบี้ยเงินกู้กับธนาคารได้ดีขึ้น รวมถึงโอกาส ในการถูกเพิ่ม Credit rating ในอนาคต จากปัจจุบันอยู่ที่ BBB- แนวโน้ม Stable (TRIS rating)

ทั้งนี้ คาดกำไรสุทธิปี 2568 ที่ 525 ล้านบาท จากฐานต่ำ 142 ล้านบาทในปี 2567 หนุนด้วย Loan spread กว้างขึ้น เพราะต้นทุนดอกเบี้ยจ่าย (COF) ดีขึ้น ตามวงจรดอกเบี้ย เนื่องจากสัดส่วน 67% ของหนี้ที่มีดอกเบี้ยมาจากสถาบันการเงินและอิงกับ MLR จึงรับประโยชน์เร็วกว่ากลุ่ม (MTC SAWAD และ TIDLOR) ซึ่งใช้แหล่งเงินทุนจากตราสารหนี้เป็นหลัก ประกอบกับทิศทางต้นทุนความเสี่ยงของสินเชื่อที่ไม่ได้รับการชำระคืนเงินต้น (Credit cost) ลดลง จากนโยบายสินเชื่อเข้มงวดและการเพิ่มประสิทธิภาพในการตามหนี้ 

ส่วนกำไรสุทธิปี 2569-2570 คาดการณ์ขยายตัวเฉลี่ย 22% ต่อปี เพราะทิศทางสินเชื่อเติบโตเฉลี่ย 15% ต่อปี ผ่านการขยายสาขาประมาณ 100 สาขาต่อปี จาก ณ สิ้นไตรมาส 2/68 อยู่ที่ 996 สาขา

ในขณะที่แนวโน้มค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานปรับตัวขึ้นในอัตราช้ากว่าสินเชื่อ ตามการบริหาร ค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นปัจจัยขับเคลื่อนกำไรฯ ให้เติบโตในอัตราสูงกว่าสินเชื่อ

อย่างไรก็ดี มองว่า TURBO มีจุดเด่น จากแนวโน้มการเติบโตสูงกว่ากลุ่มฯ เพราะธุรกิจยังมีช่องทางให้ขยายตัวทั้งในด้านสินเชื่อ ผ่านการเปิดสาขาใหม่ รวมทั้งสินเชื่อต่อสาขาเดิม และการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายให้มีประสิทธิภาพ เป็นปัจจัยผลักดันให้ ROE เด่นกว่า กลุ่มฯ ช่วง 3 ปี ข้างหน้า

อีกทั้งรับประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลง เร็วกว่ากลุ่มฯ ตามเหตุผลที่กล่าวในช่วงต้น โดยรวมแล้ว TURBO ถือเป็นอีก 1 ตัวเลือก ในธีมดอกเบี้ยขาลง ให้ราคาเป้าหมาย 2.30 บาทต่อหุ้น


อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ