BCP แจงกรณี “ฮุบ” บางจาก ผู้ถือหุ้นใหญ่ส่งคนนั่งบอร์ดฯ เป็นธรรมเนียมปฏิบัติ จ่อปรับโครงสร้างปี 69

Investment

Capital Market

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

BCP แจงกรณี “ฮุบ” บางจาก ผู้ถือหุ้นใหญ่ส่งคนนั่งบอร์ดฯ เป็นธรรมเนียมปฏิบัติ จ่อปรับโครงสร้างปี 69

Date Time: 25 ก.ย. 2568 18:10 น.

Video

Jack Ma กลับมา จะพา Alibaba สร้างอำนาจใหม่ให้วงการเทคจีนได้ยังไง ? | Digital Frontiers EP.50

Summary

ผู้บริหาร BCP แจงปมผู้ถือหุ้นใหญ่นั่งบอร์ดฯ เป็นเรื่องปกติของ บจ. ยืนยันการซื้อขายหุ้นอยู่ภายใต้กฎระเบียบ พร้อมเดินหน้าปรับโครงสร้างใหญ่ 1 ม.ค. 69 และเตรียมชงแผนซื้อหุ้นคืน 3 ปี

Latest


กลายเป็นประเด็นที่หลายคนจับตา สำหรับดีลซื้อหุ้น บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP ของ “กลุ่มชาร์เตอร์” พร้อมส่งตัวแทนเข้ามาเป็นกรรมการ จนกลายเป็นดราม่า “ฮุบบางจาก” นั้น จะสร้างความไม่เชื่อมั่นให้กับผู้ลงทุนหรือไม่

ผู้บริหาร BCP ชี้ว่ากระบวนการที่ผู้ถือหุ้นใหญ่ส่งตัวแทนนั่งเก้าอี้กรรมการนั้น เป็นธรรมเนียมปฏิบัติของบริษัทจดทะเบียน และการซื้อขายหุ้นบางจาก ก็อยู่ภายใต้กฎระเบียบของสำนักงาน ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ฯ

อย่างไรก็ดี บางจากเตรียมปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ จัดทัพ 5 กลุ่มธุรกิจใหม่ รับการเติบโตในอนาคต ซึ่งจะมีผลในวันที่ 1 มกราคม 2569 พร้อมเตรียมเสนอคณะกรรมการพิจารณาอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนต่อเนื่อง 3 ปี สร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุน


เปิดใจผู้บริหาร BCP ประเด็น “ฮุบ” บางจาก

ชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจาก และกรรมการผู้จัดการใหญ่ ได้ชี้แจงประเด็นเกี่ยวกับโครงสร้างผู้ถือหุ้น และข้อกังวลที่อาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของบริษัท โดยยืนยันว่าบางจากเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย การซื้อขายหุ้นทั้งหมด จะเป็นไปตามกฎระเบียบของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์ฯ

ในด้านการกำกับดูแลกิจการ ชัยวัฒน์ ย้ำว่าบริษัทมีธรรมาภิบาลที่ชัดเจน คณะกรรมการบริษัทมีทั้งหมด 15 ท่าน พร้อมชี้ให้เห็นถึงผู้แทนจากผู้ถือหุ้นหลัก 4 ท่าน ได้แก่ ผู้แทนจากกระทรวงการคลัง 2 ท่าน และจากกลุ่มชาร์เตอร์ด 2 ท่าน ผู้ถือหุ้นที่มีสัดส่วนสูงก็จะมีตัวแทนในบอร์ด เป็นธรรมเนียมปฏิบัติของบริษัทจดทะเบียน

ทั้งนี้ ปัจจุบัน กระทรวงการคลังถือหุ้นโดยตรง 4.76% และถือผ่านกองทุนวายุภักษ์ 19.84% ขณะที่สำนักงานประกันสังคมถือหุ้น 15.11%  ซึ่งมองว่าบอร์ดบางจากมีความเป็นมืออาชีพมาก ตลอด 10-11 ปีที่ผ่านมากระบวนการทำงานและการกลั่นกรองมีความชัดเจน

แม้แต่การวางยุทธศาสตร์ใหม่ครั้งนี้ คณะกรรมการก็ได้ใช้เวลาพิจารณาอย่างละเอียดตลอดทั้งวัน มีการตั้งคำถามและท้าทายแผนงานอย่างเข้มข้น เพื่อให้ได้ข้อสรุปที่ดีที่สุด

“ผู้ถือหุ้นที่มีสัดส่วนสูง ก็จะมีตัวแทนทั้งในบอร์ดก็เป็นธรรมเนียมปฏิบัติของบริษัทจดทะเบียน ในบอร์ดเองเราก็มีการคุย การบริหารจัดการตลอด 10-11 ปีที่ผ่านมา ผมคิดว่าบอร์ดบางจาก Professional มากนะครับ" ชัยวัฒน์ กล่าว

อย่างไรก็ดี บริษัทจะมีการปรับเปลี่ยนครั้งสำคัญ โดยปรับยุทธศาสตร์เพื่อมุ่งสู่ความมั่นคงทางพลังงานและความยั่งยืน โดยตั้งเป้า EBITDA เติบโตปีละ 100% ภายในปี 2571


จัดทัพใหม่สู่ 5 กลุ่มธุรกิจ เริ่ม 1 มกราคม 2569

สำหรับการปรับโครงสร้างองค์กร สู่ 5 กลุ่มธุรกิจใหม่ที่มีความชัดเจนและผนึกกำลังกันมากขึ้น จะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2569 เป็นต้นไป ดังนี้

1.กลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการตลาด และเชื้อเพลิงชีวภาพ เป็นการรวมธุรกิจโรงกลั่นบางจากพระโขนงและศรีราชาไว้ภายใต้การบริหารเดียวกัน เพื่อสร้าง Synergy และเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนตลอดห่วงโซ่อุปทาน 

2.กลุ่มธุรกิจค้าน้ำมัน ยกระดับธุรกิจเทรดดิ้งให้เป็นอีกหนึ่งธุรกิจเรือธง (Flagship) ของกลุ่ม เพื่อขยายการซื้อขายนอกเหนือจากการจัดหาน้ำมันดิบให้โรงกลั่น สู่การขยายตลาด ทั้งปริมาณและมูลค่าซื้อขายในประเทศและภูมิภาค ควบคู่กับการบริหารความเสี่ยง

3.กลุ่มธุรกิจต้นน้ำ ตั้งเป้าเป็นผู้นำธุรกิจแหล่งปิโตรเลียมระยะกลางชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มุ่งเน้นการเติบโตของธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม โดยจะใช้ความเชี่ยวชาญจาก OKEA ASA ในนอร์เวย์ เป็นฐานในการขยายการลงทุน

4.ธุรกิจไฟฟ้าและโครงสร้างพื้นฐาน เป็นการปรับโฉม BCPG ใหม่ โดยจะขยายการลงทุนจากธุรกิจไฟฟ้าพลังงานสะอาด ไปสู่โครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ เช่น ธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์  ซึ่งให้ผลตอบแทนการลงทุนที่สูงกว่าในปัจจุบัน

5.กลุ่มธุรกิจใหม่และโฮลดิ้ง ลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ ที่ไม่อยู่ใน 4 กลุ่มแรก รวมถึงบริหารจัดการกองทุนมูลค่าประมาณ 1,000 ล้านบาท สำหรับการลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆ และสตาร์ทอัพ 


วางงบลงทุนรวม 3 ปี 3.5 หมื่นล้าน ชงบอร์ด “ซื้อหุ้นคืน”

เพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ดังกล่าว กลุ่มบางจากได้ตั้งงบลงทุน (CAPEX) สำหรับปี 2569-2571 ไว้ที่  35,000 ล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนเพื่อการบำรุงรักษา 63%, โครงการลงทุนต่อเนื่อง 20% และการลงทุนเพื่อการเติบโต 17%

นอกจากนี้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหุ้น คณะกรรมการบริษัทได้ให้ความเห็นชอบในหลักการกับโครงการซื้อหุ้นคืนต่อเนื่องเป็นเวลา 3 ปี ซึ่งรายละเอียดจะถูกนำเสนอเพื่อพิจารณาอนุมัติในบอร์ดต่อไป ภายในปี 2568 นี้

การปรับทัพครั้งใหญ่นี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของกลุ่มบางจากในการสร้างการเติบโตอย่างก้าวกระโดดและยั่งยืน พร้อมรับมือกับความท้าทายและการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมพลังงานโลก เพื่อมุ่งสู่เป้าหมาย "Bangchak 100X" ที่วางไว้


อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ