TOP 10 กองทุนลดหย่อนภาษีพุ่งสูงสุด 1 ปี เริ่ม DCA วันนี้ได้ทั้ง “ลดหย่อน” ลุ้น “กำไร”

ใกล้สิ้นปีทีไร มนุษย์เงินเดือนอย่างเราๆ ก็เริ่มใจสั่นกันทุกที เพราะ "เทศกาลล่ากองทุนลดหย่อนภาษี" กำลังจะกลับมาอีกครั้ง หลายคนมักจะเก็บไว้เป็นภารกิจสุดท้ายของปี วิ่งวุ่นหากองทุนลดหย่อนภาษีกันในเดือนธันวาคม ชนิดที่ว่าซื้อเพื่อ "จบๆ" ให้ได้ลดหย่อนไป

แต่ลองจินตนาการดูว่า ถ้าเราวางแผนซื้อตั้งแต่ต้นปี หรือทยอยซื้อมาเรื่อยๆ แล้วถือมาครบปี พบว่าได้ผลตอบแทนมากๆ แถมยังได้ลดหย่อนภาษีอีก มันจะฟินขนาดไหน ต้องบอกว่ากองทุนลดหย่อนภาษีสมัยนี้ผลงานไม่ธรรมดาเลย

การที่เรา "เร่งซื้อปลายปี" อาจทำให้เราพลาดจังหวะดีๆ ของตลาดไปอย่างน่าเสียดาย แถมยังอาจจะได้ต้นทุนที่สูงปรี๊ด หรือที่แย่กว่านั้น คือได้กองทุนที่ไม่ตอบโจทย์เป้าหมายการเงินของเราเลย แค่เพราะรีบ

Thairath Money เลยอยากชวนทุกคนมาเปลี่ยนความคิดกันใหม่ ว่าการวางแผนภาษีไม่ใช่แค่ "การจ่ายเงินเพื่อลดภาษี" แต่คือ "โอกาสในการลงทุน" เปิดมุมมองว่าทำไมการวางแผนแต่เนิ่นๆ ถึงดีกว่า และปิดท้ายด้วย "10 กองทุนตัวท็อป" ที่ผลตอบแทน 1 ปีที่ผ่านดีที่สุด เผื่อเป็นไอเดียให้เริ่มวางแผนกันตั้งแต่ตอนนี้เลย

วางแผนภาษี ไม่ใช่แค่ “ลดภาษี” แต่คือการ “สร้าง” ความมั่งคั่ง

เรื่องนี้ต้องย้ำกันชัดๆ ว่าการซื้อกองทุนหรือประกันเพื่อลดหย่อนภาษี ไม่ควรทำไปเพียงเพื่อ "เอาสิทธิ์" เท่านั้น บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ (InnovestX) ย้ำว่า การวางแผนภาษีคือส่วนหนึ่งของการวางแผนการเงินระยะยาวที่มีประสิทธิภาพ การเข้าใจเรื่องนี้แต่เนิ่นๆ จะช่วยให้เราใช้สิทธิ์ได้เต็มที่ และยังเป็นโอกาสทองในการวางแผนลงทุนไปพร้อมกันด้วย

นอกจากนี้ ยังได้แชร์เทคนิคดีๆ สำหรับการวางแผนภาษีให้คุ้มค่าสุดๆ ไว้ 5 ข้อง่ายๆ ดังนี้

• ประเมินรายได้ล่วงหน้า - คำนวณรายได้สุทธิทั้งปีของเรา เพื่อจะได้รู้ว่าเราต้องใช้สิทธิ์ลดหย่อนเท่าไหร่
• วางแผนทยอยลงทุน (DCA) - หัวใจสำคัญคือการทยอยซื้อกองทุนทุกเดือน ช่วยกระจายความเสี่ยง (ได้ต้นทุนถัวเฉลี่ย) ไม่ต้องลุ้นซื้อตูมเดียวปลายปี และยังสร้างวินัยการออมด้วย
• เลือกให้เหมาะกับช่วงอายุ - อายุน้อย ยังรับความเสี่ยงได้สูง ก็จัดกองทุนหุ้นที่โอกาสโตเยอะๆ ไปเลย แต่ถ้าใกล้เกษียณ ก็อาจจะต้องเน้นกองที่มั่นคงหน่อย
• ติดตามเงื่อนไขอัปเดต - กฎเกณฑ์ภาษีเปลี่ยนได้ทุกปี ต้องคอยเช็กสิทธิ์และเพดานลดหย่อนเสมอ
• เก็บหลักฐานให้พร้อม - ซื้อเสร็จ เก็บเอกสารไว้ให้ครบถ้วน สะดวกตอนยื่นภาษี

สรุปง่ายๆ ก็คือ "DCA คือคำตอบ" การทยอยลงทุนตลอดปี ดีกว่าการทุ่มเงินก้อนเดียวปลายปีแน่นอน มันช่วยลดความเสี่ยงจากตลาดผันผวน และอย่าลืมดูนโยบายกองทุน ค่าธรรมเนียม และผลงานย้อนหลังประกอบด้วย เลือกกองทุนที่มีศักยภาพ ไม่ใช่เลือกแค่เพราะมันลดภาษีได้

10 กองทุนลดหย่อนภาษี

หลังจากที่กองทุน SSF และ LTF ได้โบกมืออำลาเราไปแล้ว ในปี 2568 นี้ เราเหลือกองทุนลดหย่อนภาษีอะไรให้วางแผนกันบ้าง จากข้อมูลล่าสุดสามารถสรุป "ตะกร้า" กองทุนลดหย่อนภาษีในปี 2568 ได้ ดังนี้

1. กลุ่มกองทุนเพื่อการเกษียณ - กองทุนเพื่อการเกษียณอายุ (RMF), กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD), กบข., กอช., และประกันชีวิตแบบบำนาญ

• วงเงินลดหย่อนภาษี: สูงสุด 500,000 บาท (เมื่อรวมกันทั้งหมดในกลุ่มนี้) และต้องไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน
• ช่วงเวลาลงทุน: สามารถลงทุนได้ตลอดทั้งปี 2568 (1 ม.ค. - 31 ธ.ค. 2568)

2. กองทุนรวม Thai ESG

• วงเงินลดหย่อนภาษี: สูงสุด 300,000 บาท และต้องไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน
• ช่วงเวลาลงทุน: สามารถลงทุนได้ตลอดทั้งปี 2568 (1 ม.ค. - 31 ธ.ค. 2568)

3. กองทุนรวม Thai ESGX

• สำหรับเงินลงทุนใหม่
  • วงเงินลดหย่อนภาษี: สูงสุด 300,000 บาท และต้องไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน
  • ช่วงเวลาลงทุน (สำคัญมาก!): ต้องลงทุนภายใน 1 พฤษภาคม - 30 มิถุนายน 2568 เท่านั้น

Thairath Money ชวนมาดูเลยว่า การที่เราเลือกกองทุนลดหย่อนภาษีได้ "ถูกตัว" และ "ถูกเวลา" มันสร้างผลตอบแทนให้เราได้ขนาดไหนจึงนำข้อมูลกองทุนลดหย่อนภาษีที่ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี สูงสุด 10 อันดับแรก จากเว็บไซต์ settrade.com (ข้อมูล ณ 18 ก.ย.68) มาให้ดูกันชัดๆ ว่า ถ้าเราลงทุนไปเมื่อ 1 ปีที่แล้ว วันนี้พอร์ตเราจะบวกไปเท่าไร

1.กองทุนเปิด แอสเซทพลัส ดิจิทัล บล็อกเชน เพื่อการเลี้ยงชีพ (ASP-DIGIBLOCRMF)

ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี +83.00%

ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 ปี +40.11%

ผลตอบแทนนับจากต้นปี 2568 +38.18%

2.กองทุนเปิดอีสท์สปริง Star50 Chinese Technology เพื่อการเลี้ยงชีพ (ES-STARTECHRMF)

ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี +82.62%

ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 ปี +0.47%

ผลตอบแทนนับจากต้นปี 2568 +32.13%

3.กองทุนเปิด ดาโอ โกลด์ แอนด์ ซิลเวอร์ อิควิตี้ เพื่อการเลี้ยงชีพ (DAOL-GOLDRMF)

ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี +77.05%

ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 ปี +32.84%

ผลตอบแทนนับจากต้นปี 2568 +89.11%

4.กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ China Technology เพื่อการเลี้ยงชีพ (SCBRMCTECH)

ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี +72.03%

ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 ปี +6.29%

ผลตอบแทนนับจากต้นปี 2568 +37.15%

5.กองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า เทคโนโลยี เพื่อการเลี้ยงชีพ (TCHTECHRMF-A)

ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี +70.00%

ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 ปี +5.77%

ผลตอบแทนนับจากต้นปี 2568 +35.06%

6.กองทุนเปิด ทิสโก้ Next Generation Internet เพื่อการเลี้ยงชีพ (TNEXTGENRMF-A)

ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี +68.38%

ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 ปี +33.44%

ผลตอบแทนนับจากต้นปี 2568 +28.06%

7.กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ หุ้นยูเอส แอคทีฟ เพื่อการเลี้ยงชีพ (SCBRMUSA(A))

ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี +64.13%

ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 ปี +23.36%

ผลตอบแทนนับจากต้นปี 2568 +26.05%

8.กองทุนเปิดอีสท์สปริง Global Innovation เพื่อการเลี้ยงชีพ (ES-GINNORMF)

ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี +63.64%

ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 ปี +18.56%

ผลตอบแทนนับจากต้นปี 2568 +32.82%

9.กองทุนเปิด MEGA 10 CHINA เพื่อการเลี้ยงชีพ (MEGA10CHINARMF)

ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี +53.84%

ผลตอบแทนนับจากต้นปี 2568 +26.83%

ไม่มีข้อมูลผลตอบแทนย้อนหลัง 3 ปี

10.กองทุนเปิดกรุงศรีไชน่าเมกะเทรนด์เพื่อการเลี้ยงชีพ (KFCMEGARMF)

ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี +49.38%

ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 ปี +0.71%

ผลตอบแทนนับจากต้นปี 2568 +28.31%

แน่นอนว่าการลงทุนมีความเสี่ยง และผลงานในอดีตก็ไม่ได้การันตีอนาคต กองทุนที่บวกแรงๆ ก็อาจจะผันผวนแรงได้เช่นกัน แต่ลิสต์นี้ก็เป็นข้อพิสูจน์ชั้นดีว่า... ถ้าเราวางแผนล่วงหน้า เลือกกองทุนที่เหมาะกับความเสี่ยงและเป้าหมายของเรา โอกาสที่จะได้ทั้ง "ลดหย่อนภาษี" และ "กำไรจากการลงทุน" ไปพร้อมๆ กัน ก็ไม่ใช่เรื่องยาก 

อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่

https://www.thairath.co.th/money/investment

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้

https://www.facebook.com/ThairathMoney