
ตลาดหุ้นไทยกลับมาคึกคักอีกครั้ง ดัชนีวันนี้ปรับตัวเพิ่มต่อจากเมื่อวาน ปิดตลาดเช้าที่ระดับ 1,263.78 จุด เพิ่มขึ้น 16.82 จุด หรือ +1.35% ซึ่งในช่วงเวลาเพียงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ดัชนีทะยานขึ้นกว่า 140 จุด หรือราว 12% ทำให้นักลงทุนหลายคนเริ่มใจชื้น แต่ในขณะเดียวกันก็เกิดคำถามสำคัญว่า "ขึ้นมาขนาดนี้แล้ว ซื้อตอนนี้ยังทันไหม?"
บรรยากาศการลงทุนที่สดใสนี้ ได้รับแรงหนุนจากเม็ดเงินลงทุนของนักลงทุนต่างชาติที่ไหลกลับเข้ามา ขณะที่ประเด็น “ภาษีทรัมป์” เริ่มคลี่คลายลง รวมถึงผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนไทยก็มีแนวโน้มออกมาดีด้วย
สำหรับนักลงทุนที่อาจจะยังลังเลอยู่ เพราะเห็นราคาหุ้นส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้นไปบ้างแล้ว การกระโดด “ขึ้นรถ” ในตอนนี้อาจดูเสี่ยงเกินไปหรือไม่ ? Thairath Money พาไปรู้จักกับ “หุ้น Laggard” พร้อมเปิดลิสต์หุ้นน่าเก็บที่อาจจะไม่ทำให้คุณ “ตกรถ”
ในโลกของการลงทุน ไม่ใช่หุ้นทุกตัวที่จะวิ่งไปพร้อมกันเสมอไป เปรียบเสมือนการวิ่งแข่ง ที่มีทั้งคนที่วิ่งนำอยู่แถวหน้า และคนที่ยังวิ่งตามมาไม่ทันอยู่ข้างหลัง หุ้นที่ยังวิ่งตามตลาดไม่ทันเหล่านี้ เราเรียกกันว่า "หุ้น Laggard"
หุ้น Laggard คือหุ้นที่มีราคาปรับตัวขึ้นช้ากว่าภาพรวมของตลาด (SET Index) หรือช้ากว่าหุ้นตัวอื่นๆ ในอุตสาหกรรมเดียวกัน แม้ว่าปัจจัยพื้นฐานของบริษัทจะยังคงแข็งแกร่งและมีแนวโน้มเติบโตที่ดีก็ตาม
การที่ราคายัง "ไม่วิ่ง" อาจเกิดจากหลากหลายสาเหตุ เช่น นักลงทุนอาจยังมองข้ามไป หรือกำลังให้ความสนใจกับหุ้นกลุ่มอื่นที่ร้อนแรงกว่า
ความน่าสนใจของหุ้น Laggard อยู่ตรงที่ "ช่องว่าง" ของราคาที่ยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นไปได้อีก หรือที่เราเรียกว่ามี Upside นั่นเอง
การเข้าลงทุนในหุ้นเหล่านี้จึงเปรียบเสมือนการค้นพบของดีที่ยังไม่มีใครเห็น เป็นโอกาสในการ "ช้อนซื้อ" ก่อนที่นักลงทุนส่วนใหญ่จะหันมาให้ความสนใจและดันราคาให้สูงขึ้นไป
เมื่อเม็ดเงินลงทุนเริ่มกระจายตัวออกจากหุ้นขนาดใหญ่ที่ราคาวิ่งนำไปก่อนแล้ว จุดหมายต่อไปก็คือหุ้นแถวสองแถวสามที่ราคายังนิ่งๆ
นี่จึงเป็นโอกาสทองของหุ้น Laggard ที่จะกลับมาเฉิดฉาย โดยนักวิเคราะห์จากหลายสำนักต่างคัดเลือกหุ้นที่น่าสนใจมาให้พิจารณา ดังนี้
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์จาก บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) มองว่ากลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารยังคงน่าสนใจ โดยทั้งกลุ่มปรับตัวขึ้นมาเพียง 4.32% เทียบกับดัชนีฯ ที่บวกไปถึง 11.34% ในเดือนที่ผ่านมา
โดยเฉพาะ TRUE ที่ประกาศผลประกอบการออกมาดีกว่าที่คาดถึง 32% อาจเป็นปัจจัยหนุนให้เกิดแรงเก็งกำไรในหุ้นตัวอื่นในกลุ่มอย่าง ADVANC ซึ่งคาดว่าผลประกอบการไตรมาส 2 จะออกมาดีเช่นกัน
นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มค้าปลีก แม้ผลประกอบการในไตรมาส 2 อาจยังดูไม่สดใส แต่ บล.กสิกรไทย มองว่ามีแนวโน้มจะฟื้นตัวอย่างชัดเจนในไตรมาสที่ 3 หลังจากเห็นสัญญาณยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ในเดือนกรกฎาคมติดลบน้อยลง โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นอย่าง CPALL และ CPAXT
ด้านฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ชี้ว่า เมื่อมูลค่าการซื้อขายกลับมาคึกคักที่ระดับ 5 หมื่นล้านบาทต่อวัน โอกาสที่เม็ดเงินจะกระจายมายังหุ้น Laggard ที่มีพื้นฐานดีและมีสตอรี่สนับสนุนก็มีมากขึ้น
โดยมองไปยังพอร์ตของกองทุนใหญ่อย่าง "วายุภักษ์" ที่อาจหมุนเงินทำกำไรมาเพิ่มน้ำหนักในหุ้นที่ราคายังตามหลังอยู่ เช่น
อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้