
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหุ้นไทยภาคบ่ายของวันที่ 1 ก.ค. 2568 ปรับตัวขึ้นแรง หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้น.ส. แพรทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีหยุดปฏิบัติหน้าที่ ส่งผลให้มีแรงซื้อกลับเข้ามาดันดัชนีทะยานขึ้นต่อเนื่องในการซื้อขายภาคบ่ายจนมาปิดตลาดที่ระดับ 1,110.01 จุด เพิ่มขึ้น 20.45 จุด หรือ 1.88% มีมูลค่าการซื้อขาย 41,712.08 ล้านบาท โดยนายณัฐชาติ เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส บล.ทรีนีตี้ มองว่า คำสั่งศาลให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ไม่มีผลต่อเสถียรภาพในระยะสั้น เพราะคณะรัฐมนตรี (ครม.) ยังทำงานต่อ จึงเป็นโอกาสซื้อหุ้นและคาดว่าดัชนีจะไม่หลุดแนวรับ 1,050 จุด หากร่างพ.ร.บ. งบประมาณ 2569 ยังเดินหน้าตามกำหนดเดิม
โดยในระหว่างที่ศาลใช้เวลาพิจารณาคดีนี้ ซึ่งอาจกินเวลาเป็นเดือน ก็จะไม่มีผลต่อการทำงานของรัฐสภา ซึ่งกำลังจะมีการเปิดประชุมสมัยสามัญในวันที่ 3 ก.ค. 2568 และเมื่อมองไปยังปลายทาง หากนายกรัฐมนตรีถูกตัดสินให้มีความผิดจริง ก็จะต้องเริ่มกระบวนการทางสภาในการเลือกนายกรัฐมนตรีใหม่ ซึ่งทางพรรคเพื่อไทยมีแคนดิเดตคนถัดไปรออยู่แล้ว ตราบใดที่เสียงในฝั่งรัฐบาลยังคงเป็นเสียงข้างมากเกิน 250 เสียง คาดว่าก็จะไม่เป็นอุปสรรคต่อเสถียรภาพทางการเมือง และหากตลาดหุ้นไทยมีการปรับตัวลงจากความกังวลของนักลงทุน ยังคงมองเป็นโอกาสในการ "Buy on Weakness" หรือซื้อเมื่ออ่อนตัว ตราบใดที่การผ่านร่างพ.ร.บ.งบประมาณยังคงอยู่บนเส้นเวลาเดิม ยังประเมินเช่นเดิมว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ จะไม่หลุดระดับต่ำ (Low) เดิมที่ 1,050 จุด