เปิดตำรา "หุ้น Defensive" ทางรอดยุคตลาดแดงเดือด เป็นหุ้นแบบไหน อยากลงทุนต้องรู้อะไรบ้าง ?

Investment

Capital Market

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

เปิดตำรา "หุ้น Defensive" ทางรอดยุคตลาดแดงเดือด เป็นหุ้นแบบไหน อยากลงทุนต้องรู้อะไรบ้าง ?

Date Time: 17 มิ.ย. 2568 10:34 น.

Video

สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ทำยังไง? พลิกเมืองทะเลทราย สู่มหาอำนาจเทคโนโลยีโลก | Digital Frontiers EP.41

Summary

รู้จัก "หุ้น Defensive" และ 6 เทคนิคเลือกซื้อหุ้นปลอดภัยเข้าพอร์ต

Latest


ท่ามกลางภาวะความผันผวนอย่างหนักของดัชนีตลาดหุ้นไทย นักลงทุนจำนวนไม่น้อยต่างแสวงหา "หลุมหลบภัย" เพื่อทำให้พอร์ตการลงทุนผ่านพ้นมรสุมไปได้ หนึ่งในกลยุทธ์ยอดนิยมคือการจัดพอร์ตลงทุนใน "หุ้น Defensive" ซึ่งเปรียบเสมือนเกราะกำบังชั้นดีในยามที่ตลาดไม่เป็นใจ

Thairath Money พาทำความรู้จัก "หุ้น Defensive" พร้อม 6 เทคนิคที่จะทำให้รู้ว่า จะเลือกซื้อหุ้นปลอดภัยสักตัวหนึ่งเข้ามาในพอร์ต ต้องรู้อะไรบ้าง

ทำความรู้จัก "หุ้น Defensive"

หุ้น Defensive หรือ หุ้นตั้งรับ คือ หุ้นของบริษัทที่ดำเนินธุรกิจซึ่งมีความต้องการสินค้าหรือบริการที่ "จำเป็นต่อการดำรงชีวิต" พูดง่ายๆ คือ ไม่ว่าภาวะเศรษฐกิจจะเป็นเช่นไร ผู้คนก็ยังคงต้องจับจ่ายใช้สอยในสินค้าและบริการเหล่านี้อยู่เสมอ ทำให้ผลประกอบการของบริษัทเหล่านี้มักจะมีความมั่นคง ไม่แกว่งตัวรุนแรงไปตามวัฏจักรเศรษฐกิจเหมือนหุ้นในกลุ่มอื่นๆ

เมื่อมองมาที่ตลาดหุ้นไทย พบว่ามีหลายกลุ่มอุตสาหกรรมที่จัดอยู่ในข่ายของหุ้น Defensive ซึ่งนักลงทุนสามารถใช้เป็นแนวทางในการคัดเลือกหุ้นเข้าพอร์ตได้ เช่น

  1. กลุ่มการแพทย์ (Healthcare) ไม่ว่าเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร ความเจ็บป่วยคือสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ทำให้หุ้นกลุ่มโรงพยาบาลเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ที่นักลงทุนนึกถึง
  2. กลุ่มค้าปลีก (Commerce) และสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น: สินค้าที่ต้องใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น อาหารและของใช้ส่วนตัว ยังคงเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคต้องซื้อหาอยู่เสมอ
  3. กลุ่มสาธารณูปโภค (Utilities) ไฟฟ้า ประปา โทรคมนาคม หรือทางด่วน คือบริการพื้นฐานที่ทุกคนต้องใช้ การันตีกระแสรายได้ที่แน่นอน เป็นต้น

อยากลงทุน ต้องดูอะไรบ้าง ?

สำหรับการเลือกลงทุนหุ้น Defensive ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้ระบุไว้ในบทความ “เทคนิคสร้างพอร์ตหุ้นปลอดภัย (Defensive Stock)” ว่าแบ่งออกเป็น 6 ด้าน ดังนี้

1.เลือกจากขนาด - การเลือกหุ้น Defensive ควรหลีกเลี่ยงหุ้นที่มีขนาดเล็กเกินไป โดยเราอาจพิจารณาจากมูลค่าตามราคาตลาด (Market Capitalization) 

2.ความผันผวนต่ำ - เวลาราคาขึ้นก็จะขึ้นน้อยกว่าตลาด เวลาลงก็จะลงน้อยกว่าตลาด หรือหากจะพูดเป็นศัพท์เชิงเทคนิคก็บอกว่าเป็นหุ้นที่มีค่าเบต้า (Beta) ต่ำ หรือเป็นหุ้นที่มีความผันผวนของราคาเมื่อเทียบกับความผันผวนของดัชนีราคาหุ้นของตลาดหลักทรัพย์ฯ ต่ำ

3.ภาระหนี้น้อย - หุ้นที่มีความเสี่ยงต่ำ ซึ่งปัจจัยหนึ่งที่ใช้ในการพิจารณาว่าหุ้นนั้นๆ มีความเสี่ยงทางการเงินต่ำก็คือ “ภาระหนี้สินต่ำ” หรือมีอัตราส่วน D/E ต่ำกว่า 1 เท่า

4.กำไรสม่ำเสมอ - หากหุ้นที่มีการทำกำไรอย่างสม่ำเสมอก็อาจเป็นตัวบ่งชี้ถึงฝีมือของบริษัทในการบริหารจัดการได้ว่า ไม่ว่าจะผ่านภาวะเศรษฐกิจแบบใดก็ยังสามารถสร้างกำไรได้ แม้กำไรอาจไม่หวือหวามากนักก็ตาม

5.จ่ายปันผลสม่ำเสมอ - เมื่อบริษัทมีกำไรก็ควรจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้นอย่างสม่ำเสมอด้วย เพราะปันผลเป็นกระแสเงินสดรับที่นักลงทุนต่างก็คาดหวัง ดังนั้น บริษัทที่ดีจึงควรมีการบริหารจัดการระหว่างการนำเงินไปลงทุนกับการจ่ายเงินปันผลได้อย่างเหมาะสม

6.ราคาไม่แพง - หุ้น Defensive ที่ดีต้องมีส่วนเผื่อเพื่อความปลอดภัย (Margin of Safety : MOS) ซึ่งนักลงทุนที่คาดหวังผลตอบแทนในระยะยาวจากการลงทุนมักจะมองหาหุ้นที่มี Margin of Safety สูงๆ โดยพิจารณาจากหุ้นที่ราคายังไม่แพงจนเกินไป ซึ่งดูได้จากราคาเทียบกับกำไรต่อหุ้น (P/E Ratio) หรือราคาเทียบกับมูลค่าทางบัญชี (P/BV Ratio)


อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ