
ตลาดหุ้นไทยวันนี้ ยังเผชิญกับความผันผวนต่อเนื่อง โดยเฉพาะราคาหุ้นของ บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น CRC และ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น KTC ที่ปรับตัวดิ่งลงอย่างรุนแรง หลังการประกาศปรับรายชื่อหุ้นในดัชนีของ MSCI
คำถามสำคัญที่นักลงทุนอาจสงสัยคือ MSCI คือใคร และทำไมมีอิทธิพลต่อทิศทางราคาหุ้นได้ “Thairath Money” จะพาไปทำความเข้าใจและผลกระทบของการปรับเปลี่ยนดัชนี MSCI ที่นักลงทุนควรให้ความสำคัญ เพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุน
ตลาดหุ้นไทยวันนี้ (14 พ.ค. 2568) ผันผวนหนัก โดยเฉพาะราคาหุ้นของบริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น CRC และบริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น KTC ที่ราคาปรับตัวลดลงแรง หลังมีการประกาศจาก MSCI ให้ถอดหุ้นทั้งสองตัวออกจากการคำนวนดัชนีที่กองทุนต่างชาติจำนวนมากใช้เป็นเกณฑ์อ้างอิง โดยนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ มองว่าเกิดจากแรงเทขายที่กองทุนเริ่มปรับพอร์ตการลงทุนล่วงหน้า
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า MSCI ได้ประกาศถอดหุ้น 3 ตัวของไทยออกจาก MSCI Global Standard Index ได้แก่ BEM, CRC และ KTC โดย CRC และ KTC ไม่ได้ถูกลดระดับไปอยู่ดัชนีย่อยอย่าง Global Small Cap เหมือน BEM แต่ “หลุดออกจากระบบของ MSCI โดยสิ้นเชิง” ทำให้หุ้นเผชิญแรงขายอย่างหนัก
ขณะเดียวกัน ในดัชนี Global Small Cap Index มีหุ้นไทยที่ถูกเพิ่มเข้ามา เช่น AWC และ BEM ขณะที่มีการถอดหุ้นออกอีกหลายตัว เช่น AURA, BPP, DOHOME, GUNKUL, JTS, JMART, M และ PRM ซึ่งนักวิเคราะห์เตือนว่า หุ้นที่ถูกปรับออกหรือตกชั้น อาจถูกขายในวันนี้ โดยเฉพาะ CRC และ KTC ที่สองตัวนี้ ออกจากดัชนีฯไปเลย
MSCI หรือ Morgan Stanley Capital International เป็นบริษัทผู้จัดทำดัชนีหุ้นชั้นนำระดับโลกที่ได้รับการยอมรับจากนักลงทุนสถาบันและกองทุนขนาดใหญ่ทั่วโลก ด้วยประสบการณ์กว่า 50 ปีในด้านการวิจัยข้อมูล
กองทุนต่างๆ จะใช้ดัชนีของ MSCI เป็น “ตัวชี้วัด” หรือ Benchmark ในการจัดพอร์ตการลงทุน ซึ่งสะท้อนว่ามีบทบาทสำคัญในการกำหนดว่า “กองทุนต่างชาติควรซื้อหรือขายหุ้นตัวไหน” เพื่อให้สอดคล้องกับเกณฑ์การลงทุนที่กำหนดไว้
การที่หุ้นของบริษัทใดบริษัทหนึ่ง “ถูกนำเข้า” หรือ “ถูกถอดออก” จากการคำนวณของดัชนี MSCI จึงเป็นประเด็นที่นักลงทุนทั่วโลกให้ความสนใจอย่างมาก เพราะหมายถึงการเปลี่ยนแปลงของกระแสเงินทุนขนาดใหญ่ ที่อาจไหลเข้าไหลออกจากหุ้นเหล่านั้นทันที โดยไม่จำเป็นต้องเกี่ยวกับผลประกอบการหรือปัจจัยพื้นฐานของบริษัทเลย
ในระบบของ MSCI จะมีดัชนีหลายประเภท แต่ที่มีผลต่อหุ้นไทยมากที่สุด คือ MSCI Global Standard Index ซึ่งมักจะรวมเฉพาะหุ้นขนาดใหญ่ที่มีสภาพคล่องสูง ขณะที่หุ้นที่มีขนาดเล็กลง หรือไม่ได้ผ่านเกณฑ์ของดัชนีดังกล่าว ก็อาจถูกจัดให้อยู่ในดัชนีรองอย่าง MSCI Global Small Cap Index แทน
ดังนั้น เมื่อหุ้นถูกปรับออกจากดัชนีหลัก จะส่งผลให้เกิดแรงขายมหาศาลในตลาดหุ้นทันที โดยเฉพาะจากกลุ่มกองทุนที่จำเป็นต้อง “ปรับพอร์ต” ให้สอดคล้องกับองค์ประกอบของดัชนีภายในวันกำหนด
การเปลี่ยนแปลงในดัชนี MSCI เป็นสัญญาณที่นักลงทุนควรจับตา ไม่ใช่เพียงเพราะผลกระทบระยะสั้นจากแรงขาย แต่ยังชี้ถึงมุมมองของนักลงทุนต่างชาติที่มีต่อตลาดและหุ้นรายตัว การวิเคราะห์เชิงลึกควรพิจารณาทั้งปัจจัยเชิงเทคนิค การไหลของเงินทุน และพื้นฐานธุรกิจควบคู่กันไปด้วย
อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้