ส่องเศรษฐกิจเวียดนาม รับประชากรทองคำ บล.หยวนต้าชู DR  จับธีมลงทุน ฝ่าภาษีทรัมป์

Investment

Capital Market

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

    ส่องเศรษฐกิจเวียดนาม รับประชากรทองคำ บล.หยวนต้าชู DR จับธีมลงทุน ฝ่าภาษีทรัมป์

    Date Time: 11 พ.ค. 2568 10:00 น.

    Video

    เปิดเบื้องหลัง Copayment ระบบประกันสุขภาพคนไทย มีปัญหาอะไรกันแน่?  | Thairath Money Talk EP.20

    Summary

    • สัมมนา Vietnam’s Next Chapter: Opportunities in Middle-Class Expansion นักวิเคราะห์ฯ เผย เวียดนามกำลังเดินหน้าต่อด้วยศักยภาพที่ดีและกำลังซื้อสูง แม้โดนมาตรการทางภาษีจากทรัมป์ แต่แรงหนุนทั้งภาครัฐและเอกชนส่งผลให้เป็นโอกาสที่ดีของนักลงทุน

    ในปี 2568 เศรษฐกิจเวียดนามเผชิญกับความท้าทายจากมาตรการภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากเวียดนามถึง 46% เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2568 โดยอ้างเหตุผลเรื่องความไม่สมดุลทางการค้าและการปกป้องอุตสาหกรรมภายในประเทศ

    แม้ว่าจะมีการระงับการขึ้นภาษีเป็นเวลา 90 วันเพื่อเปิดโอกาสให้มีการเจรจา แต่ความไม่แน่นอนนี้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและตลาดหุ้นเวียดนาม

    อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจเวียดนามยังคงมีแนวโน้มการเติบโตที่แข็งแกร่ง โดยรัฐบาลเวียดนามตั้งเป้าหมาย GDP เติบโตที่ 8% ในปีนี้ และ 10% ในปี 2569 สะท้อนถึงความทะเยอทะยานของภาครัฐในการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง

    เศรษฐกิจเวียดนามยังเร่งเครื่อง

    จากสัมมนา “Vietnam’s Next Chapter: Opportunities in Middle-Class Expansion เจาะลึกการลงทุนเวียดนาม เมื่อชนชั้นกลางขยายตัว” โดยบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด นักวิเคราะห์ต่างลงความเห็นในทิศทางเดียวกันว่า ตลาดเวียดนามกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่องในระยะยาว โดยมีความเห็นดังนี้

    แมทธิว มิเชล สมิธ CFA. Head of Research at Yuanta Securities Vietnam เผยว่า เวียดนามยังอยู่ในช่วง “ประชากรทองคำ” คือ  จำนวนวัยทำงานมากกว่าผู้สูงอายุ จุดเปลี่ยนสำคัญในด้านประชากรของเวียดนามจะอยู่ในปี 2578 ส่งผลให้ในระยะ 10 ปี หลังจากนี้ เวียดนามยังคงได้เปรียบในแง่ประชากรที่เสริมสร้างการบริโภคภายในประเทศ 

    เช่นเดียวกับ ณัชพล แพรสีเจริญ ผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ชี้ให้เห็นว่ากลุ่มผู้บริโภคในเมืองกำลังใช้จ่ายมากขึ้น สะท้อนจากผลประกอบการของบริษัทที่น่าสนใจอย่าง Phu Nhuan Jewelry (PNJ) บริษัทเครื่องประดับและค้าทองที่มีการขยายสาขากว่า 429 สาขาทั่วทั้งประเทศ เช่นเดียวกับการเติบโตของ Vincom Retail (VRE) กลุ่มธุรกิจศูนย์การค้า และ Sabeco ผู้นำตลาดเบียร์ ด้วยเหตุนี้เป็นปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนมองเห็นถึงศักยภาพของเศรษฐกิจเวียดนาม

    นอกจากนี้ เวียดนามยังได้รับการยอมรับในฐานะศูนย์กลางการผลิตแห่งใหม่ของโลก โดยมีต้นทุนต่ำ ทำเลใกล้จีน และนโยบายการค้าเปิดเสรีที่ดึงดูดนักลงทุนต่างชาติมากขึ้น

    และจุดเปลี่ยนสำคัญของเวียดนามในปีนี้คือ ปัจจัยทางการเมืองทั้งในประเทศและต่างประเทศที่เข้ามามีผลกระทบ ด้านภายในประเทศ เริ่มจากการปฏิรูประบบการบริหารภาครัฐ โดยมีแผนควบรวมหน่วยงานบริหารระดับจังหวัด และลดจำนวนตำบลลง เพื่อหวังเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารให้มีความรวดเร็วและโปร่งใสมากขึ้น รวมถึงการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงมิถุนายน ซึ่งหากผู้ดำรงตำแหน่งในปัจจุบันชนะอีกหนึ่งสมัย จะเป็นแรงกระตุ้นที่ทำให้นโยบายทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ที่วางไว้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง

    ในด้านปัจจัยทางการเมืองต่างประเทศ คือ การกีดกันทางภาษีจากทรัมป์ ซึ่งในวันที่ 10 กรกฎาคม 2568 จะครบกำหนด 90 วัน การชะลอมาตรการทางภาษีกับสหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงที่เป็นผลบวกต่อเวียดนาม ซึ่งหากทางสหรัฐฯ ลดอัตราภาษีลงมาจะช่วยดึงดูดนักลงทุนรายย่อยเข้าสู่ตลาดเวียดนามเพิ่มขึ้น 

    อยากลงทุนเวียดนาม เริ่มที่ไหนดี?

    บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) มีคำแนะนำสำหรับนักลงทุน ทั้งในผู้ที่ต้องการลงทุนในตราสารแสดงสิทธิการฝากหลักทรัพย์ต่างประเทศ หรือ Depositary Receipt (DR) และผู้ลงทุนในกองทุนรวม ซึ่งในกลุ่ม DR ชี้ให้เห็นว่า ฝั่งเทคโนโลยีมีความน่าสนใจ เช่น MWG19 ที่ลงทุนในบริษัท Mobile World Investment Corporation (MWG) หนึ่งในบริษัทค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนาม โดยมีธุรกิจหลักในด้านการจำหน่ายสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ และสินค้าอุปโภคบริโภคทั้งในรูปแบบร้านค้าและผ่านแอปพลิเคชัน ซึ่งในปีที่ผ่านมา MWG มีกำไรสุทธิเติบโตถึง 30% และครองส่วนแบ่งตลาดออนไลน์สูง สามารถแข่งขันกับแพลตฟอร์มออนไลน์ขนาดใหญ่ ทำให้ MWG มีศักยภาพสูงสำหรับนักลงทุนที่มองหาธุรกิจค้าปลีก B2C ที่แข็งแกร่ง

    เช่นเดียวกับ FPTVN19 ของ FPT Corporation บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของเวียดนาม ซึ่งบริษัทก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2531 และมีกำไรสุทธิเติบโตถึง 19% ในปี 2567 จากความสำเร็จในตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะญี่ปุ่น ปัจจุบัน FPT ยังรุกหนักด้าน AI และดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน ท่ามกลางแรงหนุนจากแรงงานหนุ่มสาวและทักษะสูงในเวียดนาม ทำให้เป็นหุ้นเติบโตที่น่าจับตามอง

    ในฝั่งกองทุนรวม ธเนศ เลิศเพชรพันธ์ Investment Strategy บลจ. พรินซิเพิล จำกัด ให้คำแนะนำว่า PRINCIPAL VNEQ เป็นทางเลือกที่โดดเด่น ด้วยทีมผู้จัดการกองทุน 7 คน ที่มีความชำนาญเฉพาะด้านครอบคลุมทุกอุตสาหกรรมสำคัญในเวียดนาม รวมถึงนักวิเคราะห์ลูกครึ่งไทย -เวียดนาม ที่สื่อสารได้ถึง 3 ภาษา ช่วยให้เข้าใจทั้งมุมมองท้องถิ่นและระดับสากลอย่างลึกซึ้งและพอร์ตการลงทุน (Portfolio Holding) ที่ครอบคลุมหุ้นคุณภาพดี ทั้งในกลุ่มการเงิน เทคโนโลยี อสังหาริมทรัพย์ และพลังงาน ซึ่งได้รับอานิสงส์จากนโยบายรัฐโดยตรงและการฟื้นตัวของอุปสงค์ในประเทศ

    อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่

    ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้


    Author

    กองบรรณาธิการ

    กองบรรณาธิการ