ก.ล.ต.เตรียมฟ้อง แอน JKN แบนเป็นผู้บริหาร 10 ปี ย้ำการพิจารณาเป็นที่สิ้นสุดแล้ว

Investment

Capital Market

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

ก.ล.ต.เตรียมฟ้อง แอน JKN แบนเป็นผู้บริหาร 10 ปี ย้ำการพิจารณาเป็นที่สิ้นสุดแล้ว

Date Time: 28 เม.ย. 2568 18:49 น.

Video

ธุรกิจลับ Toyota ถ้าไม่ได้ขายรถ หาเงินจากไหน ทำไมถึงยิ่งใหญ่อยู่วันยังค่ำ ? | Digital Frontiers

Summary

  • ก.ล.ต.จ่อยื่นฟ้อง แอน JKN แบนเป็นผู้บริหาร 10 ปี ถ้าไม่รับโทษ ย้ำการพิจารณาเป็นที่สิ้นสุดแล้ว แม้บอร์ดบริษัทย้ำ ไม่ปลดออกจากตำแหน่ง CEO

Latest


จากกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ประกาศลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำความผิด 2 ราย ได้แก่ บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ JKN และ จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ หรือ แอน จักรพงษ์

กรณีมีการเผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับการขายธุรกิจองค์กรนางงามจักรวาล หรือ MUO (Miss Universe Organization) ส่งผลให้ ก.ล.ต. มีคำสั่งให้ชำระค่าปรับ 4.1 ล้านบาท และสั่งห้าม “แอน จักรพงษ์” ดำรงตำแหน่งกรรมการหรือผู้บริหารเป็นเวลา 56 เดือน

ต่อมา คณะกรรมการของ JKN ประกาศน้อมรับคำตัดสิน แต่ยังให้ จักรพงษ์ นั่งดำรงตำแหน่งต่อไป

พรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. เปิดเผยว่า การลงโทษของสำนักงาน ก.ล.ต.นั้นถือว่าสิ้นสุดแล้ว และอยู่ระหว่างการพิจารณาของผู้บริหารท่านดังกล่าวจะดำเนินการอย่างไร หากไม่ยอมรับคำตัดสิน ทางสำนักงานก็จะเดินหน้าต่อ

ทั้งนี้ หากจักรพงษ์ไม่ยอมรับคำตัดสิน ก.ล.ต. จะมีการยื่นฟ้องกับสำนักงานอัยการ เพื่อฟ้องคดีสู่ศาลแพ่งต่อไป ซึ่งโดยรูปแบบปกติ ก.ล.ต.จะยื่นไปในโทษสูงสุด ซึ่งตามกฎหมาย สามารถยื่นฟ้องคดีห้ามเป็นกรรมการและผู้บริหารสูงสุดที่ 10 ปี ตามที่กฎหมายกำหนด

ส่วนกำหนดเวลาว่าต้องดำเนินการภายในเมื่อไหร่ ทางเจ้าตัวมีกำหนดระยะเวลาอยู่ซึ่งเจ้าตัวรู้อยู่แล้วว่ามีกำหนดคำสั่งถึงเมื่อใด โดยทางก.ล.ต.มีเป้าหมายที่จะใช้การลงโทษทางแพ่งเพื่อสร้างความรวดเร็วในการลงโทษผู้กระทำผิด

บอร์ด JKN พร้อมรับโทษทางแพ่ง ยัน 'แอน จักรพงษ์' ยังเป็น CEO

ด้านบริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 7/2568 ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2568 ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ระบุว่า สืบเนื่องจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต.แจ้งว่า คณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง (ค.ม.พ.) มีมติให้นำมาตรการลงโทษทางแพ่งมาใช้บังคับกับบริษัท และคุณจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ในฐานะเป็นบุคคลซึ่งรับผิดชอบในการดำเนินงานของนิติบุคคล

ในการนี้ ที่ประชุมฯ พิจารณาแล้วเห็นว่า ในส่วนความผิดของบริษัทนั้น เห็นควรยอมรับตามมาตรการลงโทษทางแพ่งดังกล่าว แต่เนื่องจากบริษัทอยู่ในกระบวนการฟื้นฟูกิจการ ซึ่งค่าปรับไม่ใช่การดำเนินธุรกิจปกติของบริษัท บริษัทจึงจะดำเนินการขออนุญาตต่อศาลล้มละลายกลางในการชำระค่าปรับดังกล่าวต่อไป

ในส่วนของคุณจักรพงษ์นั้น เป็นความผิดเฉพาะบุคคล โดยตลอดเวลาที่ผ่านมา คุณจักรพงษ์ถือเป็นผู้บริหารหลักในการผลักดันและการดำเนินงานของบริษัทอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับเป็นผู้มีส่วนสำคัญในการปฏิบัติตามแผนฟื้นฟูกิจการซึ่งบริษัทได้ยื่นแผนฟื้นฟูกิจการต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แล้วเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2568 ให้เกิดความสำเร็จ ประกอบกับที่ประชุมฯ พิจารณาแล้วพบว่า มาตรการลงโทษทางแพ่งที่ ค.ม.พ. กำหนด ยังมิใช่คำสั่งอันเป็นที่สุด ซึ่งส่งผลให้คุณจักรพงษ์ต้องห้ามการเป็นกรรมการหรือผู้บริหารในบริษัทที่ออกหลักทรัพย์หรือบริษัทหลักทรัพย์

ดังนั้น ในปัจจุบัน คุณจักรพงษ์จึงยังมีสิทธิอย่างสมบูรณ์ตามกฎหมายในการดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการหรือผู้บริหารในบริษัทที่ออกหลักทรัพย์หรือบริษัทหลักทรัพย์เช่นเดิม นอกจากนี้ เมื่อพิจารณาเพิ่มเติมแล้วก็ไม่พบว่า คุณจักรพงษ์ ซึ่งเป็นกรรมการและผู้บริหารสูงสุดของบริษัทมีลักษณะขาดความน่าไว้วางใจอื่นใดในการดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารของบริษัท ตามประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ กจ.3/2560 เรื่อง การกำหนดลักษณะขาดความน่าไว้วางใจของกรรมการและผู้บริหารของบริษัท

ดังนั้น เพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย ที่ประชุมฯ จึงมีมติเห็นชอบให้คุณจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ยังคงดำรงตำแหน่งกรรมการ กรรมการผู้มีอำนาจลงนาม กรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน ประธานกรรมการบริหาร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการของบริษัทตามเดิมจนกว่าจะมีคำสั่งถึงที่สุดในเรื่องดังกล่าว

ย้อนรอยการสอบสวน ก่อน ก.ล.ต.ออกคำสั่งลงโทษ

สำหรับการสอบสวนของ ก.ล.ต. เริ่มต้นจากรายงานข่าวในเดือนมกราคม 2567 ที่ระบุว่า JKN ได้ขายองค์กรนางงามจักรวาล (MUO) ให้กับนักธุรกิจชาวเม็กซิกันชื่อ ราอูล โรชา และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ได้ขอให้ JKN ชี้แจงเกี่ยวกับรายงานดังกล่าวในเดือนเมษายน 2567

ส่วน ก.ล.ต. เข้ามาเกี่ยวข้องหลังจากมีรายงานข่าวและการสอบถามจาก SET แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการรักษาความโปร่งใสและความถูกต้องในการเผยแพร่ข้อมูลสำหรับบริษัทจดทะเบียน

ต่อมาแอน จักรพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JKN ได้ออกมาชี้แจงผ่านระบบ SETLink เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2567 โดยระบุว่า แม้จะมีการเจรจากับนักลงทุนหลายราย แต่ยังไม่มีข้อตกลงที่ชัดเจนเกี่ยวกับการขาย MUO โดยคำแถลงนี้เป็นจุดสำคัญของข้อกล่าวหาของ ก.ล.ต.

ระหว่างการสอบสวนของ ก.ล.ต. พบว่า JKN โดยบริษัทย่อย JKN Global Content Pte. Ltd. ได้ทำสัญญาซื้อขายหุ้นเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2566 เพื่อขายหุ้น 50% ใน JKN Legacy, Inc. (ซึ่งเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ MUO) ให้กับ Legacy Holding Group USA Inc. ของราอูล โรชา ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Legacy Holding Group USA Inc.

ขณะที่ ก.ล.ต. พบว่าคำแถลงของ JKN ในเดือนมกราคม 2567 ไม่เป็นความจริงและทำให้เข้าใจผิด ซึ่งอาจส่งผลต่อการตัดสินใจลงทุนในหุ้นของ JKN โดยการกระทำดังกล่าวถือเป็นการละเมิดมาตรา 240 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 (1992) และ แอน จักรพงษ์ ในฐานะผู้รับผิดชอบการดำเนินงานของบริษัท ต้องรับโทษตามบทบัญญัติที่เกี่ยวข้องของกฎหมายด้วย

ไทม์ไลน์ของข้อพิพาท ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา

ประเด็นที่ถูกจับตามองคือ ข้อตกลงการขาย และการให้ข้อมูลที่ทำให้เข้าใจผิด ส่งผลต่อการตัดสินใจลงทุนของผู้ลงทุนรายย่อยในตลาด จะเป็นสิ่งที่เป็นอีกกรณีศึกษาของนักลงทุนกับบทลงโทษในตลาดทุนอีกเรื่องหนึ่ง


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ