ตลาดหลักทรัพย์ฯ รวบกระดาน DR-DRx  พร้อมขยายเวลาเทรด เริ่ม 6 พ.ค.นี้ เปิดโอกาสลงทุนต่างประเทศ

Investment

Capital Market

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

ตลาดหลักทรัพย์ฯ รวบกระดาน DR-DRx พร้อมขยายเวลาเทรด เริ่ม 6 พ.ค.นี้ เปิดโอกาสลงทุนต่างประเทศ

Date Time: 28 เม.ย. 2568 16:57 น.

Video

เมื่อเด็ก ป.6 (11 ขวบ) สร้างรายได้ "หลักแสน" แซงหน้าคนทำงาน! l Money Secret EP.12

Summary

ตลาดหลักทรัพย์ฯ เตรียมรวบ DR และ DRx เข้าซื้อขายในกระดานหุ้นไทย และขยายเวลาเทรดเพิ่มความสะดวกให้นักลงทุน โดยนักลงทุนสามารถใช้บัญชีซื้อขายหุ้นเดิม ซื้อขายได้ทุกแพลตฟอร์มของโบรกเกอร์ ทั้งช่วงกลางวันและกลางคืน เริ่มตั้งแต่วันที่ 6 พฤษภาคมนี้

Latest


ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เตรียมรวบตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ (Depositary Receipt หรือ DR) และ DRx (Fractional DR) เข้าซื้อขายในกระดานหุ้นไทย และขยายเวลาเทรดเพิ่มความสะดวกให้นักลงทุน โดยนักลงทุนสามารถใช้บัญชีซื้อขายหุ้นเดิม ซื้อขายได้ทุกแพลตฟอร์มของโบรกเกอร์ ทั้งช่วงกลางวันและกลางคืน เริ่มตั้งแต่วันที่ 6 พฤษภาคมนี้


รวบกระดาน DR - DRx เปิดให้เทรดกลางวัน-กลางคืน เริ่ม 6 พ.ค.นี้


ดร.รินใจ ชาครพิพัฒน์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานการตลาด ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า  ตลาดหลักทรัพย์ฯ เตรียมขยายเวลาการซื้อขายสำหรับตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ (Depositary Receipt หรือ DR) ที่อ้างอิงหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในทวีปอเมริกาและยุโรป ให้สามารถซื้อขายได้ทั้งกลางวันและกลางคืน  ตั้งแต่เวลา 10.00-16.30 น. และ 19.00-03.00 น. (ของวันถัดไป) เริ่ม 6 พฤษภาคม 2568 เป็นต้นไป ขณะที่ DR เอเชีย ยังคงซื้อขายในเวลากลางวันเช่นเดิมซึ่งสอดคล้องตามเวลาประเทศไทย

สำหรับ DRx (Fractional DR) ซึ่งปัจจุบันมี 20 หลักทรัพย์ เป็น DR ที่อ้างอิงกับหลักทรัพย์ในตลาดอเมริกาทั้งสิ้นนั้น จะถูกย้ายไปซื้อขายรวมกับ DR โดยอัตโนมัติในวันที่ 6 พฤษภาคม 2568

และเริ่มซื้อขายตามเวลาใหม่ของ DR ตั้งแต่ 10.00 น. ของวันเดียวกัน ซึ่งการปรับปรุงบริการในครั้งนี้ จะทำให้ผู้ลงทุนสามารถติดตามราคาและส่งคำสั่งซื้อขาย DR ทั้งหมดได้ในทุกแพลตฟอร์มซื้อขายของบริษัทหลักทรัพย์โดยใช้บัญชีซื้อขายหุ้นที่มีในปัจจุบัน

ผลิตภัณฑ์ DR และ DRx ได้รับความนิยมจากผู้ลงทุนไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย ณ วันที่ 23 เมษายน 2568 มีจำนวน DR และ DRx 89 หลักทรัพย์ ครอบคลุมหลักทรัพย์ชั้นนำทั่วโลก ทั้งทวีปอเมริกา ยุโรป และเอเชีย และมีผู้ออก DR จำนวน 5 ราย มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Cap) อยู่ที่ประมาณ 31,000 ล้านบาท และมีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันประมาณ 580 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 140% จากปีก่อนหน้า

การขยายเวลาซื้อขาย DR ครั้งนี้ คาดว่าจะช่วยให้ผู้ลงทุนไทยเข้าถึงและกระจายการลงทุนไปยังต่างประเทศผ่านตลาดหลักทรัพย์ไทยได้สะดวกมากขึ้น ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ลงทุน และรองรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในระยะยาว


เปิดสถิติ DR พุ่งแรง ราคาบวกทะลุ 62.9% จากต้นปี


ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยข้อมูลสถิติที่น่าสนใจ พบว่าตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ (DR) และ DRx หลายตัวให้ผลตอบแทนโดดเด่นอย่างมากนับตั้งแต่ต้นปี 2568 โดยเฉพาะกลุ่ม DR ที่อ้างอิงหุ้นจดทะเบียนในภูมิภาคเอเชีย

ซึ่งสวนทางกับ DRx ที่อ้างอิงหุ้นในสหรัฐอเมริกาที่ส่วนใหญ่ปรับตัวลดลงค่อนข้างมาก สะท้อนภาพการลงทุนที่แตกต่างกันในแต่ละภูมิภาค

โดย 5 DR/DRx อันดับที่ให้ผลตอบแทนสูงสุด (ณ วันที่ 22 เม.ย.68) มีดังนี้

  • STEG19 ราคาเพิ่มขึ้น 62.9% จากต้นปี
  • BYDCOM80 ราคาเพิ่มขึ้น 39% จากต้นปี
  • BABA80 ราคาเพิ่มขึ้น 32% จากต้นปี
  • GOLD19 ราคาเพิ่มขึ้น 28.5% จากต้นปี
  • MITSU19 ราคาเพิ่มขึ้น 25.5% จากต้นปี

ส่วน 5 DR/DRx อันดับที่ให้ผลตอบแทนต่ำสุด (ณ วันที่ 22 เม.ย.68) มีดังนี้

  1. TSLA80 ราคาลดลง -49.3% จากต้นปี
  2. AMD80X ราคาลดลง -34.9% จากต้นปี
  3. AVG80X ราคาลดลง -34.6% จากต้นปี
  4. ESTEE80X ราคาลดลง -32.6% จากต้นปี
  5. NOVOB80 ราคาลดลง -31.3% จากต้นปี

ดร.รินใจ ชี้ให้เห็นว่า ความเคลื่อนไหวของราคา DR นั้น ขึ้นอยู่กับผลประกอบการและปัจจัยข่าวสารที่ส่งผลกระทบต่อหุ้นอ้างอิงและกลุ่มอุตสาหกรรม (Sector) นั้นๆ ในแต่ละช่วงเวลา

แม้ในอดีตหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีชั้นนำของสหรัฐฯ หรือที่รู้จักกันในนาม “7 นางฟ้า” จะเคยได้รับความนิยมสูง แต่ปัจจุบันอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยต่างๆ เช่น นโยบายการค้า เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ข้อดีของการมี DR ที่หลากหลายในตลาดคือ ช่วยอำนวยความสะดวกให้นักลงทุนไทยสามารถกระจายการลงทุนไปยังต่างประเทศได้ง่าย ผ่านบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ที่มีอยู่

โดยมองว่าผู้ออก (Issuer) ได้คัดเลือกหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดีและมีสภาพคล่องมานำเสนอ พร้อมทั้งมีบทวิเคราะห์สนับสนุน ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงมองว่า DR เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้นักลงทุนกระจายพอร์ตการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ


เตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ “Leverage & Inverse ETFs”


นอกจากการเติบโตของ DR แล้ว ดร.รินใจ ยังเปิดเผยถึงแผนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ในปีนี้ คือ "Leverage & Inverse ETFs" ซึ่งเป็นกองทุน ETF ประเภทใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองกลยุทธ์การลงทุนที่หลากหลายยิ่งขึ้น โดยมีบางกองทุน เช่น กองทุนที่อ้างอิงดัชนี SET50 ได้ยื่นเอกสารคำขออนุมัติ (ไฟลิ่ง) แล้ว

สำหรับ Leverage ETF นั้น จะให้ผลตอบแทนเป็น "ทวีคูณ" ของการเคลื่อนไหวของดัชนีอ้างอิง (เช่น 2 เท่า ตามเกณฑ์ของไทย) เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มั่นใจในทิศทางตลาด และต้องการเพิ่มโอกาสทำกำไร

ส่วน Inverse ETF จะให้ผลตอบแทนในทิศทาง "ตรงกันข้าม" กับดัชนีอ้างอิง ซึ่งสามารถใช้เป็นเครื่องมือบริหารความเสี่ยงในช่วงตลาดขาลง หรือใช้เก็งกำไรในระยะสั้นได้

ตลาดหลักทรัพย์ฯ มีกำหนดการจะเปิดรับฟังความคิดเห็น (Public Hearing) เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่นี้ในเดือนพฤษภาคม 2568 ก่อนจะดำเนินการขอความเห็นชอบในขั้นตอนต่อไป และคาดว่าจะสามารถเริ่มเปิดให้ซื้อขาย Leverage & Inverse ETFs ได้ในช่วงไตรมาส 3 หรือ 4 ของปี 2568 นี้

ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับความพร้อมของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ซึ่งจากการทำกลุ่มสนทนา (Focus Group) พบว่า บลจ. ต่างๆ ให้การตอบรับที่ดีเกินคาด ขณะที่การมีผลิตภัณฑ์ประเภทนี้จะช่วยเพิ่มความครบถ้วนของเครื่องมือการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ตอบโจทย์นักลงทุนที่มองเห็นโอกาสและต้องการใช้กลยุทธ์ที่ซับซ้อนขึ้นในการบริหารพอร์ตลงทุน


อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ