AURA กางแผน 3 ปี ขยาย 1,070 สาขา รุกหนัก “ทองมาเงินไป” เพิ่มพอร์ตสินเชื่อแตะ 2 หมื่นล้าน

Investment

Capital Market

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

AURA กางแผน 3 ปี ขยาย 1,070 สาขา รุกหนัก “ทองมาเงินไป” เพิ่มพอร์ตสินเชื่อแตะ 2 หมื่นล้าน

Date Time: 25 เม.ย. 2568 15:29 น.

Video

Google Maps ได้อะไร ? ทำไมให้คนใช้ฟรี ทั้งที่ต้นทุนมหาศาล | Digital Frontiers EP.34

Summary

  • AURA กางแผน 3 ปี ขยายอาณาจักรร้านทอง ตั้งเป้าผุดสาขาทั่วไทยแตะ 1,070 แห่งภายในปี 70 พร้อมอัดฉีดธุรกิจ "ทองมาเงินไป" เต็มสูบ ดันพอร์ตสินเชื่อขายฝากทองคำพุ่งเป้า 2 หมื่นล้าน

Latest


ท่ามกลางสถานการณ์ที่ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและเป็นที่จับตาของนักลงทุนจำนวนมาก มีอีกมิติหนึ่งที่น่าติดตามไม่แพ้กัน นั่นคือ ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมค้าปลีกทองคำ ซึ่งต้องเผชิญกับทั้งโอกาสและความท้าทายในสภาวะตลาดปัจจุบัน

หนึ่งในผู้เล่นสำคัญ คือ บริษัท ออโรร่า ดีไซน์ จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น AURA ผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกทองรูปพรรณ เครื่องประดับ และธุรกิจสินเชื่อ "ทองมาเงินไป" ล่าสุดประกาศกลยุทธ์ 3 ปี (ปี 2568-2570) ภายใต้แผน "Exponential Expansion" โดยมีเป้าหมายหลักคือการเพิ่มจำนวนสาขา และขยายพอร์ตสินเชื่อ

อนิพัทย์ ศรีรุ่งธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการตลาด AURA เปิดเผยว่า แผนดังกล่าวจะให้ความสำคัญกับการขยายสาขา, การเพิ่มสัดส่วนผลิตภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรสูง และการลงทุนในธุรกิจต้นน้ำ โดยมุ่งเน้นธุรกิจเครื่องประดับทองคำ (Gold Jewelry Business) และธุรกิจสินเชื่อทองคำ (Gold Financing Business)

ในส่วนธุรกิจเครื่องประดับทองคำ บริษัทตั้งเป้าเพิ่มจำนวนสาขาในเครือ ได่แก่ AURORA, เซ่งเฮง, ทองมาเงินไป, AURORA Diamond, ของขวัญ by AURORA จาก 488 สาขา ณ สิ้นปี 2567 เป็น 644 สาขาในปี 2568 และ 1,070 สาขาภายในปี 2570 โดยเน้นทำเลในห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้าเป็นหลัก คาดว่าจะใช้งบลงทุนส่วนนี้ประมาณ 200 ล้านบาท ไม่รวมเงินทุนหมุนเวียนสำหรับสต็อกทองคำ

นอกจากนี้ บริษัทจะเพิ่มสัดส่วนสินค้าที่มีอัตรากำไรสูง ได้แก่ กลุ่มของขวัญและจิวเวลรี่ รวมถึงผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น ทอง 18K และไข่มุก ซึ่งจัดเป็นกลุ่มที่มีอัตรากำไรสูง และมีแผนพิจารณาความร่วมมือกับพันธมิตรผ่านการร่วมทุน (JV) หรือการซื้อกิจการ (M&A) เพื่อผลิตสินค้ากลุ่มดังกล่าวด้วย

ด้านการบริหารจัดการต้นทุน บริษัทมีแผนร่วมมือกับผู้ค้าส่งทองคำในการนำทองคำมาวางขายหน้าร้าน และมีแผนลงทุนประมาณ 40 ล้านบาท เพื่อสร้างโรงหลอมทองคำ ซึ่งบริษัทคาดว่าจะช่วยเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นและสามารถคืนทุนได้ใน 1 ปี

สำหรับธุรกิจสินเชื่อ "ทองมาเงินไป" บริษัทตั้งเป้าหมายขยายพอร์ตลูกหนี้ขายฝาก (AR Balance) จาก 4,881 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2567 เป็น 7,500 ล้านบาทในปี 2568 และ 20,000 ล้านบาทภายในปี 2570 พร้อมกับการพัฒนาระบบออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน และบริการรับส่งถึงที่ (Delivery)

ทั้งนี้ ในปี 2570 บริษัทตั้งเป้าสัดส่วนอัตรากำไรขั้นต้นจากทั้ง 3 ธุรกิจ ดังนี้

  • ธุรกิจค้าปลีกทองคำ 44%
  • ธุรกิจสินค้าอัตรากำไรสูง 16%
  • ธุรกิจสินเชื่อทองคำ 40%

โดยเชื่อว่าจะทำให้บริษัทสามารถมีผลประกอบการที่แข็งแกร่ง และไม่อิงกับความผันผวนของราคาทองคำมากเกินไปในอนาคต

ด้านแหล่งเงินทุน อนิพัทย์ กล่าวว่า บริษัทจะใช้เงินทุนจากกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน, วงเงินสินเชื่อจากสถาบันการเงิน และมีแผนออกหุ้นกู้เสนอขายแก่ประชาชนทั่วไป (PO) วงเงินประมาณ 2,000 ล้านบาท อายุ 2 ปี ในช่วงไตรมาสที่ 3/68 เพื่อสนับสนุนแผนการขยายธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจสินเชื่อ

นอกจากนี้ บริษัทคาดว่ารายได้รวมปี 2568 จะเติบโตต่อเนื่อง และจะพยายามรักษาอัตรากำไรให้ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา พร้อมทั้งมีกลยุทธ์ในการบริหารจัดการความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาทองคำด้วย


อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ