
ท่ามกลางสภาวะตลาดทุนไทยที่ยังคงเผชิญความผันผวน การมีหลักคิดที่มั่นคงและมุมมองที่เฉียบคมนับเป็นสิ่งสำคัญในการรับมือกับความท้าทายต่างๆ ช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์นี้ จึงเป็นโอกาสอันดีที่จะได้พักผ่อนพร้อมเติมพลังด้วยการอ่านหนังสือดีๆ สักเล่ม
Thairath Money ได้รวบรวมคำแนะนำ 5 หนังสือที่น่าสนใจ จาก 4 มุมมองในแวดวงตลาดทุนไทย ทั้งเลขาธิการ ก.ล.ต., ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯ, ผู้บริหารกองทุนชั้นนำ และนักลงทุน VI ชื่อดัง เพื่อเป็นแนวทางในการเลือกสรรหนังสือคู่ใจสำหรับวันหยุดยาวนี้
ประเดิมด้วยมุมมองที่เน้นการดูแลสุขภาพใจ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้สิ่งอื่นใด โดย พรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้แนะนำหนังสือที่เหมาะสำหรับอ่านสบายๆ เพื่อเติมพลังใจในช่วงวันหยุดสงกรานต์นี้ คือ “ให้ความสุขตามหาเรา” ผลงานของ “หนุ่มเมืองจันท์”
เลขาธิการ ก.ล.ต. ให้มุมมองว่า ในช่วงวันหยุด หลายคนอาจมองหากิจกรรมต่างๆ เพื่อสร้างความสุข แต่บางครั้ง “การได้อยู่กับตัวเอง อยู่เงียบเงียบ เฉยเฉย ก็อาจมีความสุขได้โดยไม่ต้องทำอะไร”
ซึ่งหนังสือเล่มนี้ได้นำเสนอมุมมองเกี่ยวกับความสุขในรูปแบบที่เรียบง่าย และเข้าถึงได้ไม่ยาก ดังเช่นแนวคิดที่เปรียบเปรยไว้อย่างน่าสนใจว่า
'ความสุข' เหมือน 'ผีเสื้อ'
ยิ่งไขว่คว้ายิ่งไม่เจอ
ต้องปลูก 'ดอกไม้' ในใจ
แล้ว 'ผีเสื้อ' จะบินมาหาเอง
พรอนงค์ กล่าวเสริมว่า ความสุขเรียบง่ายเช่นนี้ยังสามารถ “ขยาย ส่งต่อ ไปหาผู้อื่นได้” และตนเองก็เคยนำหนังสือเล่มนี้มอบเป็นของขวัญและกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ในสำนักงาน ก.ล.ต. ในช่วงปีใหม่ เพื่อเป็นการส่งต่อความรู้สึกดีๆ ให้แก่กัน นับเป็นอีกเล่มที่เหมาะสำหรับอ่านสบายๆ เพื่อชาร์จพลังบวกในวันหยุดยาว
อัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับหนังสือที่น่าสนใจสำหรับช่วงเทศกาลสงกรานต์ คือ "The 7 Habits of Highly Effective People" โดย Stephen Covey
ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ฯ เล่าว่า ถึงแม้หนังสือเล่มดังกล่าวจะไม่ได้นำเสนอเนื้อหาเกี่ยวกับการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์โดยตรง แต่เป็นวรรณกรรมด้านการพัฒนาตนเอง ซึ่งนำเสนอข้อคิดที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิต
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลักการสำคัญในการแยกระหว่างปัจจัยที่อยู่ภายใต้การควบคุมและปัจจัยที่อยู่นอกเหนือการควบคุม
มีแนวคิดสำคัญข้อหนึ่งที่ได้ยกมากล่าวถึงคือ ให้เราพิจารณาอย่างถี่ถ้วนว่า สิ่งใดอยู่ภายใต้การควบคุมของเรา และสิ่งใดอยู่นอกเหนือการควบคุม การวิตกกังวลต่อสิ่งที่ควบคุมไม่ได้มากเกินไปในชีวิตประจำวันนั้นสมควรหรือไม่ แทนที่จะมุ่งให้ความสนใจกับสิ่งที่เราสามารถบริหารจัดการได้
“ในเรื่องที่เราควบคุมไม่ได้ เราก็ต้องยิ้มสู้กับมัน เป็นอาวุธที่ดีที่สุด” อัสสเดช กล่าว
ซึ่งหลักการนี้นับว่าสามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้อย่างเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน ทั้งในบริบทส่วนบุคคลและการเผชิญกับความไม่แน่นอนของสภาวะตลาด
หนังสือเล่มนี้นับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจและให้ข้อคิดอันเป็นประโยชน์ เหมาะสำหรับผู้ที่ประสงค์จะใช้เวลาในช่วงวันหยุดเพื่อการทบทวนและพัฒนาศักยภาพตนเอง
อีกมุมมองหนึ่งที่นักลงทุนและผู้สนใจสถานการณ์ปัจจุบันไม่ควรมองข้าม คือการทำความเข้าใจภาพใหญ่ของโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นแนวทางที่ ประกิต สิริวัฒนเกตุ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จำกัด ให้ความสำคัญและแนะนำ
โดยเลือกหนังสือ 2 เล่ม ที่จะช่วยเปิดมุมมองด้านภูมิรัฐศาสตร์และภูมิเศรษฐศาสตร์ ผลงานของ รองศาสตราจารย์ ดร. ปิติ ศรีแสงนาม โดยให้เหตุผลว่า หนังสือทั้งสองเล่มนี้จะช่วยให้ "เข้าใจสถานการณ์โลกในปัจจุบัน โดยเฉพาะเรื่องของสงครามการค้า" ได้อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น ได้แก่
ซึ่งหนังสือทั้งสองเล่มนี้ นับเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการทำความเข้าใจความซับซ้อนของสถานการณ์โลกปัจจุบัน ซึ่งส่งผลกระทบต่อทิศทางการลงทุนและเศรษฐกิจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ปิดท้ายด้วยคำแนะนำจากนักลงทุนเน้นคุณค่า (VI) แถวหน้าของเมืองไทย ทิวา ชินธาดาพงศ์ หรือที่นักลงทุนรู้จักกันดีในนาม ‘เซียนมี่’ ซึ่งได้แนะนำหนังสือที่เป็นเหมือนเข็มทิศสำคัญสำหรับ VI นั่นคือ “กุญแจ 5 ดอกของการลงทุนแบบเน้นคุณค่า” (The 5 Keys to Value Investing) โดย J. Dennis Jean-Jacques
เซียนมี่ อธิบายถึงเหตุผลที่แนะนำเล่มนี้ว่า ในสภาวะปัจจุบัน การลงทุนจำเป็นต้องกลับมาสู่ความเชื่อมั่นในปัจจัยพื้นฐานและมูลค่าที่แท้จริงของกิจการ นักลงทุนต้องสามารถแยกแยะได้ว่าหุ้นที่ราคาปรับตัวลงนั้น เป็นเพราะพื้นฐานเปลี่ยนแปลงไปจริงๆ หรือเป็นเพียงภาพลวงตาจากความผันผวนของตลาด
"เราก็มีหน้าที่มอนิเตอร์ให้ออกว่าจริงๆ แล้วพื้นฐานอยู่ที่ตรงไหนกันแน่" เซียนมี่กล่าว พร้อมยกตัวอย่างแนวทางส่วนตัวในการมองพอร์ตลงทุนสองมุม คือ มุมมองราคาตลาด และมุมมองมูลค่าที่เหมาะสม (Fair Value) ที่ประเมินไว้
"สมมติว่าหุ้นตอนนี้ราคาอยู่ที่ 5 บาท แต่ผมคิดว่าหุ้นควรจะอยู่ที่ 12 บาท ผมก็จะใส่โปรแกรม excel ไว้ที่ 12 บาท แล้วรอดูว่าพอร์ตมันจะไปที่เท่าไร เราก็ถือรอไปเรื่อยๆ"
ซึ่งการจะประเมินมูลค่าและถือรอได้อย่างมั่นใจนั้น เซียนมี่ เน้นว่าต้องกลับไปที่แก่นของการลงทุน คือการทำความเข้าใจในสิ่งที่จับต้องได้มากที่สุด เช่น กระแสเงินสด หรือสินทรัพย์ที่ใช้แสวงหากระแสเงินสดของธุรกิจนั้นที่เราลงทุน
หนังสือ “กุญแจ 5 ดอกของการลงทุนแบบเน้นคุณค่า” จึงเป็นอีกเล่มที่ช่วยตอกย้ำหลักการพื้นฐานสำคัญเหล่านี้ เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการเสริมสร้างความแข็งแกร่งของหลักการลงทุนแบบเน้นคุณค่าในช่วงวันหยุดยาว
อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้