
หุ้นไทยดิ่งลึก 68 จุด ตามหุ้นโลกผวา สงครามการค้ายกระดับความรุนแรง จากการตอบโต้การขึ้นภาษีกันไปมาระหว่างจีน กับสหรัฐฯ เกียรตินาคินภัทรประเมินรอบนี้ อาจเห็นดัชนีร่วงเหลือ 1,000 จุด แนะใช้ความ ระมัดระวังในการลงทุน รมว.คลังมั่นใจมาตรการปรับราคาซิลลิ่ง-ฟลอร์ ห้ามชอร์ตเซล ชั่วคราวเดินมาถูกทางแล้ว พิจารณาวันต่อวันพร้อมยกเลิกเมื่อเหมาะสม
ผู้สื่อข่าวรายงานภาวะตลาดหุ้นวันที่ 8 เม.ย.68 ว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงรุนแรงทันทีที่เปิดการซื้อขาย 46.94 จุด โดยลงไปที่ระดับ 1,078.27 จุด หรือลดลง 4.17% โดยระหว่างวันดัชนีทรุดตัวดิ่งลงไปต่ำสุดที่ระดับ 1,056.41 จุด ลดลงมากสุดที่ 68.80 จุด หรือ 6.11% จากนั้นมีแรงซื้อกลับก่อนที่ดัชนีจะเคลื่อนไหว มาปิดทำการที่ระดับ 1,074.59 จุด ลดลง 50.62 จุด หรือ 4.50% มีมูลค่าการซื้อขาย 66,661.23 ล้านบาท โดยหุ้นเกือบทั้งกระดานปรับตัวลงแดงเถือก แม้ตลาดหลักทรัพย์ฯจะประกาศใช้มาตรการชั่วคราวลดความผันผวน โดยปรับราคาซิลลิ่ง และฟลอร์ของหุ้นจากปกติขึ้น-ลงได้มากสุด 30% ลดลงเป็น 15% และยังประกาศห้ามชอร์ตเซลเป็นการชั่วคราวด้วย
โดยการปรับตัวลงของตลาดหุ้นไทย เป็นไป ตามทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นทั่วโลกที่ทิ้งตัวลงอย่างรุนแรง หลังโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เขย่าโลกด้วยการประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากทุกประเทศทั่วโลก รวมทั้งการประกาศขึ้นภาษีตอบโต้กันไปมาระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ส่งผลให้สินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกโดยเฉพาะตลาดหุ้น ถูกแรง ขายปรับตัวลงอย่างรุนแรงทุกตลาด สำนักวิเคราะห์และสำนักเศรษฐกิจต่างๆทั่วโลก ออกมา ปรับลดการเติบโตของเศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจสหรัฐฯ รวมทั้งเศรษฐกิจของไทยที่จะเติบโตได้ไม่ถึง 2% รวมทั้งยังมีการออกมาลดเป้าหมายดัชนีหุ้นไทยปีนี้ลง
โดย บล.เกียรตินาคินภัทรประเมินว่าตลาดหุ้น ไทยกำลังเผชิญแรงกดดันจากปัจจัยมหภาคหลายด้าน ทั้งเศรษฐกิจในประเทศที่ฟื้นตัวช้า นโยบายการเงินที่ยังคงตึงตัว และแรงกดดันจากมาตรการภาษี ระหว่างประเทศ ส่งผลให้เกียรตินาคินภัทรปรับลด เป้าหมายดัชนี SET ปี 68 ลงเหลือ 1,230 จุด จากเดิม 1,460 จุด ในระยะสั้นยังมีความเสี่ยงที่ ดัชนีจะปรับระดับลงไปทดสอบ 1,000 จุด ซึ่งอาจ กระตุ้นให้ภาครัฐต้องออกมาตรการพยุงเศรษฐกิจ
ขณะที่ บล.ดาโอ (ประเทศไทย) ระบุหุ้นไทย ผันผวนตามตลาดโลก จากมาตรการภาษีสหรัฐฯ โดยตลาดหุ้นไทยทำจุดต่ำสุดใหม่ (New Low) อีกครั้งนับตั้งแต่วิกฤติโควิด-19 หลังสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นสัปดาห์แห่งวิกฤติ (แผ่นดินไหวกรุงเทพฯ และ การประกาศมาตรการภาษีนำเข้าสหรัฐฯ) ซึ่งสร้างแรงกดดันทั่วโลก แนะรอติดตามมาตรการรัฐและ การเจรจากับสหรัฐฯ เพื่อลดผลกระทบจากภาษีนำเข้า สหรัฐฯ โดยยังคงแนะนำให้เก็บหุ้นที่จะมีการฟื้นตัว ไปกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในและภาวะเศรษฐกิจในประเทศ (Domestic Play)
บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ ระบุ อาจเห็นการปรับลงก่อนแล้วตามด้วยการฟื้นขึ้น แต่ปัจจัยแวดล้อมยังน่ากังวลจากการขึ้นภาษีตอบโต้ระหว่างสหรัฐฯ-จีนที่อาจรุนแรงขึ้น ขณะที่ประเด็นในประเทศต้องติดตามความพยายามของรัฐบาลในการขอเจรจากับสหรัฐฯ ทําให้ต้องใช้ความระมัดระวังในการลงทุน ประเมินแนวรับที่ 1,080-1,100 จุด
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง กล่าวว่า การปรับตัวลงของตลาดหุ้นไทย เมื่อคิดเป็นเปอร์เซ็นต์แล้วยังต่ำกว่าบางประเทศ เนื่องจากดัชนีหุ้นไทยตกลงมาพอสมควรแล้ว ตลาดรับรู้ไปหมดแล้ว โดยสำหรับมาตรการชั่วคราวที่นำออกมาใช้ คือ การห้ามชอร์ตเซล เป็นการตัดสินด้วยความกล้าหาญ “ปกติชอร์ตเซลเป็นเครื่องมือการป้องกันความเสี่ยง (hedge) ของบริษัทที่ลงทุนตามมาตรฐาน แต่เมื่อเห็นอาการแล้ว ทุกตลาดร่วงระเนระนาดกันถึง 5-6% ไม่ทำอะไรก็ไม่ได้ จึงต้องตัดสินใจ เราขอทำแค่ 4 วัน แต่บังเอิญติดวันหยุดยาวช่วงสงกรานต์ด้วยก็เลยกลายเป็น 7-8 วัน โดยมีเงื่อนไขพร้อมยกเลิกการห้าม เราพิจารณากันทุกวัน เชื่อว่าสิ่งเหล่านี้ดีต่อผู้ลงทุน ให้เขาหยุด คิดว่าหุ้นเราดีนะ เราติดตามทุกวัน เราไปปรับตัวซิลลิ่ง-ฟลอร์ด้วย จาก 30% ถ้าวิ่งเกินกว่า 15% ก็หยุด”.
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” เพิ่มเติม