ดัชนีหุ้นไทยต่ำสุดรอบ 4 ปี ลุ้นระทึกราคาทองคำทะลุ 5 หมื่นบาท

“หุ้นดิ่งนิวโลว์-ราคาทองคำ” ดีดทำนิวไฮสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ (Alltime high) ทั้งราคาทองในตลาดโลก และราคาในประเทศ นักวิเคราะห์ชี้เหตุผวา “ทรัมป์” ทำสงครามการค้ากับประเทศอื่นๆต่อเนื่อง ขณะที่ดัชนีหุ้นปิดที่ระดับ 1,270.49 จุด

ผู้สื่อข่าวรายงานราคาทองคำวันที่ 10 ก.พ. โดยสมาคมค้าทองคำประกาศราคาซื้อขายทองคำขึ้นลงรวม 13 ครั้ง ราคาขายออกทองคำแท่งอยู่ที่น้ำหนักบาทละ 46,600 บาท ราคารับซื้ออยู่ที่ 46,500 บาท เพิ่มขึ้น 850 บาท ขณะที่ราคาทองรูปพรรณขายออกอยู่ที่บาทละ 47,100 บาท และรับซื้อที่ 45,661.92 บาท ถือเป็นการทุบสถิติเดิม สร้างสถิติใหม่ โดยทำนิวไฮหรือราคาสูงสุดใหม่ 2,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เป็นประวัติการณ์ (Alltime high) หลังราคาทองคำตลาดโลกทะยานขึ้นทำ Alltime high เช่นกัน

ขณะที่ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทย เปิดตลาดดัชนีปรับตัวลดลงทันที และไหลลงต่อเนื่องจากแรงขายหุ้นทั้งตลาด กดดัชนีลงไปต่ำสุดที่ 1,263.30 จุด ลดลง 18.79 จุด ก่อนพยุงตัวมาปิดทำการที่ระดับ 1,270.49 จุด ลดลง 11.60 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 43,206.59 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 1,993.78 ล้านบาท ดัชนีหุ้นไทยทำนิวโลว์หรือจุดต่ำสุดในรอบกว่า 4 ปี จากระดับ 1,260.08 จุด เมื่อวันที่ 6 พ.ย.2563

นายบดินทร์ พุทธอินทร์ ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บลจ. อีสท์สปริง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยมีแรงขายออกมากดดัชนี เพราะนักลงทุนยังขาดความเชื่อมั่น และมีแรงขายของกองทุน LTF ที่ครบอายุ ท่ามกลางความกังวลสงครามการค้าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯประกาศขึ้นกำแพงภาษีสินค้าจากประเทศอื่นๆเพิ่มขึ้นและขู่เก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียม แต่คาดว่าจะเห็นแรงซื้อของต่างชาติกลับเข้ามาในช่วงกลางปีนี้ หลังภาพรวมเศรษฐกิจไทยได้ปัจจัยหนุนจากการท่องเที่ยวฟื้น นโยบายภาครัฐที่เร่งเบิกจ่าย และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการใช้จ่ายของภาครัฐส่งผลให้ภาคการบริโภคปรับตัวดีขึ้นได้

“แรงขายมาจากความไม่เชื่อมั่น เม็ดเงินลงทุนของต่างชาติยังไม่เข้ามา แต่หากภาครัฐกระตุ้นเศรษฐกิจได้เต็มที่ ทำให้ภาพรวมการบริโภคดี ท่องเที่ยวหนุน มีผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ เป็นปัจจัยช่วยหนุนแรงซื้อให้กลับเข้ามาได้ช่วงกลางปี”

นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า เตรียมหารือกับกระทรวงการคลัง สภาธุรกิจตลาดทุนไทย หาแนวทางกระตุ้นหรือฟื้นตลาดทุน โดยมีแผนระยะกลางและระยะยาวในการสร้างปัจจัยพื้นฐานของตลาดหุ้นแล้ว ส่วนแผนระยะสั้นกำลังปรึกษากันอยู่ ต้องพูดคุยกับหลายฝ่าย แต่เราจะทำเต็มที่และออกมาให้เร็วที่สุด

นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ราคาทองคำที่ปรับตัวขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่มาจากความไม่แน่นอนนโยบายระยะกลาง ในการเก็บภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทำให้ทองคำที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยจากความเสี่ยงดังกล่าว ทองคำมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้น ทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง ประเมินแนวต้านไว้ที่ 2,930 ถึง 2,950 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทองไทยประเมินแนวต้านที่ 47,000 บาท กลยุทธ์ลงทุนให้เก็งกำไรขาขึ้นในระยะสั้น โดยมีจุดตัดขาดทุน (stop loss) ที่ 2,875 และ 2,860 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทองไทยมีจุดตัดขาดทุนที่ 46,200 บาท.

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่