ตลท. เร่งหารือคลังหามาตรการ กระตุ้นตลาดหุ้นระยะสั้น ย้ำต่างชาติไม่ทิ้งหุ้นไทย
Date Time: 10 ก.พ. 2568 16:52 น.
“Summary“
- จากกรณีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง จนเป็นตลาดหุ้นที่ปรับตัวลดลงอันดับต้นๆของโลก ส่งผลให้ทางตลาดหลักทรัพย์ต้องเร่งหามาตรการระยะสั้นเข้ามากระตุ้น และประคองตลาด ซึ่งต้องรอความชัดเจนว่ามาตรการดังกล่าวนั้นคืออะไร
จากกรณีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง จนเป็นตลาดหุ้นที่ปรับตัวลดลงอันดับต้นๆของโลก ส่งผลให้ทางตลาดหลักทรัพย์ต้องเร่งหามาตรการระยะสั้นเข้ามากระตุ้น และประคองตลาด ซึ่งต้องรอความชัดเจนว่ามาตรการดังกล่าวนั้นคืออะไร
อัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จากการปรับตัวลดลงของดัชนีตลาดหุ้นไทยที่ร่วงลงอย่างต่อเนื่องนั้น ทางตลาดหลักทรัพย์อยู่ระหว่างการหามาตรการระยะสั้นเพื่อประคองตลาดหุ้นไทย ซึ่งจะต้องหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงการคลัง หรือภาคเอกชน ส่วนจะชัดเจนเมื่อไหร่นั้น ยังไม่สามารถระบุได้
“ที่ผ่านมาเรามีโครงการระยะยาวและระยะกลาง แต่ในระยะสั้นนั้นเรายังต้องหาวิธีการรองรับอยู่ว่าจะทำอย่างไร ซึ่งเราต้องร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อผลักดันเรื่องนี้”
ทั้งนี้ ในระยะสั้นตลาดหุ้นยังคงผันผวนอยู่ ซึ่งทาง สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) ก็อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไร เช่น TESG จะมีการปรับเปลี่ยนหรือไม่ โดยที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าเม็ดเงินการลงทุนในหุ้นกู้มีมากกว่าเงินที่ไหลเข้ามาในตลาดหุ้นไทย ดังนั้นเราต้องพิจารณาว่าสามารถผลักดันอะไรได้บ้าง ซึ่งการหารือในประเด็นนี้จะมีการเข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังร่วมกับทาง FETCO
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยมักมีมาตรการระยะกลางและระยะยาว เช่น โครงการ JUMP+ ที่เน้นดูแลบริษัทจดทะเบียนและเพิ่มความสามารถทางธุรกิจ ซึ่งอาจต้องใช้เวลา 3 ปีจึงจะเห็นผล เราเชื่อว่าโครงการดังกล่าวจะช่วยยกระดับตลาดหุ้นไทยได้
ต่างชาติถือครองหุ้นไทยเพิ่ม
ดร.ศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการหัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กรและโครงการกลยุทธ์ หัวหน้าสายงานพัฒนาความยั่งยืนตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยในเดือนมกราคม ดัชนีปรับตัวลดลง 6.1% โดยหลัก ๆ มาจากนโยบายของ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ออกมาส่งผลสะเทือนต่อเศรษฐกิจโลก ทั้งการขึ้นภาษีนำเข้ากับแคนาดาและเม็กซิโกที่ 25% ก่อนที่จะมีการเลื่อนออกไป ซึ่งสะท้อนถึงความผันผวนและความปั่นป่วนของตลาด นอกจากนี้ การเดินหน้าขุดเจาะน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ทำให้ต้นทุนน้ำมันลดลง ส่งผลให้แนวโน้มดอกเบี้ยสหรัฐฯ เปลี่ยนไป จากเดิมที่คาดว่าจะลดลง 3 ครั้งในปีนี้ อาจลดลงเหลือเพียง 1 ครั้ง หรืออาจไม่ลดลงเลย
“ตลาดหุ้นไทยเหมือนอยู่ในทะเลที่ถูกสองยักษ์ใหญ่ซัดกันไปมา อย่างไรก็ตาม ภาพรวมเศรษฐกิจโลกยังเติบโตได้ดี IMF ยังคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกจะยังขยายตัวต่อไป ขณะที่ความรุนแรงของสงครามการค้าจะไม่รุนแรงเหมือนก่อนหน้า”
สำหรับการถือครองหุ้นของนักลงทุนต่างชาติ ยังคงมีทิศทางที่เพิ่มขึ้น โดยนักลงทุนต่างชาติถือครองหุ้นไทยเพิ่มขึ้นเป็น 33.84% อย่างต่อเนื่อง จากปีก่อนที่อยู่ที่ 29.39% ซึ่งสะท้อนว่านักลงทุนต่างชาติยังคงให้ความสนใจและถือครองหุ้นไทยอยู่
อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้
Author
