เปิดตัวไปแล้วสำหรับโครงการ “บ้านเพื่อคนไทย” ที่รัฐบาลภายใต้การนำของ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ต้องการให้คนไทยมีบ้าน และสร้างการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ ทั้งนี้แม้ว่าในภาพของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์จะไม่ได้รับผลกระทบ แต่จะมี 3 หุ้นที่จับกลุ่มลูกค้าในกลุ่มเดียวกันอาจได้ต้องเหน็ดเหนื่อย
บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ผลกระทบจากโครงการ “บ้านเพื่อคนไทย” ที่แม้ว่าทั้งกลุ่มอสังหาริมทรัพย์อาจได้รับผลกระทบไม่มากนัก เพราะโครงการให้ความสำคัญกับกลุ่มผู้ที่มีรายได้น้อย แต่ทั้งนี้อาจกระทบกับ 3 หุ้นที่มีสินค้าใกล้เคียงกับโครงการ
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ประเมินว่า โครงการบ้านเพื่อคนไทย จะกดดันผู้ประกอบการที่มีสินค้าหลักที่ระดับราคาดังกล่าว เช่น LPN, SENA, LALIN และผู้ที่มีสินค้าในกลุ่มราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท อย่างไรก็ดีการส่งมอบเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไปในระยะ 2-3 ปี นอกจากนี้ เราคาดจะส่งผลกระทบจำกัดต่อกลุ่มอสังหาริมทรัพย์
โดยเฉพาะผู้ประกอบการในตลาดฯ เนื่องจาก 1) ผู้ประกอบการส่วนใหญ่เน้นสินค้าระดับกลาง-บนขึ้นไป หรือราคามากกว่า 5 ล้านบาท 2) ลูกค้าคนละกลุ่ม บ้านเพื่อคนไทยไม่มีการวางดาวน์ เน้นผู้มีรายได้น้อยหรือไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อธนาคาร 3) โครงการเป็นสิทธิถือครองหรือเช่าระยะยาว 99 ปี และ 4) การตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยไม่ได้ขึ้นกับราคาเพียงอย่างเดียว แต่รวมถึงสภาพแวดล้อม การใช้ชีวิตประจำวัน และทำเล (เพียง 2 จาก 4 พื้นที่ที่ใกล้แหล่งงาน และรฟฟ. ได้แก่ บางซื่อ กม. 11 และสถานีธนบุรี)
สำหรับทิศทางผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ยังไม่น่าสนใจ เราคาดกำไรปกติในไตรมาสที่ 4 ของปี 2567 ของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์จะลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และทำได้เพียงทรงตัวจากไตรมาสก่อนหน้า จากการโอนที่ชะลอตัวตาม Presales ที่ลดลง และอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) โดนกดดันจากการแข่งขันที่รุนแรง
ผลประกอบการปี 2567 ของกลุ่มภายใต้ Coverage เราคาดลดลง 19% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ภาพการเติบโตปี 2568 ท้าทายการฟื้นตัวทำได้อย่างจำกัดจากอุปสงค์ที่ชะลอตัวต่อเนื่อง เราคาดผู้ประกอบการชะลอการเปิดโครงการใหม่ปี 2568 คาดมูลค่าลดลงจากปีก่อน โดยหันมาเพิ่มสัดส่วนโครงการแนวสูง เน้นกลุ่มลูกค้าระดับกลางถึงระดับบน ขณะที่โครงการแนวราบเน้นการระบายสินค้าคงคลังเดิม
บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า สำหรับอุปทานใหม่ที่จะเพิ่มขึ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ประมาณ 6,000 ยูนิตภายในปี 2573 จากโครงการ “บ้านเพื่อคนไทย” ของรัฐบาล น่าจะส่งผลกระทบน้อยกับบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่เราศึกษาอยู่ เพราะโครงการนี้มุ่งเน้นไปที่ผู้มีรายได้น้อยในพื้นที่เฉพาะ ได้แก่ เขตจตุจักร และธนบุรีในกรุงเทพ, เชียงรากในปทุมธานี และอำเภอเมืองเชียงใหม่
โดยตั้งเป้าไปที่โครงการบ้านหรือคอนโดพร้อมตกแต่งใกล้ศูนย์กลางชุมชนเมืองบนที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กำหนดยอดผ่อนเริ่มต้นที่ 4,000 บาทต่อเดือนสำหรับสัญญาเช่านาน 99 ปี ซึ่งต่ำกว่าอสังหาริมทรัพย์แบบ freehold ที่ต้องผ่อนเดือนละ 10,000-20,000 บาทที่ผู้ประกอบการภาคเอกชนขายอยู่
ทั้งนี้ ผู้ที่เข้าร่วมโครงการต้องมีสัญชาติไทย มีรายได้ต่ำกว่า 50,000 บาทต่อเดือน และไม่เคยมีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเองมาก่อน โครงการบ้านเพื่อคนไทยจำกัดให้หนึ่งยูนิตต่อหนึ่งคนต่อหนึ่งโครงการ โดยอสังหาริมทรัพย์ในโครงการนี้ไม่สามารถขายหรือโอนได้ในช่วงห้าปีหลังจากวันที่ลงทะเบียนถือครอง นอกจากนี้ยังห้ามปล่อยเช่าหรือใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดนอกจากเพื่ออยู่อาศัยเท่านั้น
อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่