บล.โกลเบล็ก ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ มีโอกาสรีบาวน์ตามทิศทางตลาดต่างประเทศ โดยสหรัฐฯได้ออกมาเรียกร้องให้กลุ่มฮามาสตกลงหยุดยิง 6 สัปดาห์ และเรียกร้องให้อิสราเอลดำเนินการ ให้มากขึ้น เพื่อเพิ่มความช่วยเหลือไปยังฉนวนกาซา ด้านประธานธนาคาร กลางสหรัฐฯ (FED) สาขาแอตแลนตาได้ออกมาส่งสัญญาณว่า FED จะ เริ่มปรับลดดอกเบี้ยในช่วงฤดูร้อนนี้ แม้ตัวเลขเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับสูง และมีแรงหนุนจากการที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวลง ประกอบกับราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับขึ้นแรงหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานให้กรอบดัชนีสัปดาห์นี้ที่ 1,350-1,400 จุด
ส่วนธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานว่า เศรษฐกิจเดือน ม.ค.2567 มีการฟื้นตัวดี ได้อานิสงส์จากการส่งออกและท่องเที่ยวที่โตเกินคาด ขณะที่การผลิตภาคอุตสาหกรรมยังหดตัวจากอุปสงค์โลกที่ฟื้นตัวช้า
ส่วนปัจจัยลบกดดันความเชื่อมั่นการลงทุนต่อเนื่อง คือ กรณีผู้นำกลุ่มกบฏฮูตีประกาศว่าจะยังคงโจมตีเรือสินค้าในทะเลแดง ขณะที่สหประชา ชาติ (UN) กล่าวว่า การใช้ปฏิบัติการภาคพื้นดินของกองทัพอิสราเอลต่อเมืองราฟาห์จะถือเป็นฝันร้ายของชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา
ด้านคณะบริหารของโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีความกังวลเกี่ยวกับระดับการมีส่วนร่วมของภาคการผลิตจีนต่อการดำเนินงานที่ท่าเรือสำคัญของสหรัฐฯ ขณะที่ ส.อ.ท.รายงานว่า สินค้าด้อยคุณภาพ ทุ่มตลาดไทยกระทบภาคเอกชน ยอดขายสินค้าไทยตกกว่า 30% แนะรัฐเพิ่มความเข้มงวดตรวจสอบสินค้าไม่มีมาตรฐานและจับตาสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์
แนะกลยุทธ์สัปดาห์นี้ เน้นลงทุนหุ้นที่ได้ประโยชน์จากนโยบายฟรีวีซ่าไทย-จีนถาวร โดยหุ้นที่ได้อานิสงส์คือ AOT, AAV, MINT, CENTEL, ERW, SPA และ SKY
ส่วนทิศทางการลงทุนในทองคำยังต้องจับตาการประชุม FOMC ของธนาคารกลางสหรัฐฯในวันที่ 19-20 มี.ค.นี้ อีกทั้งตลาดจับตาประกาศตัวเลขภาคแรงงานและอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ หากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯหดตัวต่ำกว่าคาด และสถานการณ์ในทะเลแดงทวีความรุนแรงขึ้นจะเป็นแรงหนุนต่อราคาทองคำ หากราคาทองคำไม่หลุดแนวรับ 2,000$/oz คำแนะนำทยอยเข้าซื้อสะสม!!
อินเด็กซ์ 51
คลิกอ่านคอลัมน์ “เงาหุ้น” เพิ่มเติม